'ผู้ว่าฯลำปาง' ยืนยันพบผู้ติดโควิด 3 ราย กักตัวแพทย์อีก 8 ตำหนิคนนอกพื้นที่เข้ามาแพร่เชื้อ


เพิ่มเพื่อน    

4 เม.ย.63 - นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายก่อพงษ์ โกมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง และส่วนที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดลำปางจำนวน 3 ราย พร้อมกักตัวทีมแพทย์และพยาบาลอีก 8 คนที่เคยสัมผัสกับผู้ป่วย

ผู้ว่าฯลำปาง เปิดเผยว่าขณะนี้ลำปางมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ 42 ราย เมื่อวานนี้ตรวจ 2 ราย และพบ 1 ราย จึงต้องเข้าไปในพื้นที่เมื่อวานนี้และนำตัวผู้ที่ใกล้ชิดรวม 11 ราย มาตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อ 3 ราย ส่วนผู้ที่ใกล้ชิด 8 ราย ผลเป็นลบแต่ก็ต้องเฝ้าระวัง 14 วัน ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อรายนี้อยู่ในร้านขายของชำในพื้นที่บ้านดง หมู่ที่ 7 ตำบลหลวงใต้ อำเภองาว จังหวัดลำปาง ติดจากลูกสาวซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง 3 กรณีคือ 1.มีเพื่อนร่วมงานหรือคนใกล้ชิดเป็นชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาจากญี่ปุ่นและกลับไปแล้ว ซึ่งได้เจอกันเมื่อต้นเดือนมีนาคมคือประมาณ 7-10 มีนาคม ซึ่งเพื่อนญี่ปุ่นไม่มีอาการ

จากนั้นก็พักที่คอนโดในช่วงวันที่ 10-16 มี.ค.ก็ไม่มีอาการอะไร จากการตรวจสอบไปที่ กทม. พบความเสี่ยงที่ 2 คือ คอนโดที่พักมีสองตึก ซึ่งอีกตึกมีผู้ติดเชื้อแต่ตึกที่ลูกสาวพักไม่มีผู้ติดเชื้อ และ 3.ลูกสาวทำงานค้าขายอยู่ตลาดรถไฟ ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยพบผู้ติดเชื้อในตลาดรถไฟ ซึ่งมีคนต่างชาติจำนวนมาก ต่อมา 17 มี.ค.มีอาการเจ็บคอ ปวดศีรษะ และวันที่ 20 มี.ค.ได้ขึ้นเครื่องบินจากสุวรรณภูมิโดยสายการบินไทยสมายล์มาลงที่แม่ฟ้าหลวง เชียงราย โดยสารรถตู้จากเชียงรายไปแพร่และมาลงที่อำเภองาวในวันที่ 22 มี.ค. ขณะนี้ทางลำปางได้ติดตามขอรายชื่อทั้งหมดของผู้โดยสารจากสายการบินไทยสมายล์เพื่อประสานต่อไปยังจังหวัดอื่น รวมถึงได้ตามหาตัวผู้ที่ขับรถตู้ในวันนั้นและพบตัวแล้ว ซึ่งในรถตู้มีคนนั่งมาด้วย 5 คน กำลังติดตามตัวเพื่อทำการตรวจสอบ

สำหรับลูกสาวที่เป็นผู้นำเชื้อเข้ามาอายุ 42 ปี เมื่อมาถึงบ้านก็มีการกักตัวอยู่ที่บ้านโดยพักอยู่ชั้นสองของบ้านคนเดียว แต่แม่เป็นคนทำอาหารและเอาอาหารขึ้นไปให้ และตัวลูกสาวเริ่มมีอาการไอจาม เมื่อตีสี่ครึ่งของวันที่ 22 มี.ค. รอยต่อวันจันทร์ ก็ไปที่ รพ.งาว แต่ด้วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจเป็นโรคเฉพาะจึงแนะนำให้กลับมาพบหมออีกครั้งในวันจันทร์ แต่ลูกสาวไม่ไปพบแพทย์ ซึ่งหากไปพบก็อาจจะรู้เร็วกว่านี้ เมื่อได้ยาไปกิน อาการก็ดีขึ้น และกลับมาพบหมออีกครั้งในวันที่ 26 มี.ค. จึงได้ตรวจแต่ไม่เข้าเกณฑ์ จึงไม่ได้ตรวจเชื้อโควิดแต่มีอาการอีกครั้งปลายเดือนมี.ค.แต่ก็หาย แต่ด้วยแม่มีอายุมากและมีโรคเกี่ยวกับปอดอยู่แล้วก็เริ่มแสดงอาการในวันที่ 31 มี.ค. และได้เข้าตรวจที่ รพ.งาว วันที่ 2 เม.ย. อาการน่าจะวิกฤตจึงตรวจหาเชื้อและทราบผลวันที่ 3 เม.ย. พอรู้ผลจึงมีการล็อคทั้งบ้าน ซึ่งบ้านมีสองหลัง คือบ้านเลขที่ 137 และ 101 รวม 11 รายตรวจทั้งหมดแล้ว และพบ 3 รายคือ ตัวลูกสาว อายุ 42 ปี แม่อายุ 58 ปี และ ป้าอายุ 64 ปี และปิดหมู่บ้านไม่ให้มีกาเข้าออกหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อคืน

ตนอยากฝากว่าขณะนี้นโยบายของรัฐบาลไม่ให้มีการเคลื่อนที่ ทุกคนต้องเคารพและปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตราบใดที่เรายังมีการเคลื่อนที่ก็ยังมีความเสี่ยง ซึ่งไม่เสี่ยงแค่ตัวเองแต่เสี่ยงต่อคนอื่นด้วย ตราบใดที่ตนเองมีความเสี่ยงแต่ไม่เก็บตัวยังไปสร้างความเสี่ยงให้กับเพื่อนร่วมชุมชน เพื่อร่วมชาติ มันร้าย ตนเองไม่รู้จะพูดยังไง

กรณีเคสนี้หากเขาไม่กลับมา อยู่ในคอนโดดีๆอยู่แล้วอีกอาทิตย์เดียวก็จะครบแล้วค่อยกลับมาทีหลังก็ได้ ซึ่งพอกลับมาก็มาทำให้แม่ป่วย ป้าป่วย ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้สูงอายุและต้องดูต่อไปว่าอาการจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากเขาอยู่ในที่ตั้งคือคอนโดและไม่ออกมาไม่มีความเสี่ยงเลย ความเสี่ยงเกิดขึ้นทันทีทั้งคนที่นั่งมากับรถตู้ คนนั่งเครื่องบินไทยสมายล์ หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านต้องถูกสั่งปิด คนเดือดร้อนเป็นพันคน และที่น่าเป็นห่วงคือ ทีมงานจังหวัดต้องเสียบุคลากรทางการแพทย์ไปเพราะไปสัมผัสถึง 8 คนก็ต้องดูแลพิเศษคือ กักตัว

"ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เมื่ออยู่คอนโดดีอยู่แล้วแต่ทำไมต้องกลับมาสร้างความเสี่ยงให้กับคนอื่นทั้งๆที่อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วน่าจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ทั้งๆที่ทุกคนในจังหวัดลำปางทำงานกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อนและเราทำได้ดีมากๆไม่ว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกคน และพี่น้องชาวลำปางตลอดเวลาที่ผ่านมาจะเห็นว่าช่วง 2vสัปดาห์ที่ผ่านมาสวมหน้ากากกันเกือบ 95% ให้ความร่วมมือในการอยู่บ้าน ปิดร้านค้า ปิดร้านขาย พวกเราเป็นคนดีมาโดยตลอด แต่พอเราพลาดครั้งเดียวในครั้งนี้เราต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ไม่เฉพาะที่งาว แต่ทุกพื้นที่ก็ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีก"

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่าอยากราบวิงวอนพี่น้องท่านอื่นหากไม่จำเป็นอย่าเคลื่อนย้ายเลย โดยเฉพาะจากจังหวัดที่เสี่ยงอย่าเพิ่งกลับมาเลย เพราะหากท่านกลับมา ท่านก็จะมาสร้างความเสี่ยงให้กับญาติ พี่น้อง ชุมชนของท่าน และสร้างความเหน็ดเหนื่อยให้กับเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่น้อยอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้ติดเชื้อแล้วทางจังหวัดก็จะต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปอีกเพื่อให้พี่น้องเกิดความปลอดภัยให้มากขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"