9 มี.ค. 2563 นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ มีการดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าประมาณ 50-60% และมีการเปิดให้บริการไปแล้ว 25% รวมถึงในอนาคตทุกๆ ปีหลังจากนี้ จะมีการเปิดให้รถไฟฟ้าเส้นทางใหม่และส่วนต่อขยายของเส้นทางรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2563

อย่างไรก็ตาม สนข. จึงมีแผนศึกษาระบบขนส่งสาธารณะรอง (Feeder) เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะหลัก โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆ ทั้งที่เปิดให้บริการแล้ว และอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จในช่วง 3-5 ปีนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางสะดวก รวมถึงดึงดูดให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น 

ทั้งนี้ สนข.จะต้องมาพิจารณาศึกษาระบบ Feeder จุดเชื่อมต่อที่สถานีต่างๆ สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลสายหลักและสายรองในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-MAP) เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่จะต้องมีการเชื่อมต่อจากสถานีรังสิตกับพื้นที่บริเวณใกล้เคียงโดยรอบ อาจจะพิจารณาก่อสร้างทางเดินเชื่อมต่อ (Skywalk) ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงที่จอดรถในสถานีรถไฟฟ้า (Park & Ride) เป็นต้น 

ขณะเดียวกัน สนข.จะจัดลำดับความสำคัญกำหนด Feeder จากโครงการรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วเป็นลำดับแรก โดยในเบื้องต้นจะใช้ระบบขนส่งขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มาให้บริการก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปีนี้ ก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาต่อไป

นายชยธรรม์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ สนข. มีแผนที่จะศึกษาการเชื่อมต่อระบบรางกับทางเรือ (รางต่อเรือ) เนื่องจากมองว่าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีคลองหลายเส้นทางที่สามารถใช้สัญจรได้ แต่ยังไม่มีท่าเรือที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวนั้น เพื่อเพิ่มทางเลือกการเดินทางในเส้นทางคลองเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า รวมถึงจุดเชื่อมต่อ Feeder ต่างๆ ในกรณีที่สถานีไม่มีที่จอดรถ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะต้องพิจารณาจำนวนของผู้โดยสาร (ดีมานต์) ที่จะมาใช้บริการ ก่อนที่จะกำหนดท่าเรือต่อไป