รัฐบาลเคาะวันซักฟอก25-27กพ.


เพิ่มเพื่อน    

  “ประยุทธ์” ชี้ช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับกฐินไม่ไว้วางใจคือ 25-27 ก.พ. “ป้อม-ป๊อก-ธรรมนัส” ยันไม่วิตก เตรียมสัมมนารวมพลังก่อนขึ้นเขียง “พุทธิพงษ์” เชื่อพรรคร่วมรัฐบาลจะโชว์เอกภาพเรื่องโหวต “แม่บ้าน ปชป.” ลั่นไม่ต้องมีมาตรการคุม เพราะต้องทำตัวให้เหมาะสมการเป็นพรรคร่วม “สมบูรณ์” แจงบรรจุญัตติแล้วหากแก้ยุ่งยาก ชี้เรื่องปกติไม่มีใครอวยแน่ “เหลิม” ประเดิมไฮด์ปาร์ก ซัดอย่าปากกล้าขาสั่น เตรียมจัดหนัก “บิ๊กตู่-วิษณุ” อัดวิปรัฐบาลอย่าสนิมสร้อยเรื่องญัตติ

    เมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ ยังคงมีความต่อเนื่องถึงญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าที่ประชุม ครม.ได้ข้อสรุปว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือระหว่างวันที่ 25 ก.พ.ถึงเที่ยงคืนวันที่ 27 ก.พ. และลงมติวันที่ 28 ก.พ. และวันที่ 29 ก.พ.ปิดสภา ก็แค่นั้น
    เมื่อถามมีความเห็นอย่างไรที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะให้ผลประโยชน์เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นแค่คำกล่าวหา ไม่ตอบ ไม่มีประโยชน์ ส่วนเรื่องความจำเป็นต้องมีการตั้งองครักษ์ช่วยในการชี้แจงหรือไม่นั้น ไม่ใช้คำว่าองครักษ์ เพราะพร้อมจะตอบในหลักการและเหตุผลในทุกประเด็นที่ถูกอภิปราย สำหรับรายละเอียดบางอย่างก็จะมีการชี้แจงจากหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถทำได้ ทุกคนพร้อมทำตามระเบียบข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่สร้างวาทกรรมให้ร้าย ซึ่งหลังจากการอภิปรายแล้วก็คงพิจารณากันอีกครั้งว่ามีการให้ร้ายอะไรกันหรือเปล่า ในสภาก็ว่ากันไป นอกสภาก็ว่ากันต่อไปภายหลัง
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านกล่าวหาว่ารัฐบาลเตรียมแจกกล้วยเพื่อช่วยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าไม่รู้ ใครแจกใคร จะไปแจกอะไร ไม่ได้แจกอะไรเลย และยังไม่ได้ทำอะไรเลย จะไปเอากล้วยมาจากไหน
    เมื่อถามว่าจะผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ถ้าเขาเห็นว่าเรามีประโยชน์เขาก็เอาเราไว้ หากไม่มีประโยชน์ก็เอาออกไป ส่วนการจะนำเรื่องส่วนตัวมาอภิปรายนั้น เขาควรจะพูดหรือไม่ ควรเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงาน แต่ก็ยังไม่รู้จะเตรียมตัวเรื่องอะไร แล้วฝ่ายค้านกล่าวหาเรื่องอะไรบ้าง
    ถามต่อว่า มีการใช้ถ้อยคำรุนแรงกล่าวหาด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็รุนแรงเช่นเดียวกับที่นายกฯ ถูกกล่าวหา ซึ่งรุนแรงกว่าอีก ส่วนจะต้องปรับแก้หรือไม่ เป็นเรื่องของ ส.ส. และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
    “หากมีข้อมูลก็ชี้แจงมา จะพูดบ่อยๆ คงไม่ได้ ส่วนที่จะนำเรื่องนาฬิกาหรูมาพูดนั้น มันจบไปแล้ว” พล.อ.ประวิตรระบุ
    ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เตรียมชี้แจงทุกเรื่องที่ทำไป สิ่งที่ฝ่ายค้านอยากทราบหรือตั้งข้อสงสัยเราก็ชี้แจง ตอบไป ทำอะไรไปไม่ว่าเรื่องอะไรต้องชี้แจงให้ได้
    เมื่อถามว่า ครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งแรก กังวลหรือไม่ว่าจะถูกยั่วโมโห พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า “ผมก็ตอบอย่างที่ตอบคุณ ผมว่าเขาคงจะไม่ยั่วมากกว่าคุณหรอก”
อัดฝ่ายค้านจ้องเล่นการเมือง
    ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยังไม่เตรียมข้อมูล เพราะยังมีเวลา ส่วนที่ฝ่ายค้านจะเปิดหลักฐานใหม่นั้น ทุกอย่างมีทางออก ยืนยันว่าไม่ใช่หลักฐานใหม่ แต่เป็นหลักฐานเก่าที่เข้าใจว่าผิด เข้าใจคลาดเคลื่อนมากกว่า แล้วจะไปตอบในสภา
    เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านออกมาพูดถึงเรื่องการแจกกล้วย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นวลีที่หยอกกันเล่นมากกว่า แต่กลายเป็นวลีหลักของรัฐบาลชุดนี้ ที่จริงแล้วไม่มีอะไร ไม่ได้กังวลอะไรกับการอภิปราย เพราะถ้าเป็นเรื่องในอดีตเราก็ตอบมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวทีของคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นประธาน ได้ชี้แจงทุกประเด็นแล้ว ส่วนเรื่องการบริหารราชการปัจจุบันไม่ขอพูดถึง เพราะผลงาน 6 เดือนเป็นที่ประจักษ์แล้ว โดยเฉพาะประชาชนในต่างจังหวัดที่เป็นฐานรากที่อยากเดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ให้มา เพราะจะมองว่าเอาประชาชนมากดดันฝ่ายค้าน
    “เราก็รู้ตัวเองว่าอะไรจะเกิดขึ้น อนาคตทางการเมืองจะเจอขวากหนามอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ได้หนักใจ หากอยู่ในสถานะฝ่ายค้านก็ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่อยากจะฝาก ส.ส.ว่า ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ใครไม่ลงพื้นที่ก็ไม่รู้ หากยังเถียงกันในเรื่องไร้สาระหรือเล่นการเมืองมากกว่าการทำงาน ระวังว่าวันหนึ่งจะถูกประชาชนขับไล่” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
    นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลตั้งองครักษ์คอยปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นเรื่องปกติที่ ส.ส.จะทำหน้าที่ช่วยนายกฯ อธิบาย แต่คงไม่ใช่รูปแบบองครักษ์ โดยจะทำหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับเพื่อควบคุมให้ผู้อภิปรายอยู่ในประเด็น และเชื่อว่าการอภิปรายจะผ่านไปได้ด้วยดี ไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียงงูเห่า เพราะเสียงฝ่ายรัฐบาลรวมกันแล้วเกินครึ่ง อีกทั้งการลงมติของพรรคร่วมรัฐบาลจะไปทิศทางเดียวกัน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวเช่นกันว่า ไม่ได้เตรียมองครักษ์พิทักษ์ แต่หาก ส.ส.เห็นว่าการอภิปรายไม่เข้าข้อบังคับก็มีสิทธิที่จะลุกขึ้นประท้วงได้ ซึ่งก็มีประมาณ 20 คน อย่าเรียกว่าองครักษ์เลย เป็นการจัดเวรมากกว่า ซึ่งเวรที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงเวรที่ทำหน้าที่ปกป้อง แต่เป็นเวรที่ต้องเข้ารับฟังในห้องประชุมบ้าง เน้นแบบนั้นมากกว่า
    “การลงคะแนนถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่เราเชื่อในความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะแกนนำพรรค หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคต้องแสดงน้ำใจ เมื่อทำงานร่วมกันมาต้องเป็นเอกภาพ เราเชื่อเช่นนั้น”
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่หมายถึงต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันระดับหนึ่ง ซึ่งต้องทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นพรรคร่วม และมั่นใจว่าไม่ต้องมีมาตรการอะไร 
สัมมนารับมือไม่ไว้วางใจ
    รายงานข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาลแจ้งว่า จะมีการสัมมนาของวิปรัฐบาลเพื่อเตรียมตัวก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เบื้องต้นได้กำหนดไว้วันที่ 22-23 ก.พ. ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยจะมี พล.อ.ประวิตรเป็นประธานในการสัมมนา รวมถึง ร.อ.ธรรมนัสเข้าร่วมงานด้วย ซึ่งวันสัมมนาอาจเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องรอการหารือของทั้ง 3 ฝ่ายในวันที่ 5 ก.พ.ก่อนว่าวันอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นวันใดแน่
ขณะเดียวกัน ที่พรรค พปชร.มีการประชุม ส.ส.ของพรรค โดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ไม่อยากย้อนไปในอดีตมาก เพราะมันจบไปแล้ว และไม่อยากพูดประเด็นเหล่านั้น วันนี้เราอภิปรายนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.2562 ดังนั้นหากย้อนไปมากจะมีการประท้วง และพรรคจะมีการตั้งวอร์รูม โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรค และตนเองเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายรัฐบาลไม่มีสิทธิ์พูด แต่หากมีการอภิปรายบิดเบือน ทางวอร์รูมของพรรคพร้อมตอบโต้ทันที
ขณะที่นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าพร้อมปกป้องนายกฯ และรัฐมนตรีทุกท่าน เพราะมั่นใจว่ารัฐบาลทำงานได้มีผลงานปรากฏ วันนี้ฝ่ายค้านไม่ควรพูดไปถึงอดีต เพราะนี่คือสภา ไม่ใช่ สนช. เรามีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยพร้อมที่จะเป็นองครักษ์พิทักษ์ความถูกต้อง
    สำหรับกรณีวิปรัฐบาลยื่นเรื่องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัยเพื่อให้แก้ไขถ้อยคำในญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากใช้ข้อความเป็นเท็จนั้น นายชวนกล่าวว่า ได้เรียกเลขาธิการสภาฯ มาหารือ ว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร ส่วนการจะแก้ไขได้หรือนั้น ขอดูรายละเอียดก่อน โดยในวันที่ 5 ก.พ. เวลา 09.00 น. จะเชิญทั้งฝ่ายค้าน  ฝ่ายรัฐบาล มากำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจร่วมกัน โดยได้จัดให้เป็นวาระด่วนแล้ว
    นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ กล่าวเรื่องนี้ว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายเลขาธิการสภาฯ โดยยังไม่ได้รายงานให้นายชวนรับทราบ แต่ญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจถูกบรรจุเข้าไปในวาระแล้ว เหลือแค่รอตกลงเรื่องวันและเวลาอภิปรายเท่านั้น โดยหลักการแล้ว หากญัตติใดที่บรรจุเป็นวาระแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ยกเว้นแต่ ส.ส.ฝ่ายค้านที่เข้าชื่อยื่นญัตติทุกคนจะยินยอม เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป ในการประชุมวิป 3 ฝ่ายวันที่ 5 ก.พ.นี้ 
“ตามปกติแล้วญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคงไม่อวยกันอยู่แล้ว ต้องใส่กันเต็มที่ ดังนั้น ถ้าเห็นว่าข้อมูลใดไม่ถูกต้องก็ค่อยไปชี้แจงกันในสภา ไม่ใช่เรื่องยาก” นายสมบูรณ์กล่าว
นายสุชาติยืนยันว่า คำว่ากร่าง เถื่อน คำเหล่านี้ไม่ใช่ญัตติ แต่เป็นการเขียนด่า หากไม่มีการแก้ไขญัตติให้เหมาะสม เมื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้นำฝ่ายค้านอ่านคำเปิดอภิปราย จะมีการประท้วงทันที เพราะบิดเบือนจากความเป็นจริง 
    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ประธานสภาฯ คงต้องวินิจฉัยข้อถกเถียงดังกล่าว หากไม่ได้พูดคุยกันก่อนเวลาอภิปรายก็จะเกิดการประท้วง หากมีเวลาอภิปราย 3-4 วัน ก็ต้องเสียเวลาประท้วงไป 1 วัน ประชาชนที่รับฟังจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นการคุยกันก่อนจะทำให้การประท้วงน้อยลง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวทำนองเดียวกันว่า เรื่องนี้ประธานสภาฯ จะเป็นผู้พิจารณา แต่อย่างไรฝ่ายค้านต้องเตรียมการอภิปรายอยู่แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลที่จะต้องเตรียมข้อมูล เพื่อตอบข้อซักถามของฝ่ายค้าน
    ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นอกจากรัฐบาลจะประสบกับปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ยังมีปัญหายาเสพติดที่รัฐบาลแก้ไขไม่ได้ ถือว่ารัฐบาลสอบตก เมื่อปี 2544 ยาบ้าเม็ดละ 400 บาท ปี 2554 ยาบ้าเม็ดละ 370 บาท ปัจจุบันยาบ้า 3 เม็ด 100 บาท จึงอยากให้รัฐบาลบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ในการทำงานร่วมกัน 
เหลิมดุซัดปากกล้าขาสั่น
     ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องกลัวการถูกซักฟอก จะกลัวทำไม ถ้ากลัวก็ควรลาออกไปอยู่บ้าน คนที่ออกมาพูดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายย้อนหลังไม่ได้นั้น น่าสมเพช เอาสมองส่วนไหนคิด รัฐบาลกำลังปากกล้าขาสั่น ในทางการเมืองถ้าบริสุทธิ์ ไม่ต้องกลัว คณะกรรมการกิจการพิเศษเตรียมข้อมูลไว้พร้อม จะอภิปรายเน้นไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่นายวิษณุออกมาบอกไม่เคยทำอะไรผิดนั้น ในวันอภิปรายเดี๋ยวก็รู้ว่าได้ทำอะไรไปบ้าง ซึ่งรัฐบาลนี้ได้ช่วยเหลือผู้กระทำผิด ไปๆ มาๆ กลายเป็นปล้นสมบัติชาติ โดยการแก้ไขกฎหมายในสมัย สนช. จะเปิดเผยรายชื่อให้หมด พวกคุณนั่นแหละเป็นคนขายชาติ ใน สนช.ขณะนั้นยังได้เป็น ส.ว.ปัจจุบันถึง 72 คน 
“เดี๋ยวจะรู้ว่าใครเป็นใคร ไอ้พวกจัญอัป นอกจากนี้ หลังการอภิปรายเสร็จสิ้น จะมีการประชุมยำใหญ่อีกรอบ โดยตัดคลิปรวบรวมข้อมูลรัฐมนตรีที่เมื่อถูกฝ่ายค้านถามไป หากตอบไม่ได้ ตอบไม่รู้เรื่อง จะเอามาเปิดให้ดู เชื่อว่ารัฐบาลอยู่ไม่ได้แน่ เมื่ออยู่ไม่ได้ก็คงต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ขอบอกไปถึงตัวแทนในรัฐบาล อย่าออกมาแบบสุ่มสี่สุ่มหก ใช้สมองคิดบ้าง อย่าใช้หัวแม่เท้าคิด ใครเป็นใคร ขอให้ไปกินยาอาปราคัวร์หรือยาแก้ปวดซะ คราวนี้เป็นทั้งสงครามเฉพาะกิจและยืดเยื้อผสมกัน” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว   
    เมื่อถามถึงวิปรัฐบาลออกมาระบุว่าฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจเป็นเท็จ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คนพูดกินยาผิดซอง ตอนปฏิวัติก็ได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 ใช้คำว่าฉีก เพราะเป็นคำจากที่ชาวบ้านใช้ เพราะเขาเกลียดรัฐบาล ดังนั้นจะใช้คำว่าฉีกหรือยกเลิกก็เหมือนกัน อย่ามาทำเป็นสนิมสร้อย ฝ่ายค้านยื่นไปไม่ผิดหรอก
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของประธานสภาฯ สิ่งที่เราได้ยื่นญัตติไปเป็นเพียงการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ นายกฯ สร้างปัญหา การฉีกรัฐธรรมนูญก็เป็นเพียงความต่อเนื่องที่มาถึงปัจจุบัน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"