ป่าหินงามแดนมังกร


เพิ่มเพื่อน    

 
ประติมากรรมหน้าสถานีรถไฟคุนหมิง                       

                สิ่งที่ทำให้คุนหมิงมีชื่อเสียงและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดก็คือ “ป่าหิน” แสนงาม ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองชือหลินของชาวยี กลุ่มชาติพันธุ์หลักในจังหวัดคุนหมิงที่มีประชากรอันดับ 2 เป็นรองเพียงชาวฮั่น ป่าหินชือหลินอยู่ห่างจากเขตตัวเมืองคุนหมิงประมาณ 90 กิโลเมตร

                 ช่วงเช้าของวันผมยังหาวิธีเดินทางไปป่าหินไม่ได้ เดินไปอู่รถบัสเยื้องๆ สถานีรถไฟคุนหมิง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เข้า ทราบว่าเป็นเพียงที่จอดรถ ลองเดินไปดูในเวิ้งข้างสถานีรถไฟก็เป็นสถานีชัตเทิลบัส รับ-ส่งผู้โดยสารจากสถานีรถไฟไปยังสนามบิน หาคำตอบได้ในภายหลังว่าหากจะเดินทางไปป่าหินด้วยรถบัสต้องไปขึ้นที่สถานีรถบัสตะวันออก อยู่ห่างจากที่พักไปพอสมควร เมื่อไม่เช่ารถ ไม่นั่งแท็กซี่ ไม่ไปกับกลุ่มทัวร์ ก็เหลืออีกวิธีเดียว คือนั่งรถไฟไปต่อรถบัสท้องถิ่น

                 เห็นว่าเช้านี้ยังพอมีเวลา ผมลองเดินเข้าไปในสถานีรถไฟเพื่อสำรวจวิธีการซื้อตั๋ว ขั้นแรกต้องเข้าคิวเดินผ่านเครื่องสแกนทั้งคนและสัมภาระ มีเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องแต่ละเครื่อง เข้าไปเจอโถงขายตั๋วเขียนว่า Ticket 2 มีตู้อัตโนมัติจำนวนมากสำหรับซื้อตั๋ว Ticket Buying และรับตั๋ว Ticket Pickup (หากซื้อออนไลน์ไว้แล้ว) นอกจากป้ายเขียนภาษาอังกฤษแล้วที่ตู้ก็มีปุ่มให้กดภาษาอังกฤษ แต่พอกดปุ๊บโผล่มาแต่ภาษาจีน ลองหลายตู้ก็ได้ผลเหมือนกัน

                 จากนั้นเดินไปที่โซน Ticket 1 เป็นแบบเข้าแถวซื้อกับเจ้าหน้าที่ มีอยู่ด้วยกันหลายแถว ผู้คร่ำหวอดการท่องเที่ยวในจีนท่านหนึ่งเคยบอกผมว่าไม่ช่องซ้ายสุดก็ขวาสุด เจ้าหน้าที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ ผู้คร่ำหวอดท่านนี้ไม่ซื้อตั๋วแบบออนไลน์ ให้เหตุผลว่าเพราะถึงอย่างไรก็ต้องไปรับตั๋วที่สถานีอยู่ดี


พิพิธภัณฑ์ป่าหิน เขตปกครองตนเองชือหลิน จังหวัดคุนหมิง

        ผมถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ว่าซื้อตั๋วและรับตั๋วที่ช่องไหน ทั้งคู่ดูจะฟังภาษาอังกฤษไม่ออก แต่รู้ว่าผมสื่อสารอะไร พูดออกมาว่า “นัมเบอร์วัน” แล้วชี้ไปที่ช่องซ้ายสุด ได้ข้อมูลจำเป็นแค่นี้แล้วผมก็เดินกลับที่พัก จองตั๋วออนไลน์กับแอปท่องเที่ยวรายใหม่มาแรง ตั๋วรถไฟจากสถานีคุนหมิงไปสถานีชือหลินตะวันตก (Shilin Xi) เที่ยว 12.43 น. แล้วก็จองตั๋วจากคุนหมิงไปฉงชิ่ง เที่ยว 20.49 น. วันนี้เช่นเดียวกัน แล้วจัดการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า เช็กเอาต์และฝากกระเป๋าไว้กับโฮสเทล เจ้าของคิดค่าฝาก 5 หยวน

         ถึงสถานีรถไฟก็ไม่ผิดหวัง เจ้าหน้าที่ช่องซ้ายสุดพูดภาษาอังกฤษได้จริงๆ รับพาสปอร์ตและมือถือของผมไปดูภาพหน้าจอที่แคปเจอร์บุคกิ้งนัมเบอร์ไว้ ผมขอรับทั้งตั๋วคุนหมิงไปชือหลิน และตั๋วคุนหมิงไปฉงชิ่งพร้อมๆ กัน


หนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดนิยมของป่าหินชือหลิน

        ขั้นต่อมาคือเดินเข้าช่อง Entrance บรรดาช่องอัตโนมัติที่ใช้บัตรแตะให้ประตูเปิดนั้นสำหรับคนจีน เข้าใจว่าบัตรที่ใช้แตะกับเครื่องคือบัตรประชาชน ชาวต่างชาติต้องเดินไปหาเจ้าหน้าที่ช่องซ้ายสุด เขารับพาสปอร์ตกับตั๋วไปดูแล้วอนุญาตให้เข้าไปยังห้องผู้โดยสารขนาดใหญ่โตโอ่โถงอย่างกับสนามบิน ผมตรวจสอบข้อมูลบนจอดิจิตอลติดผนัง แสดงขบวนรถ เวลาออก และเลขประตูสำหรับออกไปชานชาลา ตรงประตูทางออกมีป้ายเขียนไว้ว่า Check In ต้องใช้ทั้งตั๋วและพาสปอร์ตอีกเหมือนกัน

        ตั๋วระบุหมายเลขโบกี้ที่ 3 ผมให้เจ้าหน้าที่บริเวณชานชาลาดูตั๋ว เขาชี้ให้เดินขึ้นหน้าไปไกลๆ รถไฟขบวนยาวมาก หากไม่เตรียมตัวขึ้นให้ตรงโบกี้อาจมีปัญหาได้


กลุ่มชาติพันธุ์ยีโชว์ศิลปะดนตรีและการแสดงแก่นักท่องเที่ยว

        รถไฟความเร็วสูงวิ่งเข้ามาจอดตรงเวลา ในตู้โบกี้แบ่งเป็นห้อง ห้องละ 6 ที่ ผู้โดยสารนั่งหันหน้าเข้าหากัน ฝั่งละ 3 คน ผมหาห้องเจอแล้วก็วางกระเป๋าไว้เตียงบน หากเป็นรถไฟเที่ยวกลางคืนห้องนี้ก็จะเป็นตู้นอนสำหรับ 4 คน

                 รถไฟแวะจอดที่สถานีคุนหมิงใต้แล้วก็ถึงปลายทางสถานีชือหลินตะวันตก เวลา 13.27 น. ตรงตามตั๋วเป๊ะๆ พอเดินออกมายังด้านนอกอาคารสถานีรถไฟก็เห็นรถประจำทางจอดอยู่ 2 คัน สาย 66 และ 99 ผมไม่รู้ว่าสาย 66 ไปไหน แต่สาย 99 นั้นไปป่าหินแน่นอน

                 คนขับรถหัวโล้นเกลี้ยงเกลาแวววาวฟังภาษาอังกฤษไม่ออก แต่คงรู้ว่าผมถามค่าโดยสาร แกชี้ไปที่กระดาษติดหน้ารถ ระบุ 10 หยวน ผมหย่อนเงินลงกล่องแล้วก็ขึ้นไปนั่งด้านหลัง บนรถมีผู้โดยสารไม่ถึง 10 คน รถออกเวลา 14.40 น. ถึงป้ายสุดท้ายปลายทางประมาณ 15.20 น. ตีว่ารถวิ่ง 40 นาที ตัวเลขเวลานี้สำคัญมาก เพราะต้องคำนวณไว้สำหรับขากลับเข้าคุนหมิง


มุมหนึ่งในป่าหินชือหลิน

         รถจอดด้านข้างอาคารใหญ่ หนุ่มสาวคู่หนึ่งงุนงงอยู่ว่าจะไปทางไหนต่อ ผมก็เหมือนกัน พี่คนขับหัวโล้นชี้บอกพวกเขาให้เดินเข้าไปด้านในอาคาร ผมก็เดินตาม กะจะตามคู่นี้ไปจนถึงป่าหิน แต่พวกเขาถูกคนเข้ามาเสนอขายทัวร์เสียก่อน ผมเดินหลีกไปเข้าห้องน้ำ ออกมาก็ไม่เจอคู่หนุ่มสาว หันไปเห็นช่องขายตั๋วอยู่ด้านในสุด ปรากฏว่าเป็นจุดขายตั๋วรถบัสกลับเข้าเมืองคุนหมิง ถามป้าหลังเคาน์เตอร์ว่าป่าหินไปทางไหน แกชี้ไปทางขวามือของผม บอกว่าให้เดินไป 300 เมตร

        ผมเดินออกนอกอาคารไปตามทางที่แกชี้ พบว่าเป็นลานจอดรถบัส คงเป็นรถบัสสำหรับพวกกลุ่มทัวร์ จึงเดินกลับเข้าอาคารเพื่อจะหาคนถามใหม่ เห็นร้านขายไก่ทอดฟาสต์ฟู้ดจึงแวะเข้าไปกินมื้อเที่ยง ต่อด้วยกาแฟร้อน แล้วก็เกิดอาการร้อนใจขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าเหลือเวลาน้อยมากสำหรับป่าหินขนาดใหญ่ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ทิศทางใด และเพื่อประกันว่าจะกลับเข้าเมืองทันรถไฟไปฉงชิ่ง ผมก็จองตั๋วรถไฟออนไลน์จากสถานีชือหลินตะวันตกไปยังสถานีคุนหมิงเที่ยว 17.25 น. เหลืออยู่เที่ยวเดียวที่เวลาเอื้ออำนวย

                 ออกจากร้านไก่ทอดแล้วก็เดินวนเข้าตัวอาคาร ทราบตอนนี้ว่าอาคารชื่อ Reception Center แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นศูนย์ต้อนรับแบบไหน คราวนี้เข้าไปถามเจ้าหน้าที่คุมเครื่องสแกนสัมภาระ เขาชี้ไปคนละฝั่งกับป้าขายตั๋วรถบัสเข้าเมืองคุนหมิง ผมเดินออกไปเจอรถสาย 99 จอดอยู่ เตรียมรับคนไปส่งสถานีรถไฟ คนขับยังเป็นพี่หัวโล้นคนเดิม ผมส่งมือถือให้แกดูรูปป่าหิน แกจูงมือผมเข้าไปในตัวอาคาร เข้าไปที่ป้าขายตั๋วรถบัส ป้าก็ชี้มือแล้วพูดเหมือนเดิม “ทรีฮันเดรดมีเตอร์” ถึงตอนนี้พี่คนขับรถหัวโล้นเดินหายไปแล้ว


ป่าหินชือหลินได้รับเกรด AAAAA โบราณสถานระดับสูงสุด

        เมื่อป้ายืนยันผมก็เดินตามไปอย่างที่แกบอก สุดเขตของลานจอดรถแล้วเป็นด่านเก็บค่าจอดรถ แล้วออกสู่ถนนใหญ่ บนถนนไม่มีใครอื่นนอกจากผม ตัดสินใจเดินไปทางขวามือ ช่วงหนึ่งสวนกับรถรับส่งคน คาดว่ารับส่งระหว่างป่าหินกับทางเข้าลานจอดรถ เดินจนถึง 3 แยก ผมเลี้ยวซ้าย เจ้าหน้าที่ยืนอยู่แถวนั้นไม่ห้ามปรามก็แสดงว่ามาถูกทาง สรุปว่า 300 เมตรที่ป้าขายตั๋วรถบัสบอกคือระยะทางจากอาคารต้อนรับสู่ถนนใหญ่นำทางสู่ป่าหิน 

                 ผมเดินมากกว่า 1 กิโลเมตรกว่าจะถึงจุดที่คนเข้าคิวยืนรอรถไปส่งในป่าหิน เจ้าหน้าที่สาวชี้ให้ไปซื้อตั๋วในอาคารหลังหนึ่ง เธอคงกลัวว่าผมจะแอบเดินตรงไปป่าหินจึงเดินคุมผมมาจนถึงหน้าอาคาร ตั๋วชมป่าหินราคา 130 หยวน และตั๋วสำหรับใช้รถรับส่งอีก 25 หยวน ได้ตั๋วแล้วผมก็วิ่งไปให้เจ้าหน้าที่สาวคนเดิมตรวจตั๋ว ผ่านเครื่องสแกน แล้วเดินตามช่องไปเข้าคิวรอรถไฟฟ้ารับส่งที่เรียกว่า Battery Car

                 รถรับส่งนี้ไม่ได้ส่งถึงหน้าป่าหิน หากแต่ปล่อยคนลงหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ป่าหิน หากเจียดเวลาเข้าพิพิธภัณฑ์ ผมดูแล้วยังไงก็มีเวลาไม่พอ มุ่งหน้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งอีกเกือบ 1 กิโลเมตรกว่าจะถึงประตูทางเข้าป่าหิน เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ในการชมอุทยานป่าหินขนาดยักษ์ ภายในพื้นที่รวม 400 ตารางกิโลเมตร มีทั้งป่าหินหลากหลายแบบ ทะเลสาบ ถ้ำ น้ำตก แม่น้ำ และภูเขา ใช้เวลาทั้งวันก็ยังชื่นชมได้ไม่ทั่วถึง

                 ป่าหินนี้มีอายุประมาณ 270 ล้านปี แต่ก่อนเคยเป็นทะเล การเคลื่อนที่ของเปลือกโลกทำให้น้ำทะเลค่อยๆ ลดลง และหินปูนผุดขึ้นมาแทนที่ การกัดกร่อนจากลมและฝนผ่านเวลาอันยาวนานทำให้กลายเป็นป่าหินที่สวยงามที่สุดในโลก มีรูปทรงแตกต่างหลากหลายคล้ายมีชีวิตจนยากจะเชื่อว่าเป็นฝีมือของประติมากรนามกาลเวลา


ป่าหินชือหลินมีอายุราว 270 ล้านปี

                ในสมัยราชวงศ์หมิง หรือหกร้อยกว่าปีก่อนก็มีผู้ยกให้ป่าหินแห่งนี้เป็น First Wonder of the World สิ่งมหัศจรรย์แรกของโลก ปัจจุบันทางการจีนจัดความสำคัญให้อยู่ในระดับ AAAAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของโบราณสถานสำคัญของชาติ ด้านองค์การยูเนสโกก็รับรองเป็นมรดกโลก

                ผมชมไป วิ่งไป ถ่ายรูปไป แต่ก็ได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของป่าหินทั้งหมด แล้วก็ต้องวิ่งออกจากประตูทางเข้า เลี้ยวไปยังจุดจอดรถไฟฟ้ารับส่ง รอจนคนเต็มแล้วจึงออกไปส่งที่ปากทางเข้าอาคาร Reception Center ความจริงแล้วตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ควรนั่งรถรับส่งไฟฟ้าเข้าไปยังจุดจำหน่ายตั๋วป่าหิน นึกสงสัยว่าเหตุใดป้าขายตั๋วรถบัสไม่ชี้มาทางนี้ อย่างไรก็ตาม เราจะมองจากภายในตัวอาคารไม่เห็นบริเวณนี้

                นาฬิกาบอกเวลา 16.15 น. ตอนที่ผมวิ่งไปขึ้นรถบัสสาย 99 รอจนถึง 16.30 น. กว่ารถจะออก มีผู้โดยสารเพียงห้า-หกคน รู้สึกได้ว่ารถวิ่งช้ากว่าขามา ทำให้ร้อนรนกระวนกระวายนั่งแทบไม่ติด กระทั่งรถเข้าจอดหน้าสถานีรถไฟชือหลินตะวันตกเวลา 17.20 น. เหลือ 5 นาทีก่อนรถไฟออก รีบวิ่งไปรับตั๋วที่เคาน์เตอร์หน้าสถานี ตอนจะเข้าสถานีเจ้าหน้าที่หนุ่มดันมาแสดงความพิศวงงงงวยกับพาสปอร์ตของผม ตรวจสอบอยู่สักพักแล้วใช้มือถือถ่ายรูปพาสปอร์ตไว้เป็นหลักฐานก่อนอนุญาตให้เข้าไปได้ ทันขึ้นรถไฟอย่างเฉียดฉิว

                รถไฟเข้าจอดที่สถานีคุนหมิงเวลา 18.08 น. ผมเดินไปรับกระเป๋าที่โฮสเทล มีเวลาเหลือเฟือกว่ารถไฟไปฉงชิ่งจะออกตอน 20.49 น. ขึ้นไปลาลุงโนบุบนชั้นดาดฟ้า วันนี้แกดื่ม Tuborg ไป 2 ขวด ครบโควตาแล้ว ก่อนจะออกจากโฮสเทลได้สนทนากับหนุ่มจีนคนหนึ่ง เขาพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย บอกว่ากำลังจะบินไปเมืองไทยวันพรุ่งนี้ สาวไทยรอเขาอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ รู้จักกันผ่าน WeChat โซเชียลเน็ตเวิร์กยอดนิยมของจีน


พาหนะที่พบเห็นได้ระหว่างเส้นทางป่าหิน-สถานีรถไฟชือหลินตะวันตก

                ในเมื่อภาษาอังกฤษของเขาไม่ดี พูดไทยไม่ได้ ก็เป็นไปได้ว่าสาวสุรินทร์มีความสามารถในการพูดจีน แต่แอป WeChat ที่พวกเขาใช้พูดคุยโต้ตอบกันนั้นสามารถแปลจีนเป็นไทย แปลไทยเป็นจีนได้ จึงไม่กล้าสรุปว่าเมื่อทั้งคู่เจอกันแล้วจะสื่อสารกันอย่างไร หรือยังจะใช้แอปแปลกลับไปกลับมา แต่สุดท้ายความรักก็คงจะเอาชนะอุปสรรคทางภาษาได้ไม่ยากเย็น

                ผมกล่าวลาเจ้าของโฮลเทลและหนุ่มผู้กำลังมีความรัก เดินไปสถานีรถไฟ แวะกินเคเอฟซีในสถานี พนักงานสาวคนหนึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก ทางร้านคงจ้างไว้รับมือลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะ ผมต้องซื้ออาหารมากิน 2 ชุดกว่าจะอิ่ม จากนั้นจึงเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร

                รถไฟขบวน K692 ของผมไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง วิ่งข้ามคืน ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ราคาตั๋วของตู้นอนพิเศษ 1,552 บาท พอๆ กับรถไฟความเร็วสูง โดยรถไฟความเร็วสูงใช้เวลาวิ่งไม่ถึง 5 ชั่วโมง แต่เส้นทางนี้ไม่มีบริการในตอนกลางคืน 

                รถไฟออกตรงเวลาตามปกติ ในห้องสำหรับผู้โดยสาร 4 คน เตียงบน-ล่าง 2 ฝั่ง ผมได้ที่นอนด้านล่าง ผู้โดยสารร่วมห้องอีกคนนอนเตียงบนฝั่งตรงข้าม มีรถเข็นขายของผ่านหน้าห้อง ผมออกไปถามหาเบียร์ สาวเจ้าคนขายไม่รู้จัก

                “เบียร์” ผมพูดพร้อมทำท่ายกกระป๋องขึ้นดื่ม เธอก็ยังไม่เข้าใจ ชี้ไปที่บรรดาอาหารและเครื่องดื่มในรถเข็นเป็นเชิงว่าเชิญหาสิ่งที่ต้องการเอาเอง ผมหยิบได้กระป๋องหนึ่ง บนกระป๋องมีแต่ภาษาจีน เข้าใจว่าน่าจะเป็นเบียร์ เธอพูดขึ้นว่า “ผีจิ่ว” หลังจากนั้นผมก็ท่อง “ผีจิ่วๆๆ” จนขึ้นใจ

                เป็นสิ่งที่เหลือเชื่ออยู่เหมือนกัน คำว่าเบียร์น่าจะเข้าใจได้ในทุกมุมโลก หากเราไปพูดคำว่าเบียร์ในสเปนที่เขาเรียก “เซอร์เวซา” ก็คงเข้าใจอยู่ดี แต่จีนยิ่งใหญ่ถึงขึ้นไม่แคร์ว่าโลกจะเรียกมันว่าอะไร

                ในเมื่อภาษาของเขามีคนใช้มากกว่าพันล้านคน.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แกลลอรี่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"