เฟกนิวส์มันเยอะจริงๆ!

                เล่าเหตุการณ์เป็นตุเป็นตะ กลับจากสเปน เดินทอดน่องผ่านด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิแบบชิวๆ ไม่มีการตรวจหาโควิด-๑๙

                มีฝรั่งไทยเทศหลุดออกไปจากสนามบินช่วงเวลาเดียวกัน ๕-๖ ร้อยคน ไม่มีใครถูกตรวจเลย

                สื่อเล็กสื่อน้อยเอาไปยำใหญ่รัฐบาลเผด็จการ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ไร้ทิศทาง

                สุดท้ายคนโพสต์ปิดเฟซบุ๊ก หายหัวไปจากโลกออนไลน์

                มันเป็นกับดัก ปล่อยข่าวปลอม ที่ทำกันมาต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

                ในวิกฤติชาติเต็มไปด้วยคนที่หวังผลทางการเมือง โดยไม่สนใจว่าเพื่อนร่วมชาติจะเกิดความตื่นตระหนกหรือไม่

                ต้องจัดการกับคนพวกนี้อย่างไรดี?

                หลายเรื่องหลายราวที่เอาแต่ก่นด่า บ้าคลั่งถึงขนาดบอกว่ารัฐบาลปิดผับ ปิดบาร์ สถานบันเทิง รังแกแต่คนจน แต่กับคนรวย โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร ทำไมไม่ปิด

                รัฐบาลจะแจกเงินประชาชน ๑ พันบาท ระยะเวลา ๒ เดือน ก็ขุดโคตรด่าว่าโง่เง่า ทำได้แค่นี้หรือ

                แต่พอประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมส่งเช็คเงินสดให้ชาวอเมริกันครัวเรือนละ ๑,๐๐๐ ดอลลาร์ ก็ราวๆ ๓๒,๐๐๐ บาท หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชะงักงันจากผลพวงการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ก็มีด่ารัฐบาลไทยว่าเห็นมั้ยรัฐบาลอเมริกาเขายังช่วยประชาชน

                ประชาชนเขารวยขนาดนั้นรัฐบาลยังช่วยเหลือเลย

                บางคนเอาแต่ถามว่าเมื่อไหร่รัฐบาลจะปิดประเทศ

                แต่พอประกาศปิดผับปิดบาร์ ก็โอดครวญ จะเหยียบย่ำคนจนไปถึงไหน ไม่มีจะกินกันอยู่แล้ว

                กลายเป็นความย้อนแย้งที่มาจากสาเหตุหลักคือ...ไม่ชอบรัฐบาลลุงตู่

                คนไม่ชอบหน้ามันก็ด่าได้ทุกเรื่อง

                ทำใจร่มแล้วลองมองดูความเป็นจริงที่กำลังเกิด และจะเกิดในเร็วๆ นี้

                คิดว่าตอนนี้หลายๆ คนเริ่มจะเห็นด้วยแล้วว่า รัฐบาลควรจะแจกเงิน หรือช่วยลดภาระ หรือช่วยค่าครองชีพ หรือ....จะเรียกอะไรก็แล้วแต่

                ความหมายโดยรวมคือ เงินสดต้องถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด เพื่อเงินไปหมุนในระบบต่อ

                มันไม่ใช่เรื่องแจกเงินดะ คิดอะไรไม่ออกก็แจกเงิน แต่นี่มันวิกฤติ เราอยู่ท่ามกลางสงคราม

                รัฐบาลอย่าไปกลัวเสียงด่า เพราะไม่ได้แจกแบบประชานิยมบ้าคลั่ง ที่เขาแจกในยามบ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติเพื่อหวังคะแนนเสียง

                เวลานี้ที่น่ากลัวกว่าโควิด-๑๙ คือเรื่องการเมือง ที่จ้องโจมตีในทุกแง่มุม เพื่อล้มรัฐบาล

                ชื่นชมรัฐบาลไต้หวันว่าเก่งกว่าไทย สามารถทำให้คนไต้หวันรอดพ้นจากโควิด-๑๙ แต่กลับไม่พูดว่ารัฐบาลไต้หวันมีมาตรการเข้มงวดแค่ไหน                           

                แค่ไม่กักตัวก็ถูกปรับ ๑ ล้านบาท ถามว่าหากให้มาตรฐานนี้กับไทย ไอ้พวกที่เอาแต่ด่า มันก็จะด่ากันขรม

                พวกสถิติคนติดเชื้อ คนที่รักษาหาย จำนวนคนตาย ไทยมีสถิติดีลำดับต้นๆ ของโลก กลับไม่พูดถึง ทั้งๆ ที่มันพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวเลข

                ส.ส.ฝ่ายค้านก็เหมือนกัน กระเหี้ยนกระหือรือจะเปิดสภาฯ เอาโควิด-๑๙ เข้าไปลามในสภาฯ กันท่าเดียว มันจะได้อะไรขึ้นมา แค่พ่นน้ำลายให้โควิด-๑๙ กระจายในห้องประชุมสภาฯ

                ณ เวลานี้ เผด็จการเท่านั้นถึงจะเอาโควิด-๑๙ อยู่

                ตั้งรับได้เลย เพราะรัฐบาลจะประกาศมาตรการ "บังคับ" เพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันนี้.