เสร็จศึกไวรัสโควิด-19 ถึงเวลาจัดทัพใหม่รบ.


เพิ่มเพื่อน    

                มรสุมรุมเร้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หนีไม่พ้นการแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ที่กระทบไปถึงปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ฉุดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน 

                บางเรื่อง “บิ๊กตู่” ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล แม้ตัวเองไม่ได้รับผิดชอบหรือเป็นเจ้าของไอเดีย แต่ในฐานะผู้นำจึงหลีกลี้ไม่พ้น เสียงบ่น คำวิจารณ์ต่างๆ นานา หรือเรียกว่าถูกด่าฟรี... ไปได้  

                แต่ใช่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะหมดกำลังใจ แม้จะถูกตำหนิก็ถือว่าเป็นบทเรียน พร้อมแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการรับฟังเสียงประชาชน เรื่องไหนไม่ดี สังคมไม่ตอบรับ ก็ไม่ดันทุรัง แต่ยังกล้าที่จะสั่งเบรก โละ และเลิกอย่างเด็ดขาดทันที โดยไม่กลัวเสียหน้า หรือยอมให้คนในรัฐบาลอุทธรณ์ หรือยื้ออีกต่อไป

                ยกตัวอย่างง่ายๆ 2 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งระงับไปหมาดๆ หลังการผลักดันจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอุตตม  สาวนายน รมว.การคลัง ผุดแนวคิดรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คือ 1.หยุดยาวช่วงสงกรานต์ 9 วัน เพื่อให้คนไปท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย และ 2.แจกเงิน 1 พันบาทต่อเดือน 2 เดือน ให้กับ ประชาชนรายได้น้อย เกษตรกรและผู้ประกอบอาชีพอิสระ 14 ล้านคน รวมเป็นเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

                หลังจากเจอเสียงต้านอย่างหนัก เพราะมองว่ารัฐบาลหมดมุกคิดอะไรไม่ออก ก็ “แจกเงิน” หรือ “หยุดงาน” อีกทั้งผู้คนยังเห็นว่าช่วยเหลือไม่ตรงจุด และไม่ครอบคุลมพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ แม้แต่คนในพรรคพลังประชารัฐอย่าง นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ยังออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิเคราะห์ทำไมมาตรการ "แจกเงิน" ถึงได้รับก้อนอิฐมากกว่าดอกไม้... สะท้อนถึงความล้มเหลวของมาตรการนี้ ในแง่ของการสร้างความเข้าใจ 

                แตกต่างจากมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 ของกระทรวงพลังงาน ที่ ครม.เพิ่งเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา คืนเงินประกันค่ามิเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 21.5 ล้านครัวเรือน วงเงิน 3 หมื่นล้านบาทในอัตรา 300 บาท 2,000 บาท 4,000 บาท และ  6,000 บาท ที่ดูเหมือนจะลดภาระค่าครองชีพให้ชาวบ้านได้มากกว่า เป็นต้น... 

                คำถามที่ตามมา... ทีมเศรษฐกิจแบบนี้ยังดีพอจะแก้วิกฤติปากท้องในสภาวะที่ชาวบ้านอาจจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อได้หรือไม่ สอดรับกับบทวิเคราะห์จากเว็บไซต์ของประชาชาติธุรกิจออนไลน์ นำเสนอรายงานพิเศษเรื่อง “พปชร.วิ่งสับเปลี่ยนกำลัง มุ้ง “พี่ใหญ่” เปิดศึก “รุมทึ้ง” ทีมเศรษฐกิจ” เมื่อเร็วๆ นี้

                มีสาระสำคัญโดยอ้างการให้ข้อมูลจากแกนนำ พปชร.ตั้งวงวิเคราะห์ว่าต้องการให้เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจสมคิด และกล้าดึงบุคคลภายนอกเข้ามาแทน พร้อมระบุว่า “กรุงศรีฯ ไม่สิ้นคนดี-คนเก่ง โดยดึงคนนอกนักบริหารเศรษฐศาสตร์ มืออาชีพ มาบริหารเศรษฐกิจแทน ทีมสมคิด เพื่อไม่ให้รัฐบาลกอดคอกันตายหมู่” 

                “ถ้าท่านนายกฯ ไม่เปลี่ยนเศรษฐกิจไม่ได้ เอาไม่อยู่ ท่านก็คงไปคุยกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจก่อนว่าทำอย่างไรให้ไปถึงรากหญ้า ทำแบบเดิมเงินไม่ถึงรากหญ้า 80% ต้องไปสู่คนจน 20% ต้องถึงมนุษย์เงินเดือน นี่คือปัญหาประเทศหลัก ไม่ใช่นายทุน”

                “คนดี-คนเก่ง ที่ถูกชี้เป้า คือ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” นักเศรษฐศาสตร์หนุ่มไฟแรง-ทฤษฎีคนละสำนักกับสมคิด แต่ไม่ฝักใฝ่การเมือง อดีตผู้ช่วย MD ธนาคารไทยพาณิชย์ ประธานบริหารสถาบันอนาคตไทยศึกษา/บอร์ดธนาคารทหารไทย” แหล่งข่าวจากแกนนำพลังประชารัฐ กล่าวผ่านเว็บไซต์ของประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 

                นอกจากประเด็นใหญ่สุดเรื่องปากท้อง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแก้ไขคือภาพลักษณ์ของ ครม.ชุดนี้ โดยเป้าถูกพุ่งไปที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รมต.สายล่อฟ้า ที่สังคมยังกังขาในหลายประเด็น และถูกคนในพรรคเดียวกันอย่าง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรค พปชร. เรียกร้องให้แสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่ง 

                แม้เจ้าตัวปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นก็ตาม ผ่านกับคนใกล้ชิด แต่ก็ยังไม่สามารถลบข้อครหาแคลงใจจากประชาชนได้ มิพักยังถูกพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลออกมาเรียกร้องให้ ส.ส.ปชป.เลิกพายเรือให้โจรนั่ง จนเกิดเป็นปัญหาในเชิงมารยาทระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลซ้ำแผลเก่า  

                ในโอกาสเดียวกัน ยังจำเป็นจะต้องสร้างความเชื่อมั่น  โดยเฉพาะขจัดข้อกล่าวหา ที่มี “ไอ้โม่ง” ที่อ้างว่าใกล้ชิดกับรัฐมนตรีบางคนในพรรคร่วมรัฐบาล ฉวยโอกาสกักตุนหน้ากากอนามัย จากโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยทั้ง 13 บริษัท เพื่อไปโก่งราคาขายในต่างประเทศและผ่านช่องทางอื่นๆ ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งชาวไทยไม่มีหน้ากากอนามัยใช้งาน ถือว่าเป็นการหากินบนความทุกข์ยากของประชาชนท่ามกลางวิกฤติของชาติ ที่จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้     

                หลังจากเสร็จสิ้นสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จึงเป็นโอกาสดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะสังคายนาโฉมหน้ารัฐมนตรีเสียใหม่ เรียกพลังศรัทธากลับคืนมา.

     พระรามเก้าโพสต์

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"