คิดให้ดี-ให้ละเอียดรอบคอบเข้าไว้


เพิ่มเพื่อน    

 

        แค่เฉพาะการบริหาร จัดการ ภายในพรรคแกนนำรัฐบาล อย่าง พลังประชารัฐ รายเดียวเท่านั้น ก็เรียกว่า...น่าจะ เต็มกลืน อยู่พอสมควร กับการแบ่งมุ้ง แบ่งเต็นท์ แยกเหล่า แยกกอ เพื่อให้เกิดการ  จัดสรรปันส่วนผสม ไปตามทางใครก็ทางมัน แต่นี่ยังต้องมาเจอกับการบริหาร จัดการ ในพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง ประชาธิกัด เข้าไปซะอีกต่างหาก อะไรที่เคยกลืนๆ ชักออกอาการ กรดไหลย้อน ชักเริ่มล้นปรี่ขึ้นมาถึงคอหลอยย์ย์ย์ กันมั่งแล้ว...

                                                             -----------------------------------------------------

                และสำหรับ ประชาธิกัด คราวนี้...ต้องเรียกว่า มากันเป็นแผงๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะ เทพไท เสนพงศ์ เพียงรายเดียวเท่านั้น ทั้งคนเก่า คนแก่ ทั้งเด็กใหม่ หน้าใส แบบชนิดถอดปลอก ถอดด้าม ยังออกอาการ ไม่คิดพายเรือให้โจรนั่ง ขึ้นมาซะดื้อๆ!!! ซึ่งจะไปสรุปว่าเป็นเพราะแรงจูงใจจากผลประโยชน์ส่วนตัว จากความอยากได้ตำแหน่ง อยากได้เก้าอี้ เพียงล้วนๆ แต่เพียงเท่านั้น คงไม่น่าจะถูกเรื่อง ถูกราว ซักเท่าไหร่ เพราะมันน่าจะมีอะไรที่เกี่ยวพันกับเรื่อง อารมณ์-ความรู้สึก เรื่องของ ทัศนคติ ที่ยังไม่ถึงกับลงร่อง ลงตัว โดยเฉพาะถ้าหาก บารมี ของผู้บริหาร จัดการ หรือ ผู้นำ ชักเริ่มลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ...

                                                             ------------------------------------------------------

                คือถ้าหากเป็นบารมีระดับ ป๋าเปรม นั้น...แม้แต่ ประชาธิกัด ก็เถอะ ก็อาจเลิกกัด เลิกแค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่องได้เสมอๆ สามารถ เงียบกริ๊บ ตลอดทั้ง 8 ปี ไม่คิดจะ เทพไท เสนพงศ์ อะไรกับใครเค้าเลย แต่สำหรับ บิ๊กตู่ นั้น...อย่างที่เคยว่าๆ เอาไว้แล้วนั่นแหละว่า ออกจะ คนละสไตล์ กับ ป๋าเปรม แบบคนละเรื่อง คนละม้วน อีกทั้งตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา ทั้งบารมี ทั้งบริบูรณ์บาล์ม ต่างก็ถูกนำมาใช้ไปจนแทบไม่เหลือติดกล่อง ติดมันหม่อง กันซักเท่าไหร่นัก จนแม้แต่ ป๋า เอง เคยทักทาย  เคยทำนายทายทักเอาไว้นานแล้ว ว่า ตู่ใช้กองหนุนไปแทบหมดแล้ว ดังนั้น...โอกาสที่จะทำให้ ประชาธิกัด เลิกกัด เลิกยึดมั่นอยู่ในอารมณ์-ความรู้สึกเดิมๆ ทัศนคติเดิมๆ หรือวาสนาเดิมๆ มันออกจะยากซ์ซ์ซ์อยู่พอสมควรเหมือนกัน...

                                                                -------------------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าว่ากันตาม กลไกโดยปกติ การไม่มี ประชาธิกัด หรือการปล่อยให้กัดโน่น กัดนี่ ไปตามประสา ก็คงไม่น่าจะถึงกับทำให้รัฐบาลต้องล้มคว่ำ คะมำหงาย หรือล้มครืน เอาง่ายๆ เพราะโดยกลไกที่ว่า มันยังมีการออกแบบ ดีไซน์ เตรียม ลิ้นชักสำรอง เอาไว้เยอะแยะ คือยังมี ลิง และมี งู อีกเป็นจำนวนมากมาย ที่พร้อมจะ กินกล้วย ไม่ใช่แต่เฉพาะเป็นรายตัว รายหัว แต่เพียงเท่านั้น  เผลอๆ...อาจกินกันเป็นพรรคๆ เอาเลยก็ไม่แน่!!! ด้วยเหตุนี้...โดยอากัปกิริยา อาการ ของ บิ๊กตู่ จึงไม่ถึงกับออกอาการ กรดไหลย้อน หรือออกอาการอ้วกแตก-อ้วกแตน มากมายซักเท่าไหร่นัก แถมยังเปิดช่อง เปิดประตู ก่อนโดดขึ้นไปนั่งตีขิมอยู่บนกำแพง โดยอาศัยคำพูดสั้นๆ แต่เพียงว่า ก็ถอนไปสิ อะไรทำนองนั้น...

                                                                  --------------------------------------------------------

                ไม่ต่างอะไรไปจาก บิ๊กป๊อก ที่แม้นานๆ จะพูดที...แต่การหยิบเอาเนื้อหา สาระ ในหนังสือ สมบัติผู้ดี ว่าด้วย มารยาท ในการไม่พูดจาล่วงละเมิดไปถึงผู้อื่น พรรคอื่นนั้น ก็น่าจะสะท้อนได้ว่า คงมีการตระเตรียม วัคซีน แก้พิษสุนัขบ้า หรือพิษแมลงสัตว์กัดต่อย เอาไว้พอสมควรแล้ว ดังนั้น...การกัดไป-กัดมา ของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรค ประชาธิกัด คงไม่น่าถึงขั้นที่จะส่งผลให้ความเป็นรัฐบาล ต้องล้มคว่ำ คะมำหงาย ไปก่อนกำหนดการอย่างที่คิดๆ กัน เพราะยังมีทางออก ทางไป หรือทางรอด อยู่อีกเยอะแยะมากมาย ตามคุณลักษณะความเป็นไปของ กลไกโดยปกติ...

                                                                     -------------------------------------------------------

                แต่ก็อย่างว่า...โดยฉากสถานการณ์ หรือโดยซินาริโอทางการเมืองทุกวันนี้ มันคงไม่ได้มีแต่เฉพาะ  กลไกโดยปกติ เท่านั้น ที่เป็นตัวขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวความเป็นไปในบ้านเมือง ณ ขณะนี้ หรือในอนาคตเบื้องหน้า การลุกฮือขึ้นมาเต้น แฟลชแดนซ์ หรือ แฟลชม็อบ ของบรรดาพวกเด็กๆ ของนิสิตนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ คงมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า มันได้กลายเป็นตัวเปิดช่อง เปิดทาง ให้กับ กลไกที่ไม่ปกติ มีโอกาสได้อุ่นเครื่อง เดินเครื่อง ขึ้นมาได้อีกครั้ง และถ้าหากการหาทางออก ทางรอด หรือทางไป ตาม กลไกโดยปกติ ของรัฐบาล ไม่ได้สง่างาม ไม่ได้โดดเด่น เป็นสง่า อย่างเท่าที่ควรจะเป็น ก็อาจเป็นอะไรที่หนีไม่พ้นต้องไปเข้าทางเท้า เข้าทางตีน ของการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวโดย  กลไกที่ไม่ปกติ นั่นเอง...

                                                                          ----------------------------------------------------

                อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องคิดเอาไว้ประมาณ 3 ชั้น 8 ชั้น หรือประมาณ 10 ตลบเป็นอย่างน้อย เพราะการ ผูกติด ความเป็นผู้นำรัฐบาล เอาไว้กับสิ่งอื่นๆ ที่มีความสำคัญเอามากๆ ต่อความเป็น ความตาย ของชาติบ้านเมือง อย่างใกล้ชิด สนิทแนบแน่นจนเกินไป มันอาจทำให้ทางออก ทางไป หรือทางรอด ของรัฐบาล อาจกลายเป็นตัวส่งผลกระทบ หรือก่อให้เกิดผลพวงที่ไม่ค่อยสดใส โดดเด่น เป็นสง่า มากมายซักเท่าไหร่ ตามมาอย่างมิอาจปฏิเสธได้ ยิ่งสำหรับผู้ที่เคยเป็น อดีตทหาร อย่าง บิ๊กตู่ บิ๊กป้อม หรือ บิ๊กป๊อก ด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่น เป็นสง่า ของ สถาบันกองทัพ หรือของคำพูด คำปฏิญาณ อันว่าด้วย ข้าพเจ้าจะรักษามรดกของพระองค์ด้วยเลือด ที่ต้องท่องกันอยู่ทุกเช้า ขณะตีนยังเท่าฝาหอย ย่อมน่าจะมีความสำคัญพอที่จะทำให้ต้องคิดหน้า คิดหลัง คิดประมาณ 3 ชั้น 8 ชั้น หรือประมาณซัก 10 ตลบ ยิ่งน่าจะดียิ่งขึ้นไปใหญ่...

                                                                          --------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Sir Bruce Fraser...Ships, men, and weapons change, but  tradition, which can neither be bought nor sold, nor created, is a solid rock amidst shifting  sands. - เรือ ทหาร และอาวุธ เปลี่ยนแปลงไป แต่ประเพณีอันไม่อาจซื้อ หรือขาย หรือประดิษฐ์ขึ้นมาได้ คือก้อนหินแข็งท่ามกลางกองทรายที่เปลี่ยนตำแหน่งไปตามพายุ”.

                                                                          -------------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"