138ชีวิตกลับถึงไทย กักตัวดูอาการ14วัน/โลกระสํ่า‘ไวรัสอู่ฮั่น’ขยายวง


เพิ่มเพื่อน    

  สธ.พบผู้ป่วย "โคโรนาสายพันธุ์ใหม่" เพิ่มอีก 6 ราย ผงะ! สาวเกาหลีติดเชื้อหลังจากมาเที่ยวไทย เร่งขอข้อมูลจากรัฐบาลโสมขาว นายกฯ ออกคลิปให้กำลังใจคนไทย-จีนและทุกภูมิภาครวมใจเป็นหนึ่งเดียวสู้ไวรัส ลั่นขอให้มั่นใจสาธารณสุขไทย  138 คนไทยกลับจากอู่ฮั่นถึงอู่ตะเภาแล้ว สธ.เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 14 วัน ขณะที่ยอดสังเวยโคโรนาจีนพุ่งรายวันเป็น 425 ศพ เมืองนอกหูเป่ย์ชัตดาวน์กันระนาว ฮ่องกงเสียชีวิตรายแรก สิงคโปร์-มาเลเซียพบการติดเชื้อภายในประเทศครั้งแรก 

    ที่กรมควบคุมโรค วันที่ 4 กุมภาพันธ์ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป แถลงสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่าจากการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ระบาดวิทยา และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) พบว่าล่าสุดประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มอีก 6 ราย เป็นชาวไทย 4 ราย 2 รายเป็นสามีภรรยา ไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาแล้วป่วย อีก 2 รายคนขับรถรับจ้างไม่ประจำทาง ซึ่งรับชาวจีน และอีก 2 รายเป็นนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ได้ประสานไปที่ญี่ปุ่นเพื่อขอข้อมูลแล้ว
    ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วย 6 ราย มี 5 รายอาการดี รอผลตรวจเป็นลบจะให้ออกจาก รพ. สำหรับรายล่าสุดรับส่งต่อจาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่งมาที่สถาบันบำราศนราดูร แรกรับใส่ท่อช่วยหายใจ ตรวจพบวัณโรค และติดโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ร่วมด้วย
    ทั้งนี้ เดิมประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 19 ราย รวมกับผู้ป่วยที่ประกาศเพิ่มวันที่ 4 ก.พ. อีก 6 ราย รวมเป็น 25 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 8 ราย เหลือยังรักษาตัวใน รพ.อีก 17 ราย
    นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงว่า ขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยยืนยันผู้ติดเชื้อนอนในโรงพยาบาล 11 คน กลับบ้านแล้ว 8 คน รวมสะสม 19 คน มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 492 คน คัดกรองจากสนามบิน 43 คน มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 449 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 119 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลยังคงรักษาในโรงพยาบาล 373 คน โดยวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 7 คน
     นพ.ณรงค์กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกใน 26 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 17,205 คน ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 พบผู้ป่วย 17,079 คน เสียชีวิต 361 คน
     ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ ยืนยันวันที่ 4 ก.พ.ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายที่ 16 เป็นหญิงวัย 42 ปี เพิ่งกลับจากไทย 19 ม.ค. เริ่มมีอาการหนาวสั่น 25 ม.ค.ก่อนเข้ารับการตรวจสอบเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งผลยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะนี้เราได้ประสานไปยังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยรายนี้แล้วว่ามีการสอบสวนโรคอย่างไร อาการอย่างไร ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) เป็นอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนโรคในประเทศไทยต่อไป
เชื่อมั่นสาธารณสุขไทย
     นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยก็อยู่ในระยะที่มีพบการติดเชื้อภายในประเทศแล้วในวงจำกัด ถ้ามองตามเหตุตามผลว่าคนจีนที่ยังอยู่ในเมืองไทยสามารถป่วยในเมืองไทย และสามารถแพร่เชื้อให้คนไทยได้ และโดยทั่วไปนักท่องเที่ยวเวลาไปเที่ยวที่ไหนมักจะไปเป็นกลุ่มก้อน พื้นที่ไหนนักท่องเที่ยวเยอะคนจีนไปที่ไหน คนเกาหลีก็ไปที่นั่น ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อระหว่างนักท่องเที่ยวด้วยกันก็เป็นไปได้อยู่แล้ว เรามีการแพร่เชื้อในประเทศแล้ว คนจีนเริ่มแพร่เชื้อให้คนไทย ดังนั้นตอนนี้ยังเป็นการแพร่โรคในวงจำกัดเหมือนเดิม และไม่ได้เปลี่ยนระดับความเสี่ยงของคนไทยตอนนี้อยู่ในระดับที่เราพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุม และค้นหาผู้ป่วยให้เจอมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะถ้าค้นพบก็จะค้นเจอคนสัมผัส จะได้นำเข้าสู่ระบบการตรวจติดตามเชื้อ
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงการเดินทางไปรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่นว่า จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยประมาณ 19.00 น. จะต้องมีมาตรการคัดกรองก่อนขึ้นเครื่องเพื่อระมัดระวังการกลับมาแพร่เชื้อในไทย ฉะนั้นเมื่อเข้ามาก็ต้องหาพื้นที่รองรับ ก็ต้องเห็นใจคนที่กลับมาที่ต้องถูกกักตัวไว้ 14 วัน จะต้องดูแลทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ญาติพี่น้องเยี่ยมได้หรือไม่อย่างไร ตอนนี้มีมาตรการพร้อม โดยตนตัดสินใจใช้พื้นที่อู่ตะเภาของกองทัพเรือ
    “นั่นแหละมีทหารไว้ทำไม ทุกคนอยากได้กลับมา แต่ทุกคนไม่ต้องการ เอ๊ะมันยังไงกัน ท้ายที่สุดทหารรับกันไป นั่นแหละเห็นใจทหารเขาบ้างสิ เขาเสียสละ เขากลัวไหม เขาก็กลัว แต่ทหารเรือเขาก็ยินดีตอบรับ หาพื้นที่ที่เหมาะสม เป็นอาคารที่พักที่สะดวกสบายพอสมควร มันต้องช่วยกันแบบนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    เมื่อถามว่ากังวลเรื่องการแพร่ระบาดในไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าถามว่ากังวลหรือไม่ ต้องบอกว่ากังวล เพราะสถานการณ์ยังมีอยู่ เราไม่ต้องการให้ไปสู่ระดับ 3 คือการแพร่ระบาดในประเทศไทย เราพยายามหยุดยั้งไว้ในระยะที่ 2 คัดกรองการเข้ามา ควบคุม ดูแล จัดเตรียมการรักษาพยาบาลให้เหมาะสมตามขั้นตอน
    “ขอให้มั่นใจ ถึงจะกังวลยังไงก็ตาม เราก็ต้องมั่นใจในมาตรการของเรา และมาตรการของบุคลากรสาธารณสุขของเรา ซึ่งมาตรฐานของเราถือว่าระดับต้นของโลก แต่ถ้าจะมีการแพร่ระบาดก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องแก้ปัญหาต่อไป เราไปสั่งให้เชื้อโรคมันหยุดก็คงไม่ได้ แต่ก็คิดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้โดยเร็วด้วยความร่วมมือของประเทศต้นทาง กลางทาง ปลายทาง วันนี้เราต้องดูแลทุกพื้นที่ ทำเต็มที่แล้ว ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลได้ทำเต็มที่แล้ว ไม่เหมือนกับไข้หวัดนก เอาไก่ไปฆ่าทีนึง 3-4 ล้านตัว มันทำได้ไหม” นายกฯ กล่าว
    ถามว่าทางการไทยจะมีการกักเรือที่มาจากจีนไว้ที่ท่าเรือเพื่อกักโรค 14 วันเหมือนที่ออสเตรเลียทำแล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีการทำทุกที่ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ และบริเวณชายแดนด่านตรวจต่างๆ ทางช่องทางธรรมชาติและช่องทางอื่นๆ ได้สอบถามกระทรวงคมนาคมทราบว่าคนที่เข้ามาต้องถูกคัดกรองโรคอยู่แล้ว
นายกฯ แพร่คลิปให้กำลังใจ
    เมื่อถามถึงมาตรการที่ให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะมีการประกาศกฎกระทรวงในช่วงบ่ายวันที่ 4 ก.พ. ในราชกิจจานุเบกษา ตนได้สั่งการให้ กทม.และหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์รับหน้ากากฯ จากโรงงานมาจัดจุดจำหน่าย ให้ร้านค้าปลีกค้าส่งมาซื้อเพื่อไม่ให้ถูกใครหลอก หรือขึ้นราคา หากพบว่ามีการขายหน้ากากฯ เกินราคา สามารถแจ้งได้ทันที จะได้จับกุมลงโทษดำเนินคดีตามกฎหมาย 
    ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ "วิกฤติไวรัสโคโรนา" ความยาว 1.17 นาที พร้อมเอ็มวีเพลงไม่ต้องกลัว ของวงลิปตา รวมทั้งคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหากับโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา โดยนายกฯ ระบุว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทย และให้กำลังใจกับคนจีน ประเทศจีน ตลอดจนทุกประเทศในทุกภูมิภาค ซึ่งได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว ขอให้ทุกคนรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว สู้ๆ และนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สถานการณ์คลี่คลายให้ได้โดยเร็ว ด้วยการจับมือร่วมกันเดินไปข้างหน้า ฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน ขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคน
     นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า นายกฯ ได้แจ้งให้ ครม.รับทราบถึงข้อสั่งการต่างๆ ในการประชุมสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และให้ความมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และได้กำชับ ครม.เรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มข้น ในกรณีที่มีข่าวลือข่าวปลอม ที่สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบ ส่วนกรณีที่มีการกักตุนหรือขายหน้ากากอนามัยเกินราคา หากพบสามารถแจ้งสายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยคนที่จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ขายที่ไม่แสดงราคาสินค้ามีโทษปรับ 10,000 บาท
    นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด สธ. กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการดูแลกลุ่มคนไทยในอู่ฮั่นที่กลับประเทศ มีมาตรการดูแล 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.มาตรการเฝ้าระวังก่อนเดินทาง จะมีการคัดกรองสุขภาพโดยทีมของทางการจีนก่อนขึ้นเครื่อง 2.มาตรการดูแลขณะการเดินทางและเมื่อถึงประเทศไทย ทีมแพทย์ไทยจะให้การดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตไปพร้อมกัน ระหว่างอยู่บนเครื่องจะคัดกรองซ้ำ เพื่อแยกผู้ที่อาจมีอาการป่วยออกจากคนอื่นและให้การดูแลในพื้นที่ที่แยกไว้ เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยจะวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง ผู้ที่มีอาการป่วยจะส่งไปรับการรักษาตามมาตรฐาน ส่วนผู้ที่ยังไม่มีอาการจะได้รับการดูแลติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุกวันจนครบ 14 วันตามมาตรฐานการเฝ้าระวังควบคุมโรค และ 3.การสื่อสารญาติเพื่อลดความวิตกกังวล
    ช่วงค่ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, นายธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 8, นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ ร่วมให้การต้อนรับคนไทย 138 ชีวิต ที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเที่ยวบิน FD571 สายการบินแอร์เอเชีย ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ลงจอดอย่างปลอดภัย ในเวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
    จากนั้น นายอนุทินแถลงว่า คนไทยที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นมีทั้งหมด 138 คน ก่อนที่จะขึ้นเครื่องมีการตรวจร่างกาย พบว่าทุกคนแข็งแรง นอกจากนี้มี 2 คนที่ทางการจีนตรวจพบว่ามีไข้สูงกว่าเกณฑ์กำหนดอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส ยังต้องอยู่ที่จีน 14 วัน ส่วนอีก 1 คนวีซ่าหมดอายุนาน 7 เดือน เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศที่อยู่ที่จีนจะช่วยดูแลทั้ง 3 คน
     นายอนุทินกล่าวว่า การเดินทางกลับมาถึงไทยวันนี้ ขอขอบคุณ 4 เหล่าทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือดูแล ส่วนการที่ไม่สามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้ว่าจะนำทั้ง 138 คนไปเฝ้าดูอาการได้ที่ไหน ก็เพื่อความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และจะไม่เสี่ยงในเรื่องการแพร่เชื้อ จึงได้ข้อสรุปว่าจะนำมาพักดูอาการที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่ที่ดีที่สุด และทางกองทัพเรือได้เสนอให้มาใช้ที่นี่ มีห้องพัก มีการคมนาคมสะดวก มีแพทย์พยาบาลดูแล อาหาร เครื่องมือ สะดวกในการดูแลทำให้ทั้ง 138 คนได้รับความสะดวกและได้รับอากาศที่ดีและอยู่ใกล้ กทม.ด้วย ทั้งหมดจะพักอยู่ 14 วัน 
    พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันความพร้อมของกองทัพเรือในการดูแลทุกคน ด้วยการนำรถไปรับที่สนามบินอู่ตะเภา หากพบใครมีไข้ ไอ จะแยกออกมาก่อน ส่วนใครที่ไม่มีอาการจะพาไปที่บ้านพัก ส่วนการดูแลเรื่องอาหาร ที่อยู่ที่พัก ดูแลเต็มที่ ถ้ามาถึงแล้วทุกคนจะมีความสบายใจ อากาศดี ลมแรง
    ส่วนข้อมูลของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนประจำวันอังคารที่ 4 ก.พ.2563 กล่าวว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เสียชีวิตเพิ่มอีก 64 รายเมื่อวันจันทร์ เป็นยอดเพิ่มขึ้นมากที่สุดทำลายสถิติของวันอาทิตย์ ทั้งหมดอยู่ในมณฑลหูเป่ย์ โดย 48 รายอยู่ในเมืองอู่ฮั่นที่เป็นศูนย์กลางการระบาด จำนวนรวมผู้เสียชีวิตภายในจีนเพิ่มเป็น 425 ราย นับข้อมูลถึงวันจันทร์ ส่วนผู้ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้น 3,232 ราย จำนวนรวมอยู่ที่ 20,438 ราย
     สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังควบคุมไม่ได้นี้ ทำให้คณะกรรมการประจำกรมการเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แถลงยอมรับเมื่อวันจันทร์ว่า การตอบสนองต่อการแพร่ระบาดยังมีข้อบกพร่องและปัญหายุ่งยาก และเรียกร้องให้มีการปรับปรุงระบบจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินระดับประเทศ
     เมื่อวันอังคาร โรงพยาบาลสนามขนาด 1,000 เตียงในเมืองอู่ฮั่นที่ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 10 วัน เริ่มเปิดรับคนไข้แล้ว ส่วน รพ.สนามแห่งที่ 2 จะเปิดตามมาภายในสัปดาห์นี้ ความขาดแคลนเตียงยังทำให้จีนต้องดัดแปลงอาคารศูนย์วัฒนธรรม, ศูนย์จัดแสดง และโรงยิมเนเซียม เป็นคลินิกชั่วคราวรองรับคนไข้อีก 3,400 เตียง
จีนสั่งปิดเมืองเพิ่ม
     ความหวาดวิตกที่ไวรัสจะแพร่ระบาดในมหานครที่ประชากรหนาแน่น ทำให้ทางการจีนสั่งปิดเมืองเพิ่มมณฑลอื่นนอกเหนือจากหูเป่ย์ ที่ประชากรกว่า 50 ล้านคนถูกกักกันโรคไว้ โดยเอเอฟพีรายงานว่า มณฑลเจ้อเจียงในภาคตะวันออกซึ่งมีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 829 ราย มากรองจากหูเป่ย์ ทางการท้องถิ่น 3 อำเภอของเมืองหางโจวรวมประชากร 3 ล้านคน และอีก 3 อำเภอในเมืองไท่โจว รวมประชากร 9 ล้านคน สั่งปิดเมืองห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน โดยยกเว้นครอบครัวละ 1 รายที่อนุญาตให้ออกนอกบ้านได้ทุกๆ 2 วัน เพื่อซื้อสิ่งของจำเป็น ก่อนหน้านี้เมืองเหวินโจวของเจ้อเจียงก็ใช้มาตรการเดียวกันกับประชากร 9 ล้านคน
     ภายนอกจีน หลังจากฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตรายแรกเมื่อวันอาทิตย์ เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อวันอังคาร ฮ่องกงก็มีผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกด้วย เป็นชายวัย 39 ปีที่มีปัญหาสุขภาพเป็นอุปสรรคต่อการรักษา เขาเพิ่งไปอู่ฮั่นเมื่อเดือนที่แล้ว และแม่วัย 72 ปีของเขาก็ติดเชื้อด้วย
     มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มในสิงคโปร์และมาเลเซียด้วยเมื่อวันอังคาร โดยเป็นการติดเชื้อจากคนสู่คนครั้งแรกในสองประเทศนี้ ของสิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่ม 4 ราย รวมเป็น 24 ราย มาเลเซียพบชายวัย 41 ปีติดเชื้อแม้ไม่เคยเดินทางไปจีน แต่เขาเคยไปอยู่สิงคโปร์ 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม และได้เข้าร่วมการประชุมที่มีชาวจีนรวมอยู่ด้วย 
     ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งเกาหลี (เคซีดีซี) เผยว่าพบหญิงชาวเกาหลีใต้อายุ 42 ปีติดเชื้อไวรัสโคโรนา ภายหลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่เมืองไทยเมื่อวันที่ 19 มกราคม คนไข้รายนี้เริ่มมีอาการไข้และอาการอื่นๆ แต่เพิ่งเข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 25 มกราคม อาการของเธอเริ่มดีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ แต่จอง อึนคยอง ผู้อำนวยการเคซีดีซี กล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะสรุปว่าคนไข้รายนี้ติดเชื้อไวรัสระหว่างอยู่ในไทยหรือไม่ 
     คนไข้รายล่าสุดนี้ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 16 ราย โดยก่อนหน้านี้มีอย่างน้อย 4 รายที่ติดเชื้อจากคนสู่คน และยังมีมัคคุเทศก์ชาวจีนคนหนึ่งที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโดยเชื่อว่าเริ่มป่วยระหว่างทำงานที่ญี่ปุ่น
     องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่ถูกวิจารณ์ว่าตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศล่าช้า ในวันอังคารดับเบิลยูเอชโอแถลงที่นครเจนีวา ย้ำว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายังไม่อยู่ใน "ภาวะแพร่ระบาดทั่ว"
     ถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในมากกว่า 24 ประเทศและดินแดนแล้ว และรัฐบาลหลายแห่งประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางของตนเอง แม้ดับเบิลยูเอชโอไม่มีคำแนะนำเช่นนั้น ล่าสุดความวิตกทำให้ญี่ปุ่นสั่งกักกันโรคผู้คน 3,711 คนบนเรือสำราญ และทำการตรวจเชื้อทุกคนบนเรือ หลังจากพบอดีตผู้โดยสารของเรือลำนี้คนหนึ่งล้มป่วยที่ฮ่องกง ส่วนทางการมาเก๊าสั่งปิดกาสิโนทุกแห่งบนเกาะอย่างน้อย 2 สัปดาห์
     การรวบรวมข้อมูลของเอเอฟพีเผยว่า มีผู้ติดเชื้อในดินแดนและประเทศนอกจีนแผ่นดินใหญ่มากกว่า 150 รายแล้ว แบ่งตามภูมิภาคได้แก่ เอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วย สิงคโปร์ 24 ราย, ญี่ปุ่น 20 ราย, ไทย 25 ราย, ฮ่องกง 17 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย, เกาหลีใต้ 16 ราย, ออสเตรเลีย 12 ราย, มาเลเซีย 10 ราย, ไต้หวัน 10 ราย, เวียดนาม 10, มาเก๊า 9 ราย, อินเดีย 3 ราย, ฟิลิปปินส์ 2 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย, เนปาล ศรีลังกา และกัมพูชา ประเทศละ 1 ราย ส่วนตะวันออกกลางมีผู้ติดเชื้อที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5 ราย
     ในอเมริกา พบผู้ติดเชื้อในสหรัฐ 11 ราย และแคนาดา 4 ราย ที่ยุโรป เยอรมนีพบติดเชื้อมากสุด 12 ราย, ฝรั่งเศส 6 ราย, อังกฤษ อิตาลี และรัสเซีย ชาติละ 2 ราย, ฟินแลนด์ สเปน และสวีเดน ชาติละ 1 ราย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"