ช่วงระยะแห่งการเปลี่ยนผ่าน


เพิ่มเพื่อน    

      ในสภาฯ วันนี้...คงหนีไม่พ้นต้องเจอกับ ยุทธการอรุณรุ่ง ของพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรค เผาไทย  โดยมี ดอกเตอร์หลาม หรือ ดอกเตอร์เหลิม เป็นผู้กำกับ ส่วนนอกสภาฯ เริ่มตั้งแต่วัน-สองวันที่ผ่านมา ไปจนถึงวันต่อๆ ไป อาจต้องเจอกับ ยุทธการอรุณวัชระสวัสดิ์ หรืออรุณอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่  อันเนื่องมาจากอาการ ฉุนเต่า ของพวกเด็กๆ หรือพวก ฟ้ารักพ่อ ทั้งหลายเขา หรือไม่ อย่างไร ก็คงต้องคอยติดตาม คอยเฝ้าระแวดระวัง กันไปเป็นระยะๆ...

                                                                 ------------------------------------------------------

      แต่ภายใต้บรรยากาศที่ อรุณ หรือดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาพร้อมๆ กันถึง 2 ดวงเช่นนี้ ยังไงๆ...ย่อมน่าส่งผลให้ พระจันทร์ หรือดวงจันทร์ ไม่น่าจะถึงกับ โอชา มากมายซักเท่าไหร่ เผลอๆ อาจจะรับประแ-ก รับประทานไม่ลง เอาดื้อๆ!!! อารมณ์ประเภทที่ออกไปทางเจริญอาหาร ซู้ดๆ ซ้าดๆ ประเภทอร่อยจังเลย หรืออร่อยจังตังค์อยู่ครบ มันน่าจะเหือดๆ หายๆ ลงไปมิใช่น้อย แม้ว่า ดอกเตอร์หลาม หรือ ดอกเตอร์เหลิม จะออกไปทาง บ๋อๆ แบ๋ๆ หรือพวก ฟ้ารักพ่อ จะทำได้แค่แฟลชแดนซ์ หรือแฟลชม็อบ ไม่ถึงกับสว่างโร่ ไม่สามารถ ลงถนน ได้แบบต่อเนื่อง ยาวนาน แบบยุคเท่าที่ผ่านๆ มาได้อีกต่อไป...

                                                                   ----------------------------------------------------

      เพราะแม้จะไม่มีนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม อย่าง ดอกเตอร์เหลิม หรือไม่มีพวกเด็กๆ อย่างพวก  ฟ้ารักพ่อ แต่แค่ต้องเจอกับ อาจารย์โกวิท (Covid-19) รายเดียวเท่านั้น!!! โอกาสที่พุ่มพวงดวงจันทร์จะต้องเกิดอาการลิ้นขม ลิ้นชา รับประทานอะไรแทบไม่ลง หรือแทบไม่มีโอกาส จันทร์โอชา ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ อยู่แล้วแน่ๆ หรือเมื่อต้องเจอกับภาวะ นักท่องเที่ยวจีน หดหายไปเกือบ  80-90 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยนักเที่ยวสิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไปจนถึงยุโรปและอเมริกา ฯลฯ โน่นเลย ที่แทบไม่เหลืออารมณ์ท่องเที่ยว เดินทาง ไม่คิดจะจงจรเที่ยว เทียวบทไป เหมือนอย่างเคย อันเนื่องมาจากเชื้อไวรัสของอาจารย์โกวิท เพียงเท่านี้...ก็แทบแ-กไม่ลง กันไปอีกนานเท่านาน...

                                                                     ----------------------------------------------------

      โอกาสที่ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ประเทศไทย...ที่เคย ศุกร์ 13 ฝันหวาน ว่าจะโต 4 โต  5 หรือเลวร้ายที่สุดก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 3 กว่าๆ มาถึง ณ ทุกวันนี้ แนวโน้มที่มันอาจหดจู๋เหลือแค่ 1 กว่าๆ  ชักจะมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และไม่ว่าจะหันไปอัดๆ ฉีดๆ กันในลักษณะไหนก็ตาม โอกาสที่มันจะผงกหัว จะเงยหน้า อ้าปาก ยิ่งแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เอาเลยแม้แต่น้อย อันเนื่องมาจากมันไม่ใช่เป็นแค่ ปัญหาทางเทคนิค ของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาเท่านั้น แต่มันเป็น ปัญหาระดับโครงสร้าง ของโลกทั้งโลก เอาเลยก็ว่าได้...

                                                                     ------------------------------------------------------

      โลกที่กำลังจะเกิดความหมุนเวียน เปลี่ยนแปลง จาก ระบบ และ ระเบียบ แบบเดิมๆ ไปสู่สิ่งใหม่ๆ ที่ใครต่อใครยังนึกภาพไม่ออก ว่ามันจะเป็นอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือสิ่งเก่าๆ ระบบ และ  ระเบียบ เก่าๆ มันทำท่าว่าจะอยู่ไม่ได้ และคงต้องถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ การอาศัย แนวคิด เก่าๆ หรือ ทฤษฎีเก่าๆ เป็นทางออกในการแก้ปัญหา ก็อาจพอทำได้แค่ชั่วครั้ง ชั่วคราว แต่สุดท้ายแล้ว...ถ้ายังคิดจะเดินทางไปในเส้นทางเดิมๆ แนวเดิมๆ โอกาสที่จะ ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                                                                     ----------------------------------------------------------

      ยิ่งเมื่อต้องมาเจอกับ ความเป็นไทยแท้แต่ดั้งเดิม ที่ออกไปทาง ดีทุกอย่าง แต่ เสียอย่างเดียว คือเสียที่มันเป็นอะไรแบบไทยๆ ชนิดแก้ยังไงก็แก้ไม่หาย หรือความถนัด จัดเจน ในการหันมาไล่งับ ไล่ฟัด แค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่อง ระหว่างกันและกันนั่นเอง จาก ความเป็นเหลือง-เป็นแดง ที่ยังไม่สามารถประสาน เชื่อมโยง ปรองดอง สมานฉันท์ ให้กลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ง่ายๆ มาถึงทุกวันนี้...กลับขยับขยาย พัฒนาการ วิวัฒนาการ ไปเป็น ความเป็นไดโนเสาร์ กับ ความเป็นกะปอม ที่พร้อมจะไล่งับ ไล่ฟัด กันในทุกขอบเขต พื้นที่ ไล่มาตั้งแต่ โลกเสมือนจริง ไปถึง โลกแห่งความเป็นจริง ในทุกๆ กรณี...

                                                                       -------------------------------------------------------

      ดังนั้น...เมื่อต้องมาเจอกับภาวะความผันผวน ปรวนแปร ของโลกทั้งโลก ที่มันกำลังจะเปลี่ยนแปลง หรือถ้าว่ากันตามภาษาสำนวนของ ป๋าเปลว สีเงิน ของหมู่เฮา ก็คือกำลังจะ ลอกคราบ ไปสู่สิ่งใหม่ หรือสู่อะไรใหม่ๆ ที่ยังเห็นหน้า เห็นตา ไม่ค่อยชัดเจน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ยังไงๆ มันคงต้อง เปลี่ยน ไปอยู่แล้วแน่ๆ อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้การรับมือปัญหาต่างๆ ไม่ว่าภายนอก ภายใน มันอาจเป็นอะไรที่ ตึงมือ เกินไปกว่านักร้องเสียงทอง อย่าง พุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือนักแต่งเพลง อย่าง ป.ประยุทธ์ จะรับประทานกันแบบ จันทร์โอชา ได้ง่ายๆ...

                                                                        -------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าดวงอาทิตย์ของ ดอกเตอร์เหลิม จะแผดแสงร้อนแรงกันไปถึงขั้นไหน หรือไม่ เพียงใด ไม่ว่าอรุณของพวกเด็กๆ ประเภท ฟ้ารักพ่อ จะออกไปทางอรุณ วัชระสวัสดิ์ หรืออรุณใดๆ ก็แล้วแต่ การนำพาประเทศไทยให้ผ่านพ้นไปจากภาวะความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ได้อย่างอยู่รอด ปลอดภัย อยู่เย็นเป็นสุข มันอาจต้องอาศัย ตัวเลือก หรือ ทางเลือก ที่มากไปกว่าเท่าที่มีอยู่ หรือเท่าที่ต้องใช้บริการกันในทุกวันนี้ ส่วนจะเป็น ใคร หรือเป็น อะไร นั้น คงต้องไปนั่งคิด นอนคิด กันเอาเองก็แล้วกัน...

                                                                         -----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Peter F. Drucker...“The best way to predict the future is to  create it. - วิธีคาดคะเนอนาคตที่ดีที่สุด คือการสร้างสรรค์มันขึ้นมาเอง...”

                                                                           ---------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"