22 ม.ค. 63 - หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดนราธิวาสนายจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าเยี่ยมนักเรียนนักศึกษาที่โรงเรียนนราธิวาสโดยใช้โอกาสพบปะพูดคุยกับนักเรียนโดยนายจุรินทร์กล่าวว่าการมาเยี่ยมทั้งนี้เนื่องจากได้พบกับอาจารย์ที่รับผิดชอบโครงการของเด็กนักเรียนที่นี่แล้วแจ้งว่ายังมีน้องนักเรียนม.6 กำลังติวกันอยู่อีกหลายจุดจุดละ500- 600 คนรวมทั้งในโรงแรมอิมพิเรียล100 คนจึงได้มีโอกาสแวะมาทักทายและคุยกับติวเตอร์และจุดสุดท้ายครูแนะนำให้แวะมาที่โรงเรียนนราธิวาสแห่งนี้ด้วย 

อย่างไรก็ตามตนเคยมีหน้าที่ที่กระทรวงศึกษาฯ(รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) มาระยะเวลาหนึ่งวันนี้มาประชุมครม.ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ย้อนกลับไปตอนที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการนั้นได้เห็นความสำคัญเรื่องหนึ่งคือเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เด็กในเมืองหลวงเด็กในส่วนกลางศูนย์กลางความเจริญจะได้เปรียบเด็กที่อยู่ต่างจังหวัดและได้เปรียบเด็กที่อยู่ในชนบทโดยเฉพาะบนหุบเขาชายขอบชายแดนจะเสียเปรียบมากเป็นพิเศษเพราะการศึกษาของเราในหลายหลายพื้นที่ยังมีความแตกต่างกันดังนั้นทางหนึ่งที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ก็คือการเปิดโอกาสให้เด็กไม่ว่าอยู่ที่ไหนในประเทศมีโอกาสได้พบกับครูโรงเรียนเดียวกันสอนทั้งประเทศอย่างน้อยเมื่อมีติวเตอร์ซึ่งเป็นบุคคลที่ตกผลึกในทางวิชาการและมีศักยภาพและศิลปะในการอธิบายรวบยอดให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้รอบหนึ่งและช่วยไฮไลท์ประเด็นสำคัญให้พวกเราได้รับทราบ

"ติวเตอร์จึงมีความสำคัญและในยุคที่ผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาได้ตั้งติวเตอร์ชาแนลเป็นติวเตอร์ทางโทรทัศน์ทุกวันเสาร์ทางช่อง11 จะมีติวเตอร์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมาติวภาษาอังกฤษคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และทุกวิชาที่สำคัญให้น้องทุกคนได้มีโอกาสเรียนพร้อมกันทั่วประเทศไม่ว่ายากดีมีจนจะอยู่ที่ไหนของประเทศก็จะมีโอกาสแต่น่าเสียดายที่ติวเตอร์ชาแนลอยู่ได้ไม่นานเพราะเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็เปลี่ยนไปสุดท้ายอาจจะแปลงรูปมาเป็นติวเตอร์ที่มาสอนกับน้องน้องโดยตรงซึ่งก็ถือว่าดีเพราะโทรทัศน์บางครั้งเราก็ส่งผ่านปฏิสัมพันธ์สองทางไม่ได้แต่ติวเตอร์จะไปครบทั่วประเทศไม่แน่ใจว่าสามารถทำได้บนภูเขาชายขอบจังหวัดไกลๆจะได้รับโอกาสอย่างเราหรือเปล่านั่นคือสิ่งที่ต้องคิด" นายจุรินท์กล่าว 

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าในเรื่องติวเตอร์ที่เคยทำพวกเราสามารถดูย้อนหลังได้และมาทบทวนย้อนหลังโดยติวเตอร์เก่งๆที่สอนทางออนไลน์ให้พวกเราได้รับทราบซึ่งอาจจะเป็นไปได้และต่อไปในอนาคตที่จะผลักดันเรื่องนี้เพื่อเด็กรุ่นหลังหลังของเราที่อยู่ที่ไหนก็ตามรวมทั้ง3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีโอกาสตนเห็นความสำคัญของติวเตอร์เพราะก็เป็นเด็กบ้านนอกเกิดเป็นคนพังงาปักษ์ใต้บ้านเราเรียนจบชั้นป.7สมัยนั้นตนได้ที่หนึ่งของจังหวัดและได้ที่หนึ่งมาหลายครั้งไม่ใช่เฉพาะตอนป.7 แต่ว่าพอไปสอบเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบ(กรุงเทพมหานคร) ก็แทบแย่ถ้าไม่มีโอกาสไปติว3 เดือนก่อนสอบคงไม่มีวันนี้เพราะหลายเรื่องไม่รู้มาก่อนมารู้ตอนติวจากโรงเรียนกวดวิชาได้เจออาจารย์เก่งๆเหมือนกับที่พวกเรากำลังเรียนอยู่ผมจึงให้ความสำคัญซึ่งอนาคตตนก็ไม่อยากให้มีติวเตอร์แล้วซึ่งถ้าจะไม่มีก็ต่อเมื่อคุณภาพของการศึกษาของโรงเรียนทุกโรงเรียนเท่ากันมาตรฐานเดียวกันไม่ว่าโรงเรียนส่วนกลางในกรุงเทพหรือโรงเรียนห่างไกลสอนเหมือนกันเมื่อนั้นติวเตอร์ไม่จำเป็น 

"วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมและจุดประกายความคิดให้กับพวกเราได้รับทราบและขอให้พวกเราทุ่มเทเวลากับอาจารย์กับการสอนและสรุปรวบยอดที่เราเรียนให้ได้สูงสุดเพราะผมไม่คิดว่าอาจารย์จะมาบ่อยขอให้พวกเราตั้งใจดีใจที่ได้พบกับน้องๆและขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาที่น้องนับถือได้โปรดดลบันดาลให้ทุกคนสมความปรารถนาและไปถึงความฝันที่เราฝันไว้เพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่าสำหรับพวกเราและใช้ศักยภาพของเราในอนาคตเพื่อประเทศชาติของเราต่อไป" นายจุรินทร์กล่าว