'โฆษกศบค.'ขอคนไทยการ์ดห้ามตกแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง


เพิ่มเพื่อน    

12 เม.ย.63-นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงตอนหนึ่งว่า เมื่อเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 33 ราย รู้สึกดีใจมาก ถือเป็นข่าวดีในเทศกาลปีใหม่ไทยที่ตัวเลขค่อยๆ ลดลง แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังไม่น่าสบายใจ อยากให้ติดตามต่อไป แม้สถานการณ์เราดีขึ้น แต่ประเทศต่างๆ และรอบข้างเรายังน่ากังวลอยู่ เพราะขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 1,780,314 ราย เสียชีวิต 108,827 ราย 

ทั้งนี้ ประเทศรอบข้างเราในกลุ่มอาเซียน ยังมีตัวเลขที่น่ากังวล โดยมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 184 ราย ฟิลิปปินส์ 233 ราย สิงคโปร์ 191 ราย อินโดนีเซีย 330 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิต สิงคโปร์ 8 ราย อินโดนีเซีย 327 ราย ฟิลิปปินส์ 247 ราย มาเลเซีย 73 ราย ส่วนประเทศใหญ่ๆ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูงอยู่ ส่วนฝั่งเอเชีย อินเดียและญี่ปุ่นมีผู้ป่วยรายใหม่พุ่งขึ้นสูงมากๆ ส่วนเกาหลีใต้กราฟผู้ติดเชื้อไม่สูง เรากับเกาหลีใต้อยู่ในระนาบเดียวกัน ที่มีคำถามว่าเราจะเปิดประเทศและสนามบินเมื่อไรนั้น จึงต้องดูกราฟเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจด้วย จะดูแลคนในประเทศกับเศรษฐกิจอะไรต้องมาก่อนหลัง ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นตัวบอก

 “การ์ดเราจึงห้ามตก ภาษามวยใช้คำว่าต้องยกการ์ดเอาไว้อยู่ แม้จะดีใจทำคะแนนได้ดี 33 แต้ม แต่ต้องยืนระระยาว เพราะมันไม่ได้หมดยกพรุ่งนี้มะรืนนี้ ดังนั้น เราต้องให้ความร่วมมือกับภาครัฐ 90 เปอร์เซ็นต์และในระยะยาว”

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หากย้อนดูตัวเลขหลายๆ สัปดาห์ที่ผ่าน จะเห็นว่าสิ้นสุดสัปดาห์ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 383 ราย ถือเป็นตัวเลขที่ดีเยี่ยมมากๆ เมื่อเรานำตัวเลขดังกล่าวมาศึกษาพบว่า ตั้งแต่ประกาศเคอร์ฟิวเมื่อวันที่ 3 เม.ย.จนถึงวันที่ 11 เม.ย. เป็นระยะเวลา 9 วัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เราลดลงชัดเจน มีเลขสามหลักแค่ 2 วัน คือ วันที่ 5 เม.ย.กับวันที่ 8 เม.ย. โดยในวันที่ 8 เม.ย.มีถึง 42 คน ที่เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซีย จากนี้ต้องจับตาตัวเลขกันต่อไป และถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.สถานการณ์ดีขึ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อจากสนามมวยเป็นศูนย์แล้ว เนื่องจากเราควบคุมได้จากมาตรการต่างๆ ที่ออกมา และประชาชนให้ความร่วมมือ จึงเกิดผลแบบนี้

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 33 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 7 ราย สัมผัสผู้ป่วยยืนยันในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 15 ราย และเจอในสถานที่กักตัวของรัฐใน จ.นราธิวาสที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียอีก 2 ราย ป่วยสะสม 2,551 ราย ใน 68 จังหวัด หายป่วยสะสม 1,218 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย เสียชีวิตสะสม 38 ราย

"ผู้เสียชีวิตรายที่ 36 เป็นชายไทย อายุ 74 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติไปตลาดนัด มีการรวมกลุ่มกันในบ้าน มีอาการป่วยตั้งแต่ 1 เม.ย. และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใน จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นวันที่ 7 เม.ย.เข้ารักษาตัวอีกรอบ มีไข้สูง 39.4 เสียดท้อง ถ่ายสีดำเพราะมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ผลตรวจออกมายืนยันเป็นโควิด-19 ต่อมาในวันที่ 8 เม.ย. อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในวันที่ 11 เม.ย. รายที่ 37 เป็นหญิงไทย อายุ 65 ปี มีโรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติเดินทางคือ วันที่ 20-26 มี.ค. ไปเยี่ยมญาติที่ชุมพร ส่วนวันที่ 27-31 มี.ค. เริ่มมีอาการไข้ ไอ เหนื่อย เพลีย จากนั้นวันที่ 1 เม.ย.เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.ชุมพร และวันที่ 2 เม.ย.มีอาการหอบมากขึ้น รู้สึกตัวลดลง จึงกลับมารักษาที่โรงพยาบาลเดิม รายนี้ถือว่าเข้ารับการรักษาตัวช้า แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ผลตรวจออกมาเป็นวันโควิด-19 อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนเสียชีวิตในวันที่ 11 เม.ย. รายที่ 38 เป็นชายไทยอายุ 44 ปี ส่งตัวมาจากโรงพยาบาลเอกชนตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. มีอาการหนักตั้งแต่แรกรับ รักษาโดยใช้ยาหลายขนาน แพทย์พยายามดูแลทุกระบบในร่างกาย แต่อวัยวะล้มเหลวหลายส่วน ต้องล้างไตหลายครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตในเช้าวันที่ 12 เม.ย."
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"