“พาณิชย์”ตะลึงค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนราคาต่างกัน 20,000% เตรียมเรียกหารือ


เพิ่มเพื่อน    

16 มี.ค. 2563 นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมจะหารือและขอข้อมูลจากแพทยสภา เกี่ยวกับกรอบราคาค่ารักษาและบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาล หลังจากที่กรมฯ ได้นำค่าบริการของโรงพยาบาลเอกชนกว่า 300 รายการ ให้ประชาชนตรวจสอบราคาได้ผ่านคิวอาร์โค้ด และเว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบราคาค่าบริการ เนื่องจากพบว่าค่ารักษาและบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่งแตกต่างกันมาก เช่น ค่ารักษาประเภทเดียวกัน บางแห่งราคาต่ำมาก แต่บางแห่งคิดราคาสูงกว่ารายที่ต่ำมากถึง 2 หมื่นกว่าเปอร์เซ็นต์ โดยหากโรงพยาบาลเอกชนรายใดที่มีการค่าบริการทางการแพทย์ที่สูงเกินไป กรมฯ จะเชิญมาชี้แจงข้อมูลต่อไป แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับโรงพยาบาล เพราะบางรายอาจจะมีการลงทุนเรื่องเครื่องไม้ เครื่องมือ ที่ดีกว่า ซึ่งก็ต้องรับฟังด้วย

“ตอนนี้ กรมฯ ได้นำประกาศค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนขึ้นเว็บไซต์ไปแล้ว ประชาชนสามารถเข้าไปดู เข้าไปเช็กราคา เพื่อเปรียบเทียบได้ ซึ่งราคาที่ปรากฏบนเว็บไซต์ จะเป็นราคาที่โรงพยาบาลเอกชนได้แจ้งราคาไว้กับกรมฯ เมื่อประชาชนเข้าไปใช้บริการ แล้วพบว่ามีราคาจริงสูงกว่าที่แจ้งไว้ ก็สามารถมาร้องเรียนที่กรมฯ ได้ และให้นำหลักฐานมาด้วย หากพบว่าเป็นคิดราคาสูงกว่าที่แจ้งไว้ กรมฯ จะดำเนินการตามกฎหมายกับโรงพยาบาลดังกล่าวทันที”

สำหรับรายละเอียดค่ารักษาพยาบาลที่ได้นำขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์ เช่น ค่าเตียงผู้ป่วยสามัญ ราคา 200-24,130 บาทต่อคืน โดยราคายูเซป หรือราคาที่รัฐให้โรงพยาบาลเบิกกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตอยู่ที่ 400 บาท , ค่าตรวจฉุกเฉินการรักษา กรณีผู้ป่วยในครั้งแรกที่รับไว้ 100-4,200 บาท โดยราคายูเซปที่ 500 บาท , ค่าห้องผ่าตัดใหญ่ ชั่วโมงแรกราคา 300-16,000 บาท ราคายูแซปอยู่ที่ 2,400 บาท , ค่าตรวจผู้ป่วยใน โดยการบริการระงับความรู้สึกแบบทั่วไป (จีเอ) ชั่วโมงแรก 200-45,000 บาท ราคายูเซฟอยู่ที่ 2,240 บาท

ส่วนหอผู้ป่วยวิกฤต หรือห้องดูแลผู้ป่วยหนัก เป็นพื้นที่พิเศษที่จัดไว้เพื่อรักษาดูแลอาการผู้ที่ป่วยหนัก หรือมีอาการสาหัสเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ราคา 200-14,950 บาท ราคายูเซปอยู่ที่ 1,600 บาท , ค่าหมอเฉพาะทาง 80-12,000 บาท ราคายูเซปอยู่ที่ 300 บาท , การถ่ายภาพเอ็กซเรย์ของไตและทางเดินปัสสาวะ และการฉีดสารทึบรังสี 360-16,750 บาท ราคายูเซป 1,920 บาท , ตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะ 65-1,050 บาท ราคายูเซป 150 บาท , การตัดเอาเนื้อมะเร็งออกจากรอยโรคที่เต้านม ราคา 1,000-60,000 บาท ราคายูเซป 6,000 บาท

ขณะที่การเจาะน้ำไขสันหลังในการกู้ชีพ ปั๊มหัวใจ ซีพีอาร์ นวดหัวใจผ่านปอดกู้ชีพ หัวใจหยุดเต้น มีตั้งแต่ราคา 100 -50,000 บาท ราคายูเซปอยู่ที่ 520 บาท , การตรวจสุขภาพของทารกมากกว่า 28 สัปดาห์ วิธีการตรวจจะใช้เข็มรัดที่หน้าท้องคุณแม่เพื่อฟ้งหัวใจของทารกและการบีบตัวของมดลูก และการดิ้นของทารก โดยจะวัดนาน 20-30 นาที ราคาตั้งแต่ 500-24,480 บาท ราคายูเซปอยู่ที่ 500 บาท , การใช้เครื่องให้ความอบอุ่นชนิดแผ่รังสีแก่ทารก ตั้งแต่ 35-7,084 บาท ราคายูเซป 845 บาท , การรักษาด้วยออกซิเจนความกดดันสูงเพื่อรักษาโรคที่เกิดจากการดำน้ำของทารก เช่น ตู้อบทารก แผ่รังสี ราคา 1,300-35,680 บาท ราคายูเซปอยู่ที่ 17,840 บาท และการตรวจภายใน ตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยการฉีดยาเข้าหลอดเลือด ตั้งแต่ 20-3,000 บาท ราคายูเซปอยู่ที่ 50 บาท เป็นต้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"