'คุณหญิงแมงมุม'ฟาดไม่ยั้ง ฉะโรงพยาบาลดัง เลี้ยงไข้ 15 วันฟัน 1 ล้าน


เพิ่มเพื่อน    

 

          มีอาการเจ็บป่วยรุมเร้า ทำให้ต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่งานนี้กลับทำเอา คุณหญิงแมงมุม หรือ หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล ธิดาในหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล และสามี ดอลล่าร์ หรือ พลตรี พัชร รัตตกุล  ทายาทเจ้าของผลิตภัณฑ์ในเครือหาดทิพย์ ถึงขั้นหัวเสีย รับไม่ได้กับการบริการของโรงพยาบาลดังกล่าว โดยออกมาแฉว่าเจอการรักษาแบบเอาเปรียบ โดนเลี้ยงไข้ เข้าโรงพยาบาลไป 15 วัน โดยฟันค่ารักษาไป 1 ล้านบาท

          โดย คุณหญิงแมงมุม ได้นำประสบการณ์ดังกล่าวมาบรรยายผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “จะเอาเปรียบคนไข้ไปถึงไหน แก้วใส่ยาพลาสติกเล็กยังคิด 5 บาท ห้ามใช้ซ้ำด้วย อยู่มา 2 ปี ให้แต่ยาแก้ปวดแต่ไม่คิดที่จะรักษาหรือหาเหตุผล เลี้ยงไข้ไปเรื่อยๆ 15 วันล้านนึง เป็นเเค่ค่าห้องกับค่ายาเเก้ปวด พยาบาลก็ไม่ใส่ถุงมือจ๊ะ เรื่องติดเชื้อคือไม่สนเลย ห้องอาบน้ำก็มีแต่น้ำเย็น นี่ขนาดเป็นตึกใหม่นะ ต้องไปใช้ห้องของพยาบาลซึ่งเล็กเท่าตู้ไม้กวาด

          เรื่องโกหกนี่ประจำเลย พูดอย่าง ทำอีกอย่าง ตกลงกันเเล้วว่าจะมีเเพทย์ดูเเล มีเวรเช้า-เย็น พอถึงเวลาจริง เวลาวิกฤติไม่เคยตามได้ ติดเคสบ้างล่ะ ไม่สะดวกพูดบ้างล่ะ สรุปคนไข้ปวดทรมาณไป ความดันพุ่ง 170 -180

 

 

          ช่างมันป่วยนิดหน่อยก็ส่งขึ้น icu อ้างเพื่อความปลอดภัย รวยไม่พออีกหรอ เราเป็นคนไข้ ไม่มีปากไม่มีเสียงก็ต้องทำตามที่รพ.บอก เคยหาเส้น iv โดนไป 25 ครั้ง เข็มปักคาคอ สุดท้ายก็ไม่ได้เส้น นี่ขนาดหมอวิสัญญีนะ ถ้ารู้ว่าคนไข้ไม่มีเส้นก็ควรหาทางเลือกอื่นมาให้ไหม คนไข้ก็ได้แต่นอนตามยถากรรมเพราะรอให้ยา ก็ทนไปสิ สุดท้ายโดนแทงฟรี ยาก็ไม่ได้ แล้วยังต้องเจ็บตัวอีก

          อันนี้เล่าขำๆ นะ หมอกายภาพคนนึงมาทุกวัน พูดเหมือนเดิมทุกวันเหมือน robot แต่เขามาแต่ละทีก็ได้เงินไง เลยมาทุกคืนเลย ที่สำคัญที่สุดคือสาเหตุใหญ่ของการล้มป่วยคือการใช้ยาที่สกัดมาจากฝิ่นจนเกินขนาดเเละเป็นเวลายาวนาน โดยเเพทย์ที่สั่งใช้ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น เเละไม่บอกคนไข้เเม้เเต่น้อยถึงความเสี่ยงต่อการติดยาหรือโรคที่จะตามมา

          ในกรณีนี้ได้เเก่โรค medication over-use headache หรือการปวดหัวเเบบเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากการใช้ยาเกินขนาด ทำกับคนไข้ขนาดนี้เเต่ไม่เคยเเสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น พอต้องเลิกยาเเพทย์ที่นี่ก็ทำไม่สำเร็จ กว่าจะผ่านกระบวนการเลิกยาทั้งหมดได้ก็เเทบเอาตัวไม่รอด  สุดท้ายกลับมาสั่งยาตัวเดิมให้ เลยกลับไปติดอีก ต้องกระเสือกกระสนไปพึ่งรพ. จุฬาฯ จนเลิกได้เด็ดขาด

          ทำคนไข้ป่วยไม่พอ ยังมาเอาเปรียบกันอีก พอรักษาไม่ได้ โยนความผิดให้กับคนไข้ว่าไม่ให้ความร่วมมือบ้างล่ะ ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของรพ. บ้างล่ะ โกหกสิ้นดี ถามว่าคนไข้สั่งยาเองได้ไหม ทุกอย่างถ้าหมอไม่สั่งคนไข้จะทำได้อย่างไร เวรกรรม นอกจากไม่มีจรรยาบรรณแล้วยังหน้าด้านอีก ขอแนะนำว่าอย่าไปเลยรพ. นี้ถ้ามีทางเลือก นี่โง่ไปหลายปี พอไปรพ.ใหม่เห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง พยาบาลทุกคนล้าง alcohol เเละใส่ถุงมือทุกครั้งที่ทำหัตถการ หมอมีการวางแผนให้คนไข้ มีเมตตาธรรม มีจรรยาบรรณไม่เหมือนรพ.เก่า ดีใจมากที่ได้ย้ายมา…อุ้ย ลืมบอก รพ. นี้อยู่เเถวถนนเพชรบุรีจ๊ะ”

 

 

          พร้อมกันนี้คุณหญิงแมงมุมยังมีก๊อก 2 ขอโพสต์บรรยายลงอินสตาแกรมอีกครั้งว่า  “ที่สำคัญที่สุดคือสาเหตุใหญ่ของการล้มป่วยคือการใช้ยาที่สกัดมาจากฝิ่นจนเกินขนาดเเละเป็นเวลายาวนาน โดยเเพทย์ที่สั่งใช้ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น เเละไม่บอกคนไข้เเม้เเต่น้อยถึงความเสี่ยงต่อการติดยาหรือโรคที่จะตามมา ในกรณีนี้ได้เเก่ โรค medication over-use headache หรือการปวดหัวเเบบเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากการใช้ยาเกินขนาด ทำกับคนไข้ขนาดนี้เเต่ไม่เคยเเสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

          พอต้องเลิกยาเเพทย์ที่นี่ก็ทำไม่สำเร็จ กว่าจะผ่านกระบวนการเลิกยาทั้งหมดได้ก็เเทบเอาตัวไม่รอด สุดท้ายกลับมาสั่งยาตัวเดิมให้ เลยกลับไปติดอีก ต้องกระเสือกกระสนไปพึ่งรพ. จุฬาฯ จนเลิกได้เด็ดขาด ทำคนไข้ป่วยไม่พอ ยังมาเอาเปรียบกันอีก พอรักษาไม่ได้ โยนความผิดให้กับคนไข้ว่าไม่ให้ความร่วมมือบ้างล่ะ ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของรพ. บ้างล่ะ โกหกสิ้นดี ถามว่าคนไข้สั่งยาเองได้ไหม ทุกอย่างถ้าหมอไม่สั่งคนไข้จะทำได้อย่างไร เวรกรรม นอกจากไม่มีจรรยาบรรณแล้วยังหน้าด้านอีก

          ขอแนะนำว่าอย่าไปเลยรพ. นี้ถ้ามีทางเลือก นี่โง่ไปหลายปี พอไปรพ.ใหม่เห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง พยาบาลทุกคนล้าง alcohol เเละใส่ถุงมือทุกครั้งที่ทำหัตถการ หมอมีการวางแผนให้คนไข้ มีเมตตาธรรม มีจรรยาบรรณไม่เหมือนรพ.เก่า ดีใจมากที่ได้ย้ายมา”

 

 

            และในส่วนของสามี พลตรี พัชร รัตตกุล  ก็ได้โพสต์ภาพข้อความ”ความเลวและความไร้จรรยาบรรณของผู้บริหารของ รพ.แห่งหนึ่งในกทม” พร้อมระบุข้อความเหมือนที่ภรรยาได้บรรยายไว้ ซึ่งงานนี้มีผู้ที่เคยเข้าทำการักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย

          จากนั้นเจ้าตัวได้โพสต์ภาพข้อความอีกครั้งว่า”ต่อ…จำเป็นต้องให้เพื่อนฝูงรู้ไว้ พร้อมระบุข้อความว่า “สรุป: บังอาจนัดเราไปบอกว่าขอปฏิเสธการรักษา ทั้งๆ ที่เราพาภรรยาย้ายหนีออกมาเป็นเวลาได้ 9 วันเเล้ว เพราะทนต่อความเสื่อมโทรมล้มเหลวของระบบ เเละเเนวทางการรักษาของโรงพยาบาลนี้ไม่ได้ เราก็พาซื่อนึกว่าจะขอนัดเพื่อหารือหาเเนวทางเพื่อจะปรับปรุงการรักษาเเละการบริหารจัดการ ที่ไหนได้ นัดเราเพื่อจะมาบอกว่าโรงพยาบาลนี้ไม่ต้องการรักษาภรรยาของเราเเล้ว

          อ้างเหตุผลว่ารักษามา 2 ปีไม่สำเร็จ เพราะ 1. คนไข้ไม่ให้ความร่วมมือกับหมอในเรื่องเเนวทางการรักษา 2. คนไข้ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของโรงพยาบาล ซึ่งทั้ง 2 ข้อนี้เป็นการโกหกมดเท็จอย่างไร้ยางอาย ข้อที่ 1. ถามว่าคนไข้ที่ป่วยปางตายจะไม่ให้ความร่วมมือกับหมอได้อย่างไรเเละเพื่ออะไร ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเเม้เเต่ครั้งเดียวที่คนไข้ขัดขืนดื้อดึงต่อคำเเนะนำของเเพทย์ หลังจากที่ได้พูดจาหารือกันจนได้ข้อตกลงเเล้วทุกครั้ง ข้อที่ 2. คนไข้จะไม่ปฏิบัติตามกฏของโรงพยาบาลได้อย่างไร ถ้าจะฝ่าฝืนจะเอาเรี่ยวเเรงที่ไหนมาทำ หรือถ้าเป็นความจริง ทำไมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไม่ห้ามปราม

 

 

          เรื่องของเรื่องคือ เป็นการโกหกเพื่อนำมาอ้างปัดความรับผิดชอบเท่านั้นเอง ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงเเม้จะรู้ว่าการรักษาที่นี่มันห่วย เเละโรคที่เป็นอยู่ก็เกิดมาจากการใช้ยาที่เกินขนาดของหมอที่นี่ เเต่ก็ไม่เคยคิดที่จะโทษหรือคิดที่จะฟ้องร้องกับโรงพยาบาล เพราะเห็นว่าหมอส่วนใหญ่ที่ร่วมให้การรักษามีเจตนาดีถึงเเม้จะใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องมาตั้งเเต่เเรก เเละด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกันมาเเต่ก่อน

          การเรียกเรามาประชุมเพื่อเเจ้งปฏิเสธการรักษาให้กับภรรยาของเรานอกจากจะเป็นการกระทำที่ถ่อยเเละหน้าด้านเเล้ว ยังผิดกฏหมายอีกด้วย ดัดจริตทำมาเป็นลายลักษณ์อักษร คงให้ทนายร่างมา กันโดนฟ้อง มีเเถมติ่งท้ายด้วยว่า จะยอมให้การรักษาต่อเมื่อในกรณีเป็นอันตรายถึงชีวิต เราตอบทันที่ว่าปฏิเสธมา เรารับฟังได้ เราย้ายหนีไปก่อนอยู่เเล้วเพราะขืนปล่อยไว้ต่อไป คงตายเเน่ เเละเราก็มีศักดิ์ศรี ถึงเเม้จะเป็นประชาชนตัวเล็กๆ ไม่ใช่มหาเศรษฐีผู้มากบารมี เเต่ถ้าถูกรังเเกถูกกระทำก็จะต้องมีการตอบโต้อย่างเหมาะสม ดังนั้นเราบอกว่าเรารับฟังได้ เเต่เราไม่ยอมรับในเนื้อหาทั้งหมดของหนังสือฉบับนี้ เพราะเป็นความเท็จทั้งสิ้น

          มาถึงตอนนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันอีกต่อไป จึงต้องเอาความจริงมาพูด เพื่อไม่ให้เพื่อนฝูงที่อาจจะใช้บริการทางการเเพทย์ที่นี่ต้องมาเจอสภาพเดียวกับเรา  ใครรักดอลล่าร์ ช่วย repost ด้วยครับ”

 

 

 

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @yingmangmoomyugala @dollar_rattakul


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"