นายกฯกำชับล้อมคอกอุบัติเหตุสงกรานต์


เพิ่มเพื่อน    

     สตช.สั่งตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติตามมาตรการอำนวยความสะดวก รับมืออาชญากรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่งคนกลับบ้านด้วยความปลอดภัย เข้มงวดผู้ขับรถเร็ว ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ไม่สวมหมวกกันน็อก เตือนเล่นน้ำฉวยโอกาสลวนลาม ลูบคลำของสงวน มีโทษติดคุกถึง 10 ปี นายกฯ จี้กวดขันคนขับรถโดยสาร ทั้งเน้นตรวจสภาพรถ
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มีนาคมนี้ ถึงมาตรการดูแลการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า จะไม่เน้นเฉพาะเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น แต่จะเน้นทั้งปี ซึ่งได้สั่งการไปแล้วให้มีชุดตรวจไปตรวจเรื่องของยานพาหนะ สภาพรถ หรือสารเสพติดในพลขับรถทุกคัน โดยต้องทยอยดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และใครที่ตรวจสอบพบก็จะต้องห้ามขับไปจนกว่าจะผ่านการตรวจสอบได้ ไม่เช่นนั้นก็อันตรายทั้งปี
    “ขอฝากไว้ว่า สงกรานต์ ขอให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัยในปีนี้ และขอให้ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า ใช้น้ำอย่างประหยัด อย่าไปใช้น้ำเพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว หรือใช้มากเกินไป จะเป็นการสาดทิ้งขว้างเสียไปเปล่าๆ บางทีมันก็ไม่ใช่ธรรมเนียม ก็ขอให้เล่นกันแต่พอสมควร ใช้น้ำอย่างประหยัด” นายกฯ กล่าว
    นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขนาดยังไม่ถึงสงกรานต์ก็เกิดขึ้นแล้ว ตายเจ็บกันเยอะแยะไปหมด เพราะฉะนั้นต้องกวดขันผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นรถขนส่ง รถทัวร์ต่างๆ ทั้งหมด ต้องมีการตรวจสอบพลขับและสภาพรถด้วย ซึ่งรัฐบาลเองก็มีนโยบายว่าทำอย่างไร จะทำให้รถโดยสารที่วิ่งต่างจังหวัดใช้รถที่ปลอดภัย ที่ผ่านมาไม่มีการควบคุมกันก็ทำให้เสียหายกันมาเยอะแยะ เช่น รถมีความสูงเกิน 3.50 เมตร บางคันทำสูงไปกันจนถึง 4 เมตรกว่า ทั้งๆ ที่กำหนดไม่ให้เกิน 4.0 เมตร ก็ฝ่าฝืนกันไป พอรัฐบาลไปเร่งรัด ไปบีบมากๆ ก็กลายเป็นว่าทำให้ธุรกิจเสียหาย ก็ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ดังนั้นในระยะยาวต้องไปปรับแก้ อย่างรถ 2 ชั้น จะวิ่งทางไกลในพื้นที่ที่อันตรายไม่ได้ อาจจะใช้วิ่งท่องเที่ยวแค่เฉพาะในเขตเมืองเท่านั้น 
    ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การให้บริการและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการเดินทางของประชาชนในห้วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2561 ด้วย 4 มาตรการหลัก โดยมาตรการแรก อำนวยความสะดวกเรื่องการจราจรการเดินทางกลับภูมิลำเนา 2.ให้บริการพี่น้องประชาชนในการเดินทาง 3.มาตรการความปลอดภัย และ 4.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม 
    ส่วนการบริการ ให้ตำรวจทุกแห่งทุกสถานี โดยเฉพาะตำรวจทางหลวง เปิดเป็นจุดบริการพี่น้องประชาชนที่จะใช้พักระหว่างขับรถหรือใช้ห้องน้ำ สำหรับมาตรการความปลอดภัย เน้น “รยฝง 3 ข 4 ม” เริ่มจาก “ร” เข้มงวดกับคนที่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย “ย” หามขับรถย้อนศร “ฝ” ไม่ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟ “ง” ง่วงไม่ขับ, “3 ข” ข.1 ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ข.2 ต้องมีใบขับขี่รถยนต์ ข.3 ไม่แซงในที่คับขัน “4 ม” ม.1 ไม่เมาสุราขณะขับรถ ม.2 สวมหมวกนิรภัย ม.3 ใช้จักรยานยนต์ต้องมีความปลอดภัย ม.4 ไม่ใช้มือถือขณะขับรถ ใน 11 มาตรการนี้ ตร.จะเริ่มกวดขันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยมีรอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผบช. ลงไปกำกับดูแลตรวจสอบด้วย ให้บรรลุผลเป็นรูปธรรม
    "สิ่งที่มาคู่กับเทศกาลสงการณ์คือการจำหน่ายสุรา ถ้าจำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำหน่ายสุราบนทาง โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลสั่งให้พักใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 6 เดือน และรถยึดไม่เกิน 7 วัน ถ้าเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย จิตใจ บาดเจ็บเล็กน้อย จำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท ถ้าบาดเจ็บสาหัส โทษจำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท และถ้าเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที"
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวด้วยว่า ในส่วนการลวนลามสุภาพสตรี เช่น จับที่หน้าอก กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ เช่น กักไม่ให้เดินผ่าน มือสัมผัสหน้าอก โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อัตราโทษสูงมาก อย่ามองเป็นเรื่องเล็ก ส่วนอายุไม่เกิน 15 ปี เด็กผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็ตาม เป็นความผิดตามมาตรา 279 โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ช่วงสงกรานต์แต่ละปีมีคดีเช่นนี้จำนวนมาก เตือนไปยังวัยรุ่นอย่าคึกคะนอง จะผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อผิดแล้วจะมาอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ส่วนการนั่งท้ายกระบะเดินทางกลับต่างจังหวัดนั้น ตำรวจยังอนุโลมนั่งได้ แต่ต้องอยู่ในความปลอดภัย แต่ถ้ามีการดื่มสุราถูกจับแน่นอน.          


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"