ที่แท้ประวัติศาสตร์มีมาแล้ว อาจารย์อัษฎางค์ ยมนาค เล่า"เมืองอู่ฮั่น"เคยเกิดโรคระบาดสมัย"สามก๊ก" จน"โจโฉ" ต้อง"แตกทัพเรือ"


เพิ่มเพื่อน    

 

25ม.ค.63-อาจารย์อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ได้โพสต์เฟสบุ๊ก@Atsadang Yommanak หัวข้อ"ประวัติศาสตร์โรคระบาดในเมือง“อู่ฮั่น'ที่คุณ...อาจไม่เคยรู้ " ดังนี้


ประวัติศาสตร์โรคระบาดในเมือง“อู่ฮั่น'
ที่คุณ...อาจไม่เคยรู้

เมื่อราว 17 ศตวรรษที่ผ่านมา โจโฉเคยพ่ายศึกผาแดง ด้วยโรคระบาดในเมืองอู่ฮั่น เมืองเดียวกันกับที่กำลังเกิดโรคระบาด ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

............................................................................
ไวรัสโคโรน่าคร่าชีวิตชาวจีนในอู่ฮั่นถึง 41 ราย และกำลังระบาดไปทั่วโลก มีรายงานว่าราว 1,300 คนทั่วโลกติดเชื้อแล้ว

เมืองอู่ฮั่น อยู่ในมณฑลหูเป่ย มีพื้นที่ 8,467.11 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี และเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยสามก๊ก

............................................................................
เหตุการณ์ตอนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากในประวัติศาสตร์ยุค สามก๊ก คือ”ศึกผาแดง” หรือในสามก๊กภาคภาษาไทยเรียกว่า “โจโฉแตกทัพเรือ”

เล่าว่า หลังจากเล่าปี่ทิ้งเมืองซินเอี๋ยและห้วนเสีย อพยพราษฎร์หนีการตามล่าของทัพโจโฉไปที่เมืองแฮเค้าที่เล่ากี๋ครองอยู่ จากนั้นจึงส่งขงเบ้งไปเจรจากับซุนกวนให้ร่วมกันทำศึกกับโจโฉ

กองทัพของโจโฉเป็นทหารจากภาคเหนือ เมื่อลงใต้ไม่คุ้นเคยอากาศ จึงล้มป่วย รวมทั้งทหารที่เคยรบบนหลังม้า เมื่อต้องอยู่ในเรือเจอคลื่นโคลงเคลงก็เมาคลื่นจนหมดสภาพ

โจโฉจึงคิดแก้ปัญหาเรือโคลงด้วยการใช้โซ่เหล็กยึดกองเรือไว้ด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาทหารเมาคลื่น แต่ผลเสียที่โจโฉคิดไม่ถึงคือ เรือรบทุกลำสูญเสียอิสระภาพในการเคลื่อนไหว

อุยกายมองเกมส์ทะลุ จึงเสนอจิวยี่แม่ทัพใหญ่ว่า น่าจะฉวยโอกาสนี้โจมตีกองเรือโจโฉด้วยการจุดไฟเผา

โดยอุยกายออกอุบายว่า เกิดความเห็นขัดแย้งกับจิวยี่จนแตกหัก แล้วอุยกายจึงติดต่อขอไปสวามิภักดิ์กับโจโฉ

โดยอุยกายล่องเรือที่ขนหญ้าแห้งราดน้ำมัน ที่พร้อมจุดไฟเผา แล่นเข้าไปหากองทัพเรือ

ในขณะที่ขงเบ้งสร้าง “ศาลาเจ็ดดาว” ทำพิธี “เรียกลม เรียกฝน”จนลมพายุมาช่วยโหมเผาทัพเรือโจโฉจนพ่ายแพ้ยับเยิน

ทำให้หน้าผาบริเวณนี้ปรากฏเป็นสีแดงเพลิงไปทั่วทั้ง เป็นที่มาของชื่อ 'ผาแดง'

............................................................................
ซึ่งในนิยายนั้น สร้างภาพให้ขงเบ้งเป็นจอมขมังเวทย์ที่มีวิชาที่ติดต่อกับเทวดา เพื่อช่วยเรียกฟ้าเรียกฝน

แต่ในยุคปัจจุบันมีคนวิเคราะห์ว่า ในเหตุการณ์จริงนั้น ขงเบ้งคงใช้วิชาโหราศาสตร์ ที่สามารถคำนวณดวงดาว และสามารถพยากรณ์สภาพอากาศ จนรู้ว่าจะเกิดลมเปลี่ยนทิศ จนนำไปสู่ไฟที่ถูกลมโหมพัดกระหน่ำจนกองทัพเรือของโจโฉ จนทำให้ผานั้น แดงไปด้วยเพลิงไฟ จนเป็นที่มาของชื่อ “ศึกผาแดง”

............................................................................
แต่ในพงศาวดารยุคสามก๊ก บันทึกเอาไว้ว่า

พงศาวดารสามก๊ก ภาคจ๊กก๊ก บทประวัติเล่าปี่เล่าว่า

“ซุนกวนส่งจิวยี่และเทียเภาส่งทัพเรือนับหมื่นร่วมกําลังกับเล่าปี่ รบกับโจโฉที่เซ็กเพ็ก เผาทัพเรือโจโฉจนแตกพ่ายยับเยิน”

ส่วนพงศาวดารสามก๊ก ภาควุยก๊ก บทประวัติโจโฉ ไม่มีเรื่องการโจมตีด้วยไฟ แต่บอกว่า เกิดโรคระบาด

“โจโฉยกทัพถึงเซ็กเพ็ก รบเล่าปี่ ไม่ได้เปรียบเพราะเกิดโรคระบาด ไพร่พลตายมาก จึงยกทัพกลับ”

รวมทั้งตัวโจโฉเองก็ไม่ยอมรับ ว่าแพ้เพราะถูกโจมตีด้วยไฟ

และพงศาวดารสามก๊ก ภาคง่อก๊ก บทประวัติจิวยี่ บันทึกไว้ว่า หลังจากศึกเซ็กเพ็กแล้ว โจโฉเขียนจดหมายถึงซุนกวน โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า

“คราวศึกเซ็กเพ็ก เกิดโรคระบาด ข้าจึงเผาเรือถอยทัพกลับเอง”

............................................................................
จากบันทึกในพงศาวดาร จะเห็นได้ว่า เกิดโรคระบาด ที่คร่าชีวิตทหารในกองทัพเรือของโจโฉ

เป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นในเมือง”อู่ฮั่น”

เมืองที่ในอีก 17 ศตวรรษต่อมา กำลังเกิดโรคระบาด ที่กำลังระบาดไปก็ทั่วโลก

............................................................................
หมายเหตุ เล่าสู่กันฟังด้วยสาระของพงศาวดาร และบันเทิงจากนิยาย พร้อมผูกเรื่องเข้ากับเหตุการณ์ในปัจจุบัน อย่าได้จริงจังคิดมาก ถือว่าอ่านเพลินๆ กับความบังเอิญที่อาจจะไม่บังเอิญ

อัษฎางค์ ยมนาค
รวบรวม เรียบเรียง

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"