กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

      ชั่วโมงนี้ว่ากันว่าแวดวงการเมืองร้อนแรง เพราะนอกจากฝ่ายค้านกำลังจะเปิดอภิปรายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกแล้ว ในแวดวง สีกากี ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อน ข่าวเด้ง!!! ข่าวย้าย!!! ข่าวฟ้องร้อง!!! ข่าวความขัดแย้ง!!! ออกมาแทบจะรายวัน ขนาด บิ๊กช้าง-พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.ที่โดนคำสั่ง บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ไปช่วยราชการ ศปก.ตร. ขาดจากหน้าที่เดิมที่ได้รับมอบหมายให้ดูงานสืบสวน โผล่มานั่งร่วมประชุม ก.ตร.เมื่อวันพุธที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มานั่งหัวโต๊ะประธาน ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เพราะแม้ตามกฎ ตามระเบียบ บิ๊กช้าง จะเป็น รอง ผบ.ตร.อยู่ ยังสามารถเข้าร่วมประชุม  ก.ตร.ได้ แต่ความเหมาะสมก็กลายเป็นคำถามที่หลายคนข้องใจ แถมยังเมาธ์คำสั่งเด้ง บิ๊กช้าง ครั้งนี้ของ เพื่อนแป๊ะ เป็นแบบ ตัดบัวเหลือใย ถึงจะให้ไปอยู่ ศปก.ตร.โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม แต่ก็ยังคงทำหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง และ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง เหมือนเดิม ๐

      นี่ก็ยิ่งกว่า ถ่ายทอดสด การเดินทางไปบวชทดแทนคุณพ่อแม่ของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (อดีต ผบช.สตม.) วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย โดยได้รับฉายา สุรเชฏฺฐโพธิ ซึ่งแปลว่า ผู้มีปัญญาเครื่องตรัสรู้ซึ่งเจริญที่สุดด้วยความกล้าหาญ เพราะแม้การบวชครั้งนี้ของ พระสุรเชฏฺฐโพธิ จะไปจำวัดอยู่ไกลถึงอินเดีย แต่ดูเหมือนทั้งรูปทั้งข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวกลับปรากฏเป็นรายวัน ตั้งแต่ภาพวันบวชจนถึงเป็นพระ หรือเดินบิณฑบาต ทำวัตรเช้า และปฏิบัติธรรม จนหลายคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวมา เห็นอาจนึกว่า พระโจ๊ก บวชอยู่ในเมืองไทย ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ ผบ.แป๊ะ มีคำสั่งเด้งจาก ผบช.สตม. เข้ากรุ ศปก.ตร. ตามมาด้วยโอนย้ายจากตำรวจไปเป็นข้าราชการพลเรือน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี  นั่งตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้นใครต่อใครหาตัว หาข่าว พระโจ๊ก ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ๐

      เก็บตกผลประชุม ก.ตร.ที่ นายกฯ บิ๊กตู่ ไปนั่งเป็นประธาน 2 วาระสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ  เรื่องที่ อนุ ก.ตร.ร้องทุกข์ หารือปัญหาข้อกฎหมายกรณี .ต.ท.วทัญญู วิทยผโลทัย อดีต ผกก.สันติบาลและอดีตนายตำรวจติดตาม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้องทุกข์เมื่อปี 61 ว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของสันติบาล มีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงโดยไม่ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน น่าจะเป็นคำสั่งที่มิชอบ บิ๊กเบิ้ม-พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุป อนุ ก.ตร.กฎหมายชี้ว่าสามารถกระทำได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติมาตรา 84  และ 86 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 3 กรณีมีการกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัยร้ายแรง จะสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีมูลเพียงพอที่จะตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงหรือไม่ ในกรณีนี้แสดงว่าผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมีความเห็นว่ามีมูล การดำเนินการตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงโดยไม่สืบสวนข้อเท็จจริงสามารถทำได้ตามกฎหมาย ๐

      ส่วนอนุ ก.ตร.ร้องทุกข์หารือปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในการออกคำสั่ง ศปก.ตร. และอำนาจการส่งตัวข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดวินัยเรื่องทรงผมไปเข้ารับการฝึกธำรงวินัย กรณี .ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รอง ผบก.อก.ภ.9 และอดีตรอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี  สรุปว่า พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จตช. (ขณะนั้น) ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศปก.ตร. ตามคำสั่งของ ผบ.ตร. จึงมีอำนาจให้ตำรวจมาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.ได้ รวมทั้งการส่งตัวไปฝึกธำรงวินัยก็สามารถส่งไปได้ เพราะกรณีถ้าเห็นว่ามีโครงการเพิ่มพูนประสิทธิภาพก็สามารถส่งไปได้ และเมื่อจเรตำรวจแห่งชาติพบการกระทำความผิดของข้าราชการตำรวจแล้วดำเนินการทางวินัย กฎหมายกำหนดไว้ว่ากรรมการดำเนินการทางวินัยเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา เมื่อจเรตำรวจพบการกระทำผิดของข้าราชการตำรวจก็ส่งเรื่องไปทางต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยอยู่แล้ว...สรุปทั้ง 2 เรื่องที่ร้องทุกข์เป็นอันตกไปทั้งคู่ ๐

เป็นที่สงสัยว่า คณะกรรมการตรวจจ้างสร้างเรือดำน้ำ (กตจ.รด.) 20 นายไปอยู่ที่เมือง อู่ฮั่น ต้นทางแพร่ระบาด "เชื้อไวรัสโคโรนา" ได้อย่างไร แต่หากจำกันได้เมื่อครั้งที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณในการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการลำแรกกองทัพเรือ ได้แถลงถึงแนวทางส่งทีมไปประกบการสร้างเรือให้เป็นไปมาตรฐานตามสัญญา และเดือนพฤศจิกายน 2562 กตจ.รด.จึงได้เดินทางไปที่อู่ฮั่น เพื่อเข้าไปทำงานร่วมกับวิศวกรสร้างเรือดำน้ำของจีน จากอู่ต่อเรือ Wuchang Shipbuilding Industry Group ระยะเวลาการทำงานในระยะแรกประมาณ 3 เดือน โดยประธาน กตจ.คือ เสธ.ตุ้ย-น.อ.วิทยา พันธุ์โภคา  นายนาวาสถาปัตย์ที่มีความสามารถในการออกแบบเรือและวิศวกรรมการต่อเรือจากสหรัฐอเมริกา โดยมีทีมงานทั้งนายทหารอิเล็กทรอนิกส์, นายทหารสื่อสาร, วิศวกรด้านต่างๆ ครบ โดยทหารเรือทั้งหมดจะกลับเข้าไปทำหน้าที่หลังจากสถานการณ์ระบาดไวรัสโคโรนาคลี่คลาย

เหตุการณ์ พลทหาร ขับรถชนรถของประชาชนจนได้รับความเสียหายหลายคันที่ จ.ชลบุรี เนื่องจากดื่มสุราระหว่างเสร็จภารกิจไปรับไข่ไก่จากฟาร์มมาที่หน่วย ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดคือ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ได้เข้าแสดงความรับผิดชอบทันที ทั้งการประสานความช่วยเหลือ พูดคุยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและบริษัทประกันภัย รวมถึงผลกระทบอื่นๆ  สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ไม่อยู่ในความคุ้มครองของระบบประกันภัย 6 คัน โดยหน่วยต้นสังกัดได้ชดเชยค่าเสียหายให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนรถยนต์อีก 8 คันที่อยู่ในความคุ้มครองของระบบประกันภัยกำลังเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมและชดเชยค่าเสียหายตามข้อตกลงในกรมธรรม์  และความประสงค์ของเจ้าของรถ

อย่างไรก็ตาม กำลังพลของกองทัพยุคนี้ต้องเข้าสู่ ศูนย์ธำรงวินัยกลาง ที่กองทัพบกตั้งขึ้นเพื่อเข้าสู่กระบวนการลงฑัณฑ์และปรับปรุงวินัย โดยผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นขึ้นไป 2 ลำดับชั้น ซึ่งก็คือผู้บังคับกองพัน ต้องได้รับการปรับปรุงวินัยด้วย โดยศูนย์ธำรงวินัยกลางในกรุงเทพฯ ก็ตั้งอยู่ใน พล.ม.2  รอ.พอดี อีกทั้งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของ พลทหาร ทั้ง 2 นายและนายสิบ 1 นายที่ไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  ที่ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นมาในทุกมณฑลทหารบก เพื่อให้ทหารอยู่ในระเบียบวินัย ไม่ปฏิบัติตนออกนอกลู่นอกทาง
      ถัดจาก "ไวรัสโคโรนา" ปัญหาภัยแล้งกำลังจี้ตามมาติดๆ ทางกองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) นักรบสีน้ำเงิน เป็นกำลังสำคัญ ซึ่ง ผอ.เวฟ-พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม ผอ.สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กำลังดำเนินการตามแผนของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งในขั้นต้นได้ขุดเจาะบ่อบาดาลตามที่ได้รับการร้องขอจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้วเสร็จจำนวนทั้งสิ้น 20 บ่อ ในพื้นที่  จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม ขอนแก่น ลำพูน และปัตตานี รวมทั้งยังได้ทำการแจกจ่ายน้ำในพื้นที่ประกาศภัยแล้งฉุกเฉิน 20 จังหวัด ซึ่งได้ดำเนินการแจกจ่ายไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น  1
,255,000 ลิตร อีกทั้งขณะนี้หน่วยได้ดำเนินการขุดลอกลำน้ำยมที่แห้งขอดในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้ประปาหมู่บ้าน และสถานีสูบน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 12 จุด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"