พาณิชย์ย้ำชัดห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย


เพิ่มเพื่อน    

 

20 ก.พ. 2563 นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้ส่งออกมาขออนุญาตส่งออกหน้ากากอนามัยตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่กำหนดให้ผู้จะส่งออกตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไปต้องมาขออนุญาตกับกรมฯ ก่อน โดยมีจำนวนมากถึง 25 ล้านชิ้น ซึ่งกรมฯ ยังไม่ได้อนุญาตให้มีการส่งออกแต่อย่างใด เพราะต้องการให้มีใช้ในประเทศอย่างเพียงพอก่อน แต่ได้ข่าวว่ามีผู้ค้า ผู้ส่งออกบางราย อาศัยช่องว่างของประกาศ กกร. ส่งออกหน้ากากอนามัยในจำนวนที่น้อยกว่ากำหนด เช่น ส่งออกครั้งละ 450 ชิ้น จึงทำให้สถานการณ์ของหน้ากากอนามัยในประเทศยังไม่คลี่คลาย แต่สามารถหาซื้อได้มากขึ้น และง่ายขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา

"กรมฯ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย พยายามทำให้หน้ากากอนามัยในประเทศมีเพียงพอใช้ โดยได้รับบางส่วนจากผู้ผลิต แล้วมากระจายต่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ อย่างโรงพยาบาล กระจายผ่านองค์การเภสัชกรรม และกระจายไปยังร้านธงฟ้ากว่า 800 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้งกระจายให้กับร้านสะดวกซื้อ ทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น , มินิบิ๊กซี รวมถึงวิลล่า มาร์เก็ต เป็นต้น”

ส่วนกรณีการขออนุญาตส่งออกหน้ากากอนามัยชนิดพิเศษ เช่น หน้ากากอนามัยใช้โรงงานอุตสาหกรรม หน้ากากป้องกันสารเคมีและวัตถุอันตราย หรือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์บางชนิดที่ไม่ใช้ในไทย กรมฯ จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป และหากมีการอนุญาตให้ส่งออกได้ ผู้ส่งออกจะต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ขอส่งออกจำนวนเท่าไร ต้องผลิตหน้ากากอนามัยชนิดธรรมดาที่ใช้ป้องกันเชื้อโรคเหมือนที่ใช้กันอยู่ขณะนี้ในจำนวนเท่ากัน เพื่อขายในประเทศ เพื่อทำให้มีหน้ากากอนามัยใช้อย่างเพียงพอ

นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับการขายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินจริง กรมฯ ได้ส่งสายตรวจออกไปตรวจสอบวันละ 10 สาย สามารถจับกุมผู้ค้าที่ขายในราคาสูงเกินจริงแล้ว 20 ราย เป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 ราย และต่างจังหวัดอีก 4 ราย ซึ่งได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังเปรียบเทียบปรับผู้ค้าที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาอีก 6 ราย  

“หากประชาชนพบเห็นการขายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินจริง ทั้งผู้ค้าทั่วไป หรือผู้ค้าทางออนไลน์ ขอให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 และขอให้ระบุตัวตนผู้กระทำผิดให้ชัดเจน เช่น ชื่อร้านค้า ที่ตั้งร้านค้า หรือชื่อเว็บไซต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น”นายวิชัยกล่าว

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กองตรวจสอบและปฏิบัติการได้ตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางออนไลน์ พบเฟซบุ๊กชื่อ สุระเดช โตนชัยภูมิ จำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ราคาชิ้นละ 14 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการล่อซื้อจำนวน 29 กล่อง (กล่องละ 50 ชิ้น) รวมเป็น 1,450 แผ่น เป็นเงินจำนวน 20,300 บาท โดยได้นัดส่งของที่หน้าอาคารสยามรัฐ เชิงสะพานพระราม 8 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด เมื่อถึงเวลาส่งของได้พบกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวมาส่งของให้กับพนักงานเจ้าที่ในราคา 14 บาทต่อชิ้น ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อชำระเงิน พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหาจำหน่ายสูงเกินสมควรตามมาตรา 29 ตามคดีอาญาเลขที่ 37/63 เลขบัญชีของกลาง 15/63

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ มีหน่วยงานราชการของไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และในประเทศที่พบคนติดเชื้อ ได้ส่งเรื่องมายังกรมการค้าภายใน เพื่อขอซื้อหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาก และยังพบว่า รัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้าน ได้ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อขอซื้อจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากประเทศผู้ผลิตและส่งออกหน้ากากอนามัยของโลกส่วนใหญ่ห้ามส่งออก รวมถึงไทย และต้องขออนุญาตก่อนส่งออก ส่งผลให้ขณะนี้เกิดความขาดแคลนหน้ากากอนามัยไปทั่วโลก             
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"