ผมจะเป็นผู้นำในภารกิจนี้...

                ก็เป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินครับ ผู้มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องนั่งหัวโต๊ะ

                อย่าไปแปลความผิดๆ ว่า รัฐประหารซ้อน ยึดอำนาจซ้ำ

                เรื่องของคนที่ไม่พอใจรัฐบาล ไม่ว่าจะอธิบายยังไง ก็ไม่มีทางเข้าใจเป็นอย่างอื่นได้ หัวเด็ดตีนขาดไม่พอใจต่อไป

                จนกลายเป็นเรื่องงี่เง่า

                ขนาดตำรวจซ้อมจับผู้ต้องสงสัยที่ติดเชื้อโควิด-๑๙ แล้วไม่ยอมปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่บอก ก็ถูกนำไปผูกโยงว่า คือรูปธรรมของการแสดงอำนาจที่จะมาพร้อมกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

                ก็สงสัยอยู่ว่า ถ้าตำรวจไม่ซ้อมเผชิญเหตุเลย พวกนี้จะด่าตำรวจอีกหรือเปล่าว่า ไม่มีความพร้อมจะรับมืออะไรเลย

                กรณีศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อ “ดนัย” ที่ภูเก็ตถูกจับกุมและนำตัวมาดำเนินคดีอาญาข้อหาผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ ก็ยังเป็นประเด็นเอาไปด่าเจ้าหน้าที่รัฐ และรัฐบาลว่า "สารเลว"

                ถ้าจำได้กรณีนี้ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ก็ร่วมแชร์ด้วย แต่เมื่อรู้ว่าเป็นเฟกนิวส์ เธอก็ออกมาขอโทษ ก็นับเป็นตัวอย่างของการแสดงความรับผิดชอบ

                แต่ยังมีอีกหลายคนในกลุ่มนักเคลื่อนไหวสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ยังนำไปใช้ประโยชน์ต่อ

                นายดนัยจะกลับมาจากสเปนจริงหรือไม่ และเดินฉลุยผ่าน ตม.โดยไม่มีการตรวจจริงหรือเปล่า เช็กกับ ตม.แป๊บเดียวก็รู้ว่าเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยจริงหรือเปล่า

                ที่สำคัญ นายดนัยต้องอธิบายให้ได้ ทำไมก๊อปปี้ภาพจากเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์เมื่อ ๒ ปีก่อน ทั้งๆ ที่ตัวเองอ้างว่าผ่าน ตม.สุวรรณภูมิ

                ทำไมไม่ถ่ายภาพเอง

                นี่คือตัวอย่างของการขยายเรื่องเท็จในสื่อสารออนไลน์

                จุดอ่อนในสังคมสื่อสารออนไลน์คือ เห็นแล้วเชื่อทันที ไม่มีการตรวจสอบ

                และคนที่ออกมาแสดงความเห็นว่า "เป็นการดำเนินคดีลักษณะ "ลุแก่อำนาจ” ทำลายความเป็นมนุษย์และไม่รักษาหลักการตามรัฐธรรมนูญ" ไม่ใช่นายไก่นายกา

                แต่เป็น "วิญญัติ ชาติมนตรี" ดีกรีทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ

                ครับ....ข้อกำหนดตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ ๖.การเสนอข่าว ห้ามการเสนอข่าวหรือทำให้แพร่หลายทางสื่อต่างๆ ซึ่งมีข้อความหรือข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-๑๙) อันไม่เป็นความจริง

                ก็เตือนให้ระวังกัน มันไม่ใช่เรื่องปิดปากใคร หรือละเมิดสิทธิเสรีภาพใคร แต่ประเทศไม่ต่างจากภาวะสงคราม แล้วยังมีคนใส่ไฟเพิ่ม มันจะรบชนะหรือเปล่า

                ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องสำคัญ แต่ข้อกำหนดต่างๆ ที่รัฐบาลออกมา ก็แทบไม่ต่างจากรัฐบาลในอเมริกา ยุโรปใช้อยู่ในตอนนี้

                ลองหันไปดูอินเดีย ล็อกดาวน์ประชาชน 1.3 พันล้านคน 3 สัปดาห์ ห้ามออกจากบ้านโดยเด็ดขาด 

                ใครไม่อยู่ในบ้าน ตำรวจเอาไม้ไล่หวด

                นั่นคือประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก

                ไทยเราสารเลวมากอย่างนั้นหรือ?.