วิถี...“ชัย ชิดชอบ" อดีตประธานรัฐสภา ต้นแบบคนการเมือง-ผู้บุกเบิก “บุรีรัมย์”


เพิ่มเพื่อน    

         คอการเมืองทั่วประเทศและลูกหลานชาวบุรีรัมย์มีอันต้องเสียใจต่อการสูญเสียปูชนียบุคคล อย่าง “ปู่ชัย” ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา อย่างไม่มีวันกลับ

                “นายชัย” มิเพียงเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋า แต่นี่คือเสาหลักทางความคิดให้กับ “นายเนวิน ชิดชอบ” นักพัฒนาแห่งจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งคนการเมืองหลากหลายมากมาย

                นายชัยพูดอยู่เสมอว่า “ถ้าตั้งใจเสียอย่าง ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้” แนวทางดังกล่าวถ่ายทอดไปถึงลูกชายทั้ง 2 คน ทั้งนายเนวินและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ขึ้นชื่อว่าเป็นคนทำงานหนัก ทำงานจริงจัง แบบไม่มีวันหยุด และใส่ใจทุกละเอียด  

                นอกจากนี้ยังมีคำสอนต่างๆ ที่น่าสนใจ และถือเป็นหลักดำเนินชีวิตของผู้คนทุกสาขาอาชีพ อย่าหลงละเลงในลาภ ยศ สรรเสริญ สะท้อนจากนายเนวิน ชิดชอบ กล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก The Reporters หัวข้อ EXCLUSIVE: ลมหายใจของ “ชัย ชิดชอบ” จาก "เนวิน ชิดชอบ” ลูกชาย ผู้สืบทอดเจตนารมณ์ ที่น่าสนใจตอนหนึ่งว่า  ...อย่าทิ้งชาวบ้าน อย่าเอาเปรียบชาวบ้าน ให้รักชาวบ้าน อันนี้เป็นหลักที่ยึดแนวทางของคุณพ่อมาตลอด เลี้ยงคน ใช้คน ดูแลคน ต้องรับผิดชอบ แล้วให้จำว่าคนที่อยู่กับเราในยามทุกข์ คือคนที่รักเราจริง อย่าไปหลงกับคนที่มาอยู่ใกล้เราเวลาเราสุข ซึ่งมันพิสูจน์ทุกอย่างเป็นไปตามนั้นหมด

                “พ่อเตือนอยู่ตลอด เอ็งเป็นท่านรัฐมนตรี ไอ้พวกที่มา  วันนั้นเอ็งไม่ได้เป็นนะ หายหมดแหละ แล้วมันก็จริงอย่างที่พ่อสอน เพราะว่าคนที่อยู่กับเราเวลาที่เราไม่ได้มีตำแหน่ง  ไม่ได้ใหญ่โต วันที่เรามีตำแหน่งคนพวกนี้ถอยห่างหมดเลย ไม่เคยมาใกล้เราเลย เพราะเข้ามาไม่ถึงเรา แต่วันที่เราไม่มีตำแหน่งพวกนี้กลับมาหมดเลย พวกที่เคยแวดล้อมเรา หายไปหมดเลย ถามว่าพี่รู้ไหม พี่รู้ บางทีก็อยู่ด้วยความรู้สึกอึดอัด...” เนวินกล่าว

                สำหรับประวัติของ “ปู่ชัย” มิได้แตกต่างจากนักการเมืองท่านอื่น แต่สิ่งที่โดดเด่นคือผู้วางรากฐาน “บุรีรัมย์” ส่วนตำแหน่งสูงสุดของ “ปู่ชัย” คือประธานรัฐสภา แต่สิ่งที่ชาวบุรีรัมย์จำได้ดีคืออัตลักษณ์ความเป็น “พ่อชัย” ที่พร้อมรับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน และเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน  เป็นที่พึ่งของชาวบุรีรัมย์มาในหลายยุค หลายสมัย สร้างชื่อให้ตระกูล “ชิดชอบ” จนโด่งดังทั่วทั้งจังหวัด

                แถม “บุตรชายทั้งคู่” ยังพาอดีตเมืองที่ขึ้นชื่อว่ายากจนลำดับต้นๆ ของประเทศ ที่ผู้คนต้องตำน้ำกิน ส่งผลให้ เมืองบุรีรัมย์เจริญขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยใช้กีฬา ท่องเที่ยว ควบคู่การพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เป็นตัวนำเพื่อแก้ปัญหาปากท้อง จนชาวบ้านภาคภูมิใจที่เป็นลูกหลานชาวบุรีรัมย์

                ความสำเร็จของเมืองบุรีรัมย์อาจทำให้คนคิดว่ามาจาก เนวิน ชิดชอบ แต่ไม่ใช่ เพราะมันมาจากคนบุรีรัมย์ และมาจากความตั้งใจที่จะตอบแทนคุณแผ่นดิน

                “พ่อกับแม่พี่สอนว่า สุรินทร์เป็นบ้านเกิด บุรีรัมย์เป็นเมืองโต ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินทั้งสองเมืองนี้ให้ได้ พี่ทำได้เกือบครึ่ง แต่ยังไม่ได้ไปทำอีกครึ่งที่สุรินทร์ ซึ่งตั้งใจว่าจะต้องทำอะไรเพื่อตอบแทนแผ่นดินเกิดและเมืองที่ให้มีพ่อมีแม่เกิดที่สุรินทร์ ความตั้งใจพี่อยากจะทำบุรีรัมย์และสุรินทร์ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่”

                ขณะที่ภาพจำของนายชัย ชิดชอบ อาจมีมุมมองออกไปหลากหลายแล้วแต่ที่ได้รับข้อมูลกันไป แต่หากไปถามคนเมืองนี้กลับมองว่า สิ่งที่พ่อชัยทำในฐานะ ส.ส. ได้สร้างประโยชน์นานาประการ

                “นายชัย ชิดชอบ ในอดีตเคยถูก ส.ส.ประณามว่าเป็นส.ส.เอาเปรียบจังหวัดอื่น เห็นแก่ได้ เอางบมาบุรีรัมย์ เป็นส.ส.น้ำเน่า ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราแลกภาพลักษณ์ เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานของคนบุรีรัมย์ นี่คือบทพิสูจน์ว่า ส.ส.คนอื่นอาจจะห่วงภาพลักษณ์ของตัวเอง มากกว่าคนที่เลือกตัวเองมา แต่ชัย ชิดชอบ ไม่เคยลังเลที่จะต้องมารักษาภาพลักษณ์ ในขณะที่พี่น้องที่เลือกมายังลำบาก ผมเชื่อว่าคนบุรีรัมย์สัมผัสได้ เราไม่เคยคิดถึงตัวเราเองก่อนคิดถึงเมือง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เรายังคิดเหมือนเดิม ยังทำเหมือนเดิม” นายเนวินเล่าผ่าน เพจเฟซบุ๊ก The Reporters พร้อมทั้งกล่าวย้ำว่า “ลมหายใจของนายชัยคงไม่แตกต่างจากพี่ เพราะเรามีลมหายใจเดียวกัน คือลมหายใจของคนบุรีรัมย์

                ขณะที่บทบาทของนักการเมือง “ปู่ชัย” เริ่มเป็นกำนัน ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนที่จะขยับสู่เส้นทางการเมืองที่ใหญ่ขึ้นในเวลาต่อมา โดยเริ่มลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรก ภายใต้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2500 ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์หลายสมัย  พ.ศ.2512 (ผู้สมัครอิสระ) พ.ศ.2522 (พรรคประชาราษฎร์) พ.ศ.2526 (พรรคกิจสังคม) พ.ศ.2529 (พรรคสหประชาธิปไตย) 

                 พ.ศ.2535 และ 2538 (พรรคชาติไทย) พ.ศ.2539 (พรรคเอกภาพ) พ.ศ.2548 ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคไทยรักไทย) พ.ศ.2549 ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ.2550 เป็น ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กระทั่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาในปี 2551

                อีกสิ่งที่น่ายกย่อง คนทั่วไปไม่ค่อยรู้คือบทบาทนักวิชาการ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยกย่องไว้ผ่านส่วนเพจเฟซบุ๊ก Ringside การเมือง ตอนหนึ่งว่า “ท่านเป็นคนเก่ง ไม่ใช่แค่บทบาททางการเมือง เพราะตนเคยเห็นบทบาทตอนเป็นประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า ท่านชัยคุยกับนักวิชาการเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนและหน่วยกิต ท่านถือว่าเก่งมาก พูดถึงเนื้อหาทางวิชาการอย่างชัดเจน ถือว่าท่านสันทัด”   

                ส่วนบทบาทการเมือง ถือเป็นบุคคลที่ควรเอาแบบอย่าง เพราะยึดหลักการเจรจาและนักประนีประนอม หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เห็นได้จากการทำหน้าที่ในประธานสภาฯ ของ “ปู่ชัย” จึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในคราวที่สภากำลังเดือด เพราะมีแต่คนโยนฟืนลงไปในกองไฟ 

                แต่ “ปู่ชัย” ถือเป็นผู้นำการ “ชักฟืนออกจากกองไฟ"   โดยอาศัยประสบการณ์ ไหวพริบ จัดการแก้ปัญหาไป  ก่อนยึดตัวหนังสือและข้อกฎหมาย ที่บางครั้งแข็งกระด้าง เกินไปในสถานการณ์เช่นนั้น สาเหตุที่ท่านเลือกแนวทางนั้น เพราะนายชัยเป็นคนที่เกิดมาจากศูนย์ และต่อสู้กับการถูกเอารัดเอาเปรียบมาตลอดชีวิต จึงรู้เทคนิคพาองค์กรให้ไปรอดได้

                วันนี้ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภาจากไปแล้ว  แต่ได้ทิ้งเคล็ดลับวิชาทางการเมืองให้คนการเมืองรุ่นหลังได้เดินตาม พร้อมทั้งเป็นผู้วางรากฐานพัฒนาเมืองบุรีรัมย์  จนเป็นเมืองชั้นนำของประเทศถึงทุกวันนี้.

                                                                               

พระราม 9 โพสต์

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"