
“บิ๊กป้อม” ยืดอกลั่นตอบความจริงอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จบ วิษณุชี้ช่องหากพ่นน้ำลายนอกประเด็นเสนอปิดประชุมได้ เพราะเป็นสิทธิ์ทั่นผู้ทรงเกียรติ วิปรัฐบาลเคาะ 25-27 ก.พ.พร้อมเสนอ “ชวน” วินิจฉัยให้ฝ่ายค้านแก้ญัตติ มองเป็นเรื่องเท็จ เขินตั้งองครักษ์ป้อง “ลุงตู่-ลุงป้อม” ชี้แค่หน่วยปกป้องฝ่ายนิติบัญญัติ “ปารีณา-สิระ” มาแพ็กคู่ พรรคร่วมฝ่ายค้านย้ำลากถึงยุค คสช.แน่เพราะเป็นนายกฯ มา 6 ปี ปูดจับตาขนกล้วยมาเป็นเครือแน่
เมื่อวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายกฯ และ รมว.กห.) ตอบคำถามสั้นๆ ถึงการเตรียมข้อมูลรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า "การอภิปรายก็คงต้องเตรียมการไว้แหละนะ"
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวเรื่องนี้ว่า "ไม่ต้องเตรียมตัว จะพูดแต่เรื่องจริง จบละ ชี้แจงเรื่องจริง ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ใช่"
ต่อมา พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำเรื่องนี้อีกครั้งว่าไม่หนักใจอะไรเลย ก็ไม่มีอะไร จะไปทำอะไร ตอบเรื่องจริงไป ไม่เห็นมีอะไร
เมื่อถามว่าจะต้องจัดทีมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าไม่ต้องทีมหรอก ไม่ต้องจัด ไม่มีอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำแต่งาน
ถามว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมสมาชิกไว้ช่วยสนับสนุน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าไม่รู้ ส่วนต้องขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น พรรคร่วมรัฐบาลต้องร่วมกัน ทุกพรรคต้องร่วมกันทำงาน
เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 คน การลงมติคะแนนควรเท่ากันหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไรก็พรรค พปชร.ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้ขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่าการลงมติต้องมีเอกภาพไปในทิศทางเดียวกัน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ต้องร่วมมือกัน ทุกพรรคต้องร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างไร ส่วนหากไม่เป็นไปในทิศทางเดียวจะทำอย่างไรนั้น เรื่องยังไม่เกิด ให้เกิดเสียก่อน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกำหนดวันและกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ายังไม่ทราบ ซึ่งรัฐบาลก็จะหารือว่าพร้อมวันไหน แต่ไม่ใช่เรื่องตายตัวว่าต้องเป็นตามที่รัฐบาลบอก เนื่องจากต้องหารือกันกับวิปฝ่ายค้าน และประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องดูความเหมาะสม ความสะดวก และความจำเป็นของสภาด้วย ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุอยากอภิปรายในวันที่ 19 ก.พ.นั้น ต้องอยู่ที่ประธานสภาถามมาและรัฐบาลเป็นผู้ตอบด้วย จะเป็นวันไหนได้ทั้งนั้นก่อนปิดสภา
“จำนวนวันอภิปรายนั้นผมตอบไม่ถูก ต้องหารือในคณะรัฐมนตรีก่อน และต้องดูว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายมากขนาดไหน วิปสองฝ่ายคงต้องหารือกันว่าผู้อภิปรายมีกี่คน จะใช้เวลาประมาณเท่าไร ส่วนที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไปถึงช่วงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ก็อยู่ที่ประธานสภา ถ้าประธานสภาอนุญาตให้ถามก็ต้องมีคำตอบ” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่าถ้าฝ่ายค้านย้อนไปถึงช่วง คสช.จะเสนอปิดประชุมได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่าหากจะเสนอปิดประชุมอยู่ที่สมาชิก เพราะเป็นอำนาจของสมาชิกเป็นผู้เสนอและมีผู้รับรองญัตติ แล้วจึงโหวตกัน เป็นไปตามข้อบังคับ ซึ่งไม่ได้ชี้นำ ทุกอย่างขอให้ว่ากันตามข้อบังคับ และไม่ถือเป็นญัตติซ้อนญัตติ เพราะมีข้อยกเว้น ส่วนการคุมเกมเป็นเรื่องของประธานสภา แต่จะเอาอย่างไรต่อไปเป็นเรื่องของสมาชิก ที่ผ่านมาเคยอภิปรายกันมาหลายครั้ง วิธีปฏิบัติเป็นธรรมเนียมที่อยู่ตัวของมันว่าเป็นอย่างไร และต้องเชื่อมั่นในตัวประธานสภาว่าคุมเกมได้
เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อมในการชี้แจง นายวิษณุกล่าวว่าดูตามญัตติที่เขายื่น ที่ว่าเล่นพวก เอื้อประโยชน์ จะเล่นที่ไหน เอื้อประโยชน์ใคร ทุกคนต้องไปคิดดูเอง ถ้าไม่มีแสดงว่าอีกฝ่ายหนึ่งแต่งขึ้นมา แต่ถ้ามีทางให้แปลเช่นนั้นได้ก็เตรียมตอบ การอภิปรายคือการกล่าวหา อีกฝ่ายมีหน้าที่แก้ข้อกล่าวหา มีหลักฐานก็นำมาแสดง ในอดีตเคยมีรัฐมนตรีคนหนึ่งเคยถูกอภิปรายเรื่องความเคลื่อนไหวทางการเงิน ทำเอาท่านงงเพราะไม่รู้เรื่อง เมื่อลงมติผ่านไปมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบย้อนหลัง สุดท้ายจบไม่มีอะไรเพราะเป็นของปลอม ดังนั้นหลักคือต้องชี้แจง
เมื่อถามว่ากลัวฝ่ายค้านจะนำเรื่องเสียบบัตรมาอภิปรายหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าไม่มีปัญหาหรอก รัฐบาลผิดอะไรที่ต้องไปกลัว แต่เกรงไว้ก่อนนั้นดีทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นมันจะประมาท เพราะความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะที่ปรึกษาและวิปรัฐบาล กล่าวว่า เชื่อว่านายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนมีความพร้อม มีการเตรียมทุกเรื่องที่คาดการณ์ว่าฝ่ายค้านจะนำมาอภิปราย รวมถึงข้อมูลในส่วนของรัฐบาลชุดที่แล้วบ้าง ครั้งนี้เราทำงานมาได้ 6 เดือน หวังว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายหลักๆ ควรมาจากรัฐบาลชุดนี้ รัฐมนตรีทุกคนเตรียมพร้อมนำข้อมูลต่างๆ มาสนับสนุนรัฐมนตรีทุกคนอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาล พวกเราทำงานกันอย่างใกล้ชิด
“รัฐบาลเราทำงานกันเป็นระบบ จะไม่มีว่ายื่นครั้งนี้มีแต่พรรค พปชร. ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาล แล้วพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ จะไม่ช่วยเหลือกัน เนื่องจากเรามีนายกฯ คนเดียวกัน เมื่อนายกฯ ถูกอภิปราย ข้อมูลทั้งหมดต้องมาจากทุกพรรคร่วมรัฐบาลและทุกกระทรวง โดยนายกฯ สามารถชี้แจงเองหรือมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงได้ และ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ในการประท้วงหรือปฏิบัติตามข้อบังคับ” นายพุทธิพงษ์กล่าว
จี้แก้ญัตติอภิปราย
เมื่อถามว่าคะแนนการลงมติของพรรคร่วมรัฐบาลต้องเท่ากันหมดเลยหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่าบอกไม่ได้เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ทุกคน แต่เชื่อว่าด้วยความสามัคคีทำงานร่วมกันมาตลอดของพรรคร่วมรัฐบาล ทุกพรรคจะไปกำกับให้คะแนนทั้งหมดออกมาได้อย่างเป็นเอกภาพและพร้อมเพรียง
ขณะเดียวกัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า ในวันพุธที่ 5 ก.พ.จะมีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล วิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน เพื่อกำหนดวันและเวลาการอภิปรายที่ชัดเจนว่าจะเป็นวันใด ซึ่งวิปรัฐบาลเห็นว่าวันที่เหมาะสมควรเป็นวันที่ 20 ก.พ.เป็นต้นไป โดยใช้เวลาอภิปราย 3 วัน และลงมติ 1 วัน รวมเป็น 4 วัน ส่วนการประท้วงขององครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี หากอยู่ในกรอบ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็จะไม่มีการประท้วง แต่หากมีการอภิปรายไม่เป็นความจริง และย้อนเรื่องในอดีตก็ต้องประท้วง
นายชัยวุฒิกล่าวอีกว่า วิปรัฐบาลจะยื่นเรื่องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนฯ ตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะประเด็นของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าเป็นญัตติเท็จ เพราะวิปรัฐบาลเห็นว่ามีข้อความอันเป็นเท็จขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภา หรือเป็นญัตติที่ต้องแก้ไขปรับปรุง โดยเฉพาะประเด็นที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์มีพฤติการณ์ไม่ยึดมั่นและศรัทธาต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มล้างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ และกระทำการให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยมีพฤติการณ์ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่ได้มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ยังไม่เคยมีการฉีกรัฐธรรมนูญเลย รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ก็ยังใช้อยู่ และ พล.อ.ประยุทธ์ก็มาจากการเลือกตั้งตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญทุกประการ
เมื่อถามว่าหากเป็นเช่นนี้ฝ่ายค้านต้องยื่นญัตติใหม่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่าตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประธานสภาจะวินิจฉัย ส่วนจะถูกมองว่าวิปรัฐบาลยื้อการอภิปรายหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่สภาต้องหารือกัน
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวเรื่องนี้ว่า การส่งเรื่องให้ประธานสภาวินิจฉัยก็เพื่อให้ฝ่ายค้านทบทวนญัตติดังกล่าวให้ถูกต้อง เพราะหากไม่ทบทวนก็ต้องอภิปรายญัตตินี้ และจะมีการประท้วงตั้งแต่เริ่มอภิปราย ทำให้การประชุมไม่ราบรื่น โดยหากส่งกลับไปวันที่ 3 ก.พ.เชื่อว่าฝ่ายค้านน่าจะแก้ไขทัน เนื่องจากยังอยู่ในกรอบเวลา 7 วัน จากนั้นในวันที่ 5 ก.พ. เวลา 09.00 น.จะประชุมร่วม 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดกรอบและวันเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้ข้อยุติ
เปิดองครักษ์พิทักษ์นิติบัญญัติ
ในช่วงเย็นนายวิษณุกล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลยื่นเรื่องให้นายชวนตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่าไม่ทราบ ส่วนจะรุนแรงถึงขนาดที่ฝ่ายค้านต้องยื่นญัตติใหม่หรือไม่ก็ไม่ทราบเช่นกัน ทุกอย่างอยู่ที่ประธานสภาจะวินิจฉัย แต่ยอมรับว่าถ้อยคำในญัตติของฝ่ายค้านถือเป็นถ้อยคำที่รุนแรง
นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรค พปชร.และวิปรัฐบาล เปิดเผยว่าได้เสนอต่อที่ประชุมวิปรัฐบาลให้กำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 25 -27 ก.พ.นี้ และลงมติในวันที่ 28 ก.พ. ซึ่งวิปรัฐบาลเห็นด้วยและจะเสนอให้นายกฯ และรัฐบาลรับทราบต่อไป
นายสุชาติกล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังได้หารือกำหนดตัวบุคคลคอยประท้วงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายนอกประเด็นไว้แล้ว โดย พปชร.จะมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล, นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี, นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. รวมถึงตนเองด้วย และในวันที่ 4 ก.พ.จะมีการพิจารณาความเหมาะสมเพิ่มเติม ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้วางตัวนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
“ส.ส.ส่วนนี้ไม่ใช่เอาไว้แก้ต่างให้ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร เพราะเชื่อว่านายกฯ และรองนายกฯ ชี้แจงได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว เราแค่คอยคุมเกมในสภาให้อยู่ในญัตติ เป็นองครักษ์พิทักษ์ฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสภา ซึ่งจะลุกขึ้นประท้วงทันทีที่ฝ่ายค้านอภิปรายนอกประเด็น พูดตีกินรัฐบาลหรือย้อนเรื่องในอดีต” นายสุชาติกล่าว
ด้านความเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน ตัวแทน 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ได้ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดยนายสมพงษ์กล่าวว่า วาระประชุม 1.กรอบเวลาอภิปราย 2.การวางยุทธศาสตร์ในการอภิปรายร่วมกันของฝ่ายค้าน รวมถึงการกำหนดลำดับผู้จะถูกอภิปราย 3.กำหนดประเด็นในการอภิปรายเพื่อไม่ให้ซ้ำกัน และ 4.กำหนดเวลาแต่ละพรรคการเมือง ก่อนสรุปเวลาที่จะใช้เพื่อเสนอต่อรัฐบาล
นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะรองเลขาธิการพรรค อนค.กล่าวว่า อนค.เห็นว่าเวลาที่เหมาะสมในการอภิปรายคือ 3-4 วัน ถ้าจะกำหนด 2 วันอย่างที่รัฐบาลให้ข่าวคงไม่เหมาะสม โดยพรรคจะอภิปรายรัฐมนตรีทั้งหมด 4 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ ร.อ.ธรรมนัส พ รหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งแม้จะเป็นการอภิปรายครั้งแรกแต่เราก็ทำการบ้านอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าจะส่งผลกระเทือนต่อรัฐบาลแน่นอน
ปูดขนกล้วยมาเป็นเครือ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ในฐานะเลขาธิการพรรค ปช.กล่าวว่า การอภิปรายถือเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของพรรคฝ่ายค้าน แม้เสียงไม่สามารถโค่นล้มรัฐบาลเพราะไม่ได้ตั้งใจใช้เสียงล้มรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ต้องการให้ประชาชนทราบข้อมูล โดยฝ่ายค้านมีข้อมูลที่โยงไปถึงการทุจริต การปฏิบัติที่ผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม ซึ่งปล่อยไว้จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติและประชาชน โดยพรรคจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการอภิปราย ซึ่งคิดว่าจะเป็นโอกาสดีที่นายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงจะได้ชี้แจง
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ (พช.) ในฐานะหัวหน้าพรรค พช.กล่าวว่า รัฐบาลต้องใจกว้างให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้เต็มที่ และหวังว่าองครักษ์ทั้งหลายคงมีเหตุผล เพราะได้ข่าวมาว่าช่วงนี้ขนกล้วยกันมาเป็นเครือๆ ก็อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร และอยากให้ทุกคนเฝ้าดูด้วย
นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า แม้เป็นพรรคเล็กและเป็น ส.ส.ใหม่ แต่ข้อมูลที่ได้มาเชื่อว่าจะส่งผลต่อรัฐบาลและมีการปรับเปลี่ยน ครม. หรือ พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ไม่ได้
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า นายชวนได้นัดหมายวิป 3 ฝ่าย ทั้งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประธานวิปฝ่ายค้าน และประธานวิปรัฐบาลเข้าหารือในวันที่ 5 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. เพื่อกำหนดวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยฝ่ายค้านอยากเรียกร้องให้บรรจุวาระการพิจารณาในช่วงกลางเดือน ก.พ.นี้ เพราะหากบรรจุวาระในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดสมัยการประชุมจะกดดันการทำงานของทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ทำให้การอภิปรายไม่มีคุณภาพและประชาชนจะผิดหวัง
“แนวทางการอภิปรายจะประชุมวิปฝ่ายค้านในวันที่ 4 ก.พ.เพื่อกำหนดตัวผู้อภิปรายเป็นรายประเด็น เบื้องต้นจะให้มีผู้อภิปรายทั้งหมด 20-25 คน และมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่เนื้อหาการอภิปรายต้องย้อนหลังไปถึงการทำงานตั้งแต่สมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะเป็นสารตั้งต้นในการกระทำความผิด ซึ่งรัฐบาลจะปฏิเสธเรื่องดังกล่าวไม่ได้ และประชาชนเองก็อยากให้ฝ่ายค้านอภิปราย เพราะตลอด 6 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการตรวจสอบใดๆ เลย”
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภา โพสต์เฟซบุ๊กว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องเชื่อมโยงกับรัฐบาลชุดก่อน ทั้งนี้เพราะผลจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด การบริหารงานที่ผิดพลาด ล้วนเกิดขึ้นจากนายกฯ รวมถึงรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันมาถึง 6 ปี
นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า อยากฝากถึงผู้ถูกอภิปรายโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์อย่าหนีการชี้แจง เพราะเป็นหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลเด็ดนำมาเปิดโปงได้ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรค พท.กล่าวว่า อาการของ พล.อ.ประยุทธ์ที่เกิดขึ้นคืออาการปากกล้าขาสั่น พยายามสร้างกระแสเพราะกลัวการตรวจสอบจากฝ่ายค้าน จนต้องเรียกลูกสมุนออกมาปกป้อง พร้อมขู่ฝ่ายค้านห้ามอภิปรายย้อนไปถึงยุครัฐบาล คสช. ซึ่งอยากบอก พล.อ.ประยุทธ์ว่าอย่าร้อนตัว ถ้าเป็นทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ ยกเว้นอย่างเดียวคือสำนึกดีว่าตัวเองไม่ใช่ทองแท้ แต่เป็นแค่เศษตะกั่วเท่านั้น.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |