เปิด “คลินิกข้อมูลข่าวสารเคลื่อนที่” ดันบริการภาครัฐโปร่งใส-เข้าถึงปชช.


เพิ่มเพื่อน    

 

              จากผลสำรวจขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ได้ประกาศอันดับดัชนีการรับรู้การทุจริตจากทั่วโลก เมื่อปี พ.ศ.2562 พบว่าประเทศไทยมีคะแนนลดลง อยู่ในลำดับที่ 101 จากเดิมลำดับที่ 99 ใน 180 ประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องในการบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม

                ทำให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ภายใต้การนำของ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. 2540 ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานสำคัญในการชี้วัดความสำเร็จของหน่วยงานที่มีธรรมาภิบาล ได้เปิดโครงการใหม่แกะกล่อง “คลินิกข้อมูลข่าวสารเคลื่อนที่” เพื่อทำงานเชิงรุก โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงาน ในการให้คำปรึกษา แนะนำแก้ไขปัญหาการใช้กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการแก่หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ ให้ปฏิบัติราชการอย่างถูกต้อง ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา 

                โดย สปน.ได้ขับเคลื่อนเพื่อผลักดันให้หน่วยงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของรัฐเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามที่กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการกำหนดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่บัญญัติให้รัฐเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาธารณะ รวมทั้งพัฒนาระบบบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และงานของรัฐอย่างอื่น ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการรับทราบ และเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด

                สำหรับคลินิกข้อมูลข่าวสารเคลื่อนที่ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นี้ มีเป้าหมายออกหน่วยคลินิกข้อมูลข่าวสารเคลื่อนที่เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการไปยังหน่วยงานในส่วนกลางทุกวันศุกร์ โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป และคาดว่าภายในปี 2564 จะสามารถลงพื้นที่ตรวจสุขภาพข้อมูลข่าวสารหน่วยงานส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งผลจากการออกหน่วยคลินิกข้อมูลข่าวสารไปยังหน่วยงานต่างๆ โดยตรงในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความตื่นตัวให้กับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

                หลังที่ผ่านมาพบว่ามีเรื่องการขอข้อมูลจากประชาชนเข้ามาบ่อยครั้ง เฉลี่ย 1 เดือนประมาณ 30-40 เรื่อง และบางเรื่องเมื่อประชาชนไปขอจากหน่วยงานต่างๆ แล้วไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ก็จะมาร้องเรียนที่ส่วนกลางให้ดำเนินการ เช่น กรณีญาติเสียชีวิตไปขอข้อมูลเรื่องการชันสูตรศพ หรือกรณีสงสัยว่าโครงการต่างๆ มีการทุจริตก็มาขอดูรายละเอียดกับกระทรวง แต่เมื่อกระทรวงไม่สามารถให้ได้ เพราะบางครั้งเป็นเอกสารลับ ทำให้ประชาชนต้องมาร้องเรียนที่ส่วนกลางทำเนียบรัฐบาล ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน และให้การทำงานของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สปน.จึงจัดโครงการดังกล่าวขึ้น

                โดยการดำเนินโครงการได้ตระหนักถึงการบริหารจัดการภาครัฐอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาธารณะตามที่พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 กำหนดได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐพัฒนาไปสู่ระบบการบริหารที่มีธรรมาภิบาล โดยหน่วยงานของรัฐทุกแห่งสามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยสมัครลงทะเบียนเพื่อขอรับการตรวจสุขภาพข้อมูลข่าวสารของราชการที่เว็บไซต์ www. oic.go.th./Clinic

                ขณะเดียวกัน สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของราชการนี้ ทาง สปน.ยังได้เพิ่มช่องทางรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบดิจิทัลด้วย ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการจะเป็นส่วนในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยประชาชนสามารถตรวจสอบสถานะข้อมูลการร้องเรียนของตนได้ที่ www.oic.go.th. ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตรวจสอบสถานภาพเรื่องร้องเรียนต่างๆ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

                อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการดังกล่าว คาดว่าในปีหน้าจะสามารถลงไปได้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ รวมถึงในต่างจังหวัด โดย “สปน.” ในฐานะหน่วยงานของรัฐ จะทำหน้าที่กำกับดูแลส่วนราชการให้มีข้อมูลข่าวสารที่แม่นยำ ถูกต้อง โปร่งใส ก่อนจะถ่ายทอดลงไปสู่การรับรู้ของประชาชน.

 

แสงทราย

  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"