ทัพเรือภาคที่ 2 จับเรือคราดปลิงทะเลเวียดนาม 4 ลำ รุกน่านน้ำไทย ตรวจเข้มไวรัสโควิท-19


เพิ่มเพื่อน    

 

16 ก.พ. 2563 เรือหลวงล่องลม เรือ ต.111 และเรือ ต.274ได้ควบคุมเรือคราดปลิงทะเลเวียดนาม 3 ลำและลูกเรือ 16 คนเข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 ส่วนเรือหลวงปัตตานีกำลังเดินทางกลับเข้าฝั่งพร้อมลากจูงเรือคราดปลิงทะเลเวียดนามอีก 1 ลำและลูกเรือ 5คน เนื่องจากเรือเครื่องยนต์ขัดข้อง  ในการปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถจับกุมเรือคราดปลิงทะเลเวียดนามทั้งหมด4 ลำและลูกเรือรวม 21 คน 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่14 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2(ศรชล.ภาค 2) ได้รับรายงานจากสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ 2 และสมาชิกชมรมวิทยุมดดำนาวีทัพเรือภาคที่2 ว่ามีเรือประมงต่างชาติ ซึ่งเป็นเรือประเภทคราดปลิงรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในทะเลอาณาเขตของประเทศไทย  

พลเรือโทสำเริง  จันทร์โส ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 จึงสั่งการให้ เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงล่องลม เรือ ต.111 และเรือ ต.274 โดยให้ เรือหลวงปัตตานี เป็นเรือควบคุมการปฏิบัติออกปฏิบัติภารกิจในการตรวจสอบเรือประมงต่างชาติลักลอบทำการประมงในพื้นที่รับผิดชอบดังกล่าวจากปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามได้จำนวน 4 ลำ ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวมจำนวน 21 คน 

สำหรับจับกุมในครั้งนี้ถือว่า เป็นการจับกุม เป็นครั้งที่ 5 ในปีงบประมาณ 2563โดยมีจำนวนเรือที่จับกุมมาแล้ว รวม 8 ลำ ผู้ต้องหารวม 42 ราย และเพื่อเป็นการดำเนินการตามมาตรการในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 จึงได้มีการจัดทีมแพทย์/พยาบาล จากโรงพยาบาลฐานทัพเรือสงขลาดำเนินการตรวจคัดกรองลูกเรือทั้งหมดก่อนขึ้นจากเรือ โดยทำการซัก/สอบ ประวัติเพื่อประเมินความเสี่ยง และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย 

จากการคัดกรองแล้วพบว่าไม่มีลูกเรือที่ต้องสงสัยจากการคัดกรองในครั้งนี้ เนื่องจากลูกเรือประมงชาวเวียดนามทั้งหมดไม่ได้เดินทางมาจากประเทศจีนหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาและไม่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยการติดเชื้อทั้ง 16 คน ทั้งนี้ยังมีลูกเรือประมงชาวเวียดนาม ที่ยังอยู่ระหว่างเดินทางมาอีกจำนวน 5 คน ซึ่ง ศรชล.ภาค 2 จะได้ทำการคัดกรองตามกระบวนการเช่นเดียวกันนี้ต่อไป

สำหรับการตั้งข้อหากับเรือประมงต่างชาติไว้ครั้งนี้เนื่องจากเป็นการจับกุมได้ในพื้นที่ทะเลอาณาเขตของประเทศไทยจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาจำนวน 5 ข้อหา ดังนี้ 1.ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 36 ประกอบมาตรา 129 วรรคสอง 

2.เป็นคนต่างด้าวร่วมกันทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 มาตรา 5 ทวิ และ มาตรา 11 ทวิ 

3.ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 มาตรา 7 วรรคหนึ่ง (1) มาตรา 11 วรรคหนึ่ง   

4. ไม่เข้า - ออก ตามช่องด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่ที่กำหนด/ไม่เข้า - ออกตามเวลาที่กำหนด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 62

5. เข้ามาหรือออกไปโดยยื่นรายการและไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเส้นทางนั้นตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 18 วรรคสอง ประกอบมาตรา 62 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 (ศรชล.ภาค 2)ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 113,275 ตารางกิโลเมตร นั้นเราจะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในพื้นที่เป็นอันขาดและขอความร่วมมือพี่น้องชาวประมงได้ช่วยแจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิดทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทยต่อไป“เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"