(ตื่นนอนทุกเช้าให้ผู้สูงอายุนั่งแกว่งขาบนเตียงนอน เพื่อฝึกกำลังขาให้แข็งแรง ซึ่งเป็นการออกกำลังกายในบ้านโดยไม่ต้องออกไปสูดควันพิษนอกบ้าน)

 

      มีคำเตือนเกี่ยวกับฝุ่นควันพิษอยู่เป็นระลอก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อายุอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑล หรือแม้พื้นที่ทางภาคเหนือเอง ที่มีฝุ่นควันฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ จากปัญหาไฟป่าหรือการจุดเผาวัชพืชต่างๆ จากปัญหามลภาวะดังกล่าว ส่วนหนึ่งทำให้คนทั่วไปและคนวัยสูงอายุนั้นไม่สามารถออกจากบ้านได้ ดังนั้นการหากิจกรรมทำร่วมกับลูกหลาน อย่างการออกกำลังกายในบ้าน ถือได้ว่ามีประโยชน์ เพราะช่วยกระชับความผูกพัน และยังทำให้ร่างกายของผู้สูงวัยแข็งแรงได้แบบไม่ต้องออกไปสูดอากาศเป็นพิษนอกบ้านก็ว่าได้

(ผอ.ชำนาญ หลีล้วน)

      ผอ.ชำนาญ หลีล้วน ผู้อำนวยการ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนกระเบื้อง จ.ราชบุรี ให้ข้อมูลว่า “ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกหลานยุคใหม่นั้นค่อนข้างติดโทรศัพท์มือถือมากขึ้น จึงทำให้บางครั้งละเลยการดูแลผู้สูงวัย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย แต่อย่างไรก็ตาม การที่น้องๆ หนูๆ สละเวลาจากหน้าจอมือถือ เพื่อมาออกกำลังกายร่วมกับผู้สูงอายุก็จะมีประโยชน์ไม่น้อย เพราะอย่าลืมว่าการออกกำลังกายร่วมกับปู่ย่าตาทวดนั้น เป็นการกระชับความผูกพันและทำให้ครอบครัวอบอุ่น ได้ใช้เวลาว่างร่วมกัน อีกทั้งช่วยลดช่องว่างระหว่างวัยได้อีกด้วย

(ลูกหลานนวดดันฝ่าเท้าและฝ่ามือผู้สูงอายุเข้าหาตัว ช่วยทำให้กล้ามเนื้อขาและแขนแข็งแรง ที่สำคัญยังทำให้หัวใจแข็งแรง และได้ใช้เวลาร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งลูกหลานและ
ผู้สูงอายุ)

      เริ่มจากการที่ผู้สูงวัยนอนราบกับพื้น พร้อมกับยืดขาทั้งสองข้างไปข้างหน้า และให้ “ลูกหลานดัดเท้าของผู้สูงอายุเข้าหาตัวเบาๆ” ทั้งนี้เพื่อให้เกิดแรงต้าน ซึ่งแรงต้านนี้จะทำให้กล้ามเนื้อและหัวใจของผู้สูงอายุแข็งแรงมากขึ้น ที่สำคัญยังเป็นการได้ทำกิจกรรมทั้ง 2 ฝ่าย คือผู้สูงวัยและลูกหลาน นอกจากนี้ให้สลับเป็น “การดัดมือของผู้สูงอายุเข้าตัวเบาๆ” ซึ่งแรงต้านดังกล่าวก็จะทำให้ผู้สูงอายุมีกล้ามเนื้อแขนที่แข็งแรง ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งได้ทำกิจกรรมในบ้านร่วมกับบุตรหลานโดยที่ไม่ต้องไปสูดควันพิษนอกบ้าน และการออกกำลังกายในลักษณะดังกล่าวยังคล้ายกับการยกดัมเบลล์ของคนหนุ่มสาวอีกด้วย และหากบ้านไหนที่มีดัมเบลล์สำหรับออกกำลังกาย ลูกหลานสามารถนำมาให้ผู้สูงอายุ ออกกำลังกาย โดยช่วยคอยประคองหากว่าท่านรู้สึกเหนื่อยมากเกินไป

(ยืนแกว่งแขนในบ้าน 30 นาที ช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือดได้)

      นอกจากนี้ ผู้สูงอายุยังสามารถออกกำลังกายในบ้านด้วยตัวเอง อาทิ “การยืนแกว่งแขน” เพื่อช่วยลดพุง โดยแนะนำให้ใช้เวลาจำนวนครั้งตั้งแต่ 300 400 หรือ 500 ครั้งก็ได้เช่นกัน และให้ทำต่อเนื่องประมาณ 30 นาที หรือขณะที่กำลังตื่นนอนตอนเช้า และผู้สูงวัยนั่งอยู่บนเตียงก็สามารถ “นั่งแกว่งขาบนเตียง” และทำทุกอย่างโดยใช้ระยะเวลาเหมือนการยืนแกว่งแขน เพราะการแกว่งแขนหรือแกว่งขาให้ได้ 20 นาที จะช่วยเผาผลาญน้ำตาลในร่างกาย แต่ถ้าทำได้ครบ 30 นาที จะช่วยเผาผลาญไขมันร่างกายจากแรงต้านขณะที่เรากำลังออกกำลังกายในรูปแบบดังกล่าวนั่นเอง”.