"บิ๊กตู่" เมินร่วมวงสัมมนา พปชร. อ้างงานล้นมือยันแจงซักฟอกเองได้ ขณะที่ "วิษณุ" แนะ รมต.ที่โดนอภิปรายควรไปร่วม ปธ.วิปรัฐบาลดักคอฝ่ายค้านอย่าขุดแต่เรื่องเก่า ขืนผิดข้อบังคับโดนประท้วงจนออกห้องประชุมแน่ พท.โวข้อมูลเพียบนายกฯ เอื้อเจ้าสัว เย้ยทนฟังไม่ได้ให้รีบชิงลาออก

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาเพื่อรับมือญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พัทยา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 22-23 ก.พ.ว่า เป็นเรื่องของคณะทำงานทางการเมืองที่เขาทำอยู่แล้ว ซึ่งตนมีงานที่ต้องทำทั้งวันอยู่ ตนมีงานเยอะก็ต้องเตรียมการของตัวเอง และคิดว่าตนอธิบายให้คนเข้าใจได้ ถ้าคนไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
    โดยช่วงเช้านายกฯ เดินทางไปที่ศูนย์ชุมชนโครงการเคหะร่มเกล้า 2 ถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง  เพื่อเป็นประธานมอบสัญญาเช่าในโครงการ "บ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน" โดยการเคหะแห่งชาติมอบแก่ผู้ได้รับสิทธิ์เช่าราคาพิเศษ ในโครงการเคหะร่มเกล้า 2 และโครงการเคหะลาดกระบัง 2 จำนวน 50  คน โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมให้การต้อนรับ
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เห็นรอยยิ้มและใบหน้าทุกคนมีความสุขตนก็มีความสุข รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้เป็นประธานเปิดโครงการในวันนี้ ซึ่งตนคิดเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่ ว่าทำอย่างไรจะให้ทุกคนมีความสุขมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องปัจจัยพื้นฐาน ทั้งบ้าน อาชีพ รายได้ และโครงสร้างพื้นฐานให้เข้าสู่การดูแลของรัฐ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรจึงมีแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูป ดังนั้นโครงการดีๆ เหล่านี้ต้องไม่จบเพียงที่แรกหรือโครงการ 2-3 แต่ต้องมีต่อๆ ไปเพื่อให้คนมีบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยที่ดีกว่าเดิม 
    "ตั้งแต่เข้ามาเห็นรอยยิ้มมาตลอด ไม่เห็นใครหน้าบึ้งหรือคงไม่แสดงให้เห็น แต่ถึงอย่างไรอย่าโกรธ อย่าเกลียด อย่าโมโหผมเลย ผมกำลังทำทุกอย่างให้ทุกคนในประเทศนี้ รวมทั้งรัฐมนตรีทุกคนก็ช่วยกันทำงาน คนดียังมีอีกเยอะ ส่วนคนไม่ดีก็ต้องขจัดออกไปซึ่งมีกฎหมายทุกตัว เชื่อว่าหากพูดจาหารือกันก็จะหาทางออกได้ทุกเรื่อง ดีกว่าทะลาะเบาะแว้งกันบ้านเมืองไม่ได้อะไรขึ้นมา วันนี้เราจำเป็นต้องสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งยากเหมือนกันที่จะทำให้ทุกคนมีรายได้สูงขึ้นทันที  รัฐบาลจึงต้องสร้างโครงสร้างหลายอย่าง ต้องมียุทธศาสตร์ชาติเพื่อวางแผนไม่ให้ใช้เงินเกินตัว วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยสักอย่าง แต่มีผลงานให้ประชาชนสัมผัสได้ สิ่งเหล่านี้ทุกอย่างมีผลทำให้ทุกคนหลับสบายฝันดี และไม่ต้องไปปวดหัวกับข่าวสารที่ทำรกสมอง วันเสาร์อาทิตย์นายกฯ นอนหลับสบาย  ใครจะว่าอะไรไม่ได้อ่านเพราะสุขภาพจิตมันเสีย" นายกฯ ระบุ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคน รัฐมนตรี ผู้ว่าฯ รวมถึงทุกคนที่ไม่เอ่ยชื่อ แต่ไม่ต้องกลัวตำแหน่งยังอยู่กับท่านอยู่แล้ว ยังไม่ไปไหนตอนนี้ หากทำงานดีก็เจริญก้าวหน้า  นอกจากนี้หลังจบงานวันเดียวกันนี้มีแขกต่างประเทศรอเข้าพบ ซึ่งมีคนบอกไม่มีคนอยากคบกับตน แต่มีแขกต่างประเทศมาหาทุกวัน พร้อมชื่นชมตนและรัฐบาลมาตลอด จึงไม่รู้ไปเอาจากไหนที่บอกว่าไม่มีคนอยากคบตนแล้ว
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรคพลังประชารัฐจัดทีมองครักษ์นอกสภาว่า เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนกรณีที่เคยหารือร่วมกับรัฐมนตรีและตัวแทนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก่อนหน้านี้นั้น ?เป็นการหารือเกี่ยวกับขั้นตอนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ? ซึ่งบางเรื่องยังไม่ได้คำตอบจึงจะมีการหารือกันต่อในการสัมมนาของพรรคพลังประชารัฐที่พัทยาในสุดสัปดาห์นี้ ส่วนตนจะไปร่วมหรือไม่นั้นยังไม่ชัดเจน? เพราะในวันดังกล่าวมีภารกิจส่วนตัว แต่โดยหลักแล้วรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายถูกอภิปรายควรจะไปเพื่อจะได้ฟังคำแนะนำจากคนที่มีประสบการณ์? 
    ส่วนที่ฝ่ายค้านรู้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่เป้าหมายคือเปิดประเด็นให้สังคมกดดันรัฐบาล นายวิษณุกล่าวว่า เป็นธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกสมัย ตนอาจไม่เคยถูกอภิปราย?แต่เคยอยู่ในเหตุการณ์ และเตรียมการให้รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายมาก่อน รู้ว่าการที่จะไม่ให้เกิดเปลี่ยนแปลงในสภา หนึ่งคือต้องอาศัยคะแนนเสียงในสภา และการเปลี่ยนแปลงนอกสภา ต้องทำให้เกิดความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจ? ความหนักแน่นในคำตอบตรงนี้? ถือเป็นธรรมดา 
    นายวิษณุยังกล่าวถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า หลัง ส.ว.พิจารณาแล้วขณะนี้ยังไม่ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมาให้รัฐบาลเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เข้าใจว่าวันนี้หรือวันที่ 18 ก.พ.จะส่งมายังรัฐบาล เมื่อได้รับแล้วรัฐบาลต้องเก็บไว้ 5  วันก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ? ถวาย แต่ไม่ถือว่าเป็นการเสียเวลาเพราะมีกระบวนการพิมพ์เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และคาดว่าวันที่ 18 ก.พ.เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ
    ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายย้อนหลังไปถึงสมัยรัฐบาลภายใต้การบริหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า วิปรัฐบาลได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบที่มาและเหตุผลในการเขียนถ้อยคำญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีของฝ่ายค้าน ว่ามีแนวความคิดแบบใดจึงได้เขียนญัตติในลักษณะดังกล่าว ตามที่วิปรัฐบาลได้เปิดเผยก่อนหน้านี้แล้วว่ามีข้อความในลักษณะอันเป็นเท็จ
    เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายย้อนหลังไปถึงสมัยรัฐบาลภายใต้บริหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายวิรัชกล่าวว่า หากฝ่ายค้านอภิปรายในเรื่องเก่าประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์  ส่วนอีก 80 เปอร์เซ็นต์เป็นการอภิปรายการบริหารของรัฐบาลปัจจุบันก็พอรับได้ แต่หากจะพูดเรื่องเก่า  80 เปอร์เซ็นต์ แล้วพูดเรื่องใหม่แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องเปลี่ยนญัตติใหม่ ให้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่รัฐบาลในสมัยนั้น ไม่ใช่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปัจจุบัน
    "ขอให้การอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นไปตามข้อบังคับ เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อครั้งการประชุมที่หอประชุมใหญ่ทีโอที ซึ่งมีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ โดยเราได้มีการทักท้วงจนหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวต้องออกจากห้องประชุมไป" ประธานวิปรัฐบาลระบุ
    นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การสัมมนาวิปรัฐบาลระหว่างวันที่ 22-23 ก.พ.ที่พัทยา เป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ได้เป็นการวางแผนเพื่อช่วยรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย เพราะรัฐมนตรีแต่ละคนสามารถตอบคำถามได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ตอบรับว่าจะเดินทางไปเข้าร่วม มีเพียง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์เท่านั้นที่ตอบรับ
    ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์เร่งรัดให้มีการย้ายโรงงานยาสูบย่านคลองเตย  เนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ ที่อยู่ติดกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ พระนครศรีอยุธยา และจะต้องก่อสร้างอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ทั้งที่บริเวณนั้นปี 2554 เคยเกิดน้ำท่วมหนักมาก ขณะที่โรงงานยาสูบกำลังจะเปลี่ยนเป็นโครงการ THE PARQ มีทั้งคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ  ช็อปปิ้งมอล โรงแรม มูลค่าโครงการกว่า 2 หมื่นล้านบาท ที่จะทำเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ CBD ที่ตนพูดเพื่อพยายามชี้ให้เห็นว่ามีความพยายามจะเอื้อเจ้าสัวหรือไม่ 
    "คณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทยเตรียมข้อมูลอย่างดี จะชี้ให้ประชาชนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญ ทำงานไม่รอบคอบอย่างไร จะแฉ พล.อ.ประยุทธ์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ชอบไปพัวพันกับเจ้าสัว ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ทนฟังที่ไปพัวพันเจ้าสัวไม่ได้ ยังมีเวลาภายในอาทิตย์นี้ควรไปลาออกก็ยังทัน แต่อย่าไปยุบสภาเพราะเรื่องนี้ ส.ส.ไม่เกี่ยว ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะเดือดร้อนด้วย" นายยุทธพงศ์กล่าว.