ดูไว้เมื่อสิงคโปร์การ์ดตก


เพิ่มเพื่อน    


    เห็นตัวเลขแล้วชื่นใจ 
    คุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงตัวเลข ประจำวันที่ ๑๓ เมษายน พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ๒๘ ราย ยอดสะสม ๒,๕๗๙ ราย 
    หายแล้วรวม ๑,๒๘๘ ราย
    แต่ก็มีตัวเลขที่น่าวิตกคือ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ๒ ราย รวมเสียชีวิต ๔๐ ราย  
    ในภาพรวมถือว่าคนไทยทั้งชาติทำผลงานออกมาได้ดี 
    บอกได้เลย ณ วินาทีนี้ ประเทศไทยเป็นที่อิจฉาของชาวโลก 
    นักการเมือง นักการทูต คุณหมอ นักวิชาการ สื่อมวลชน ทั้งจากยุโรปและอเมริกา พากันชื่นชมไทยอย่างไม่ขาดสาย 
    ขณะที่คนไทยบางพวก โจมตีว่ารัฐบาลเผด็จการสั่งให้หมอปกปิดข้อมูล สงสัยพวกนี้คิดว่าตัวเองยังอยู่ในยุคสงครามเย็น ยังคิดว่าขบวนการไอโอได้ผล 
    หลอกแล้วยังมีประชาชนเชื่อ!
    ไม่มีหรอกครับปกปิดข้อมูล 
    คนตายเยอะๆ มีคนป่วยเต็มไปหมด มันจะปิดได้อย่างไร มองไม่ออกจริงๆ 
    ครับ...คงต้องปล่อยคนพวกนี้แก่ตายไป เพราะดัดนิสัยไม่ได้แล้ว  
    มาดูเรื่องดีๆ ที่กำลังจะเกิดในประเทศไทยกันดีกว่า 
    แต่เบื้องต้นยังคงต้องย้ำกันว่า เห็นตัวเลขดีๆ แบบนี้ "การ์ดตก" ไม่ได้เด็ดขาด 
    สิ้นเดือนเมษายนที่จะครบกำหนดการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ต้องมาดูกันว่า "ลุงตู่" จะต่ออายุไปอีกหรือไม่ หรือจะยกเลิก
    ไม่ว่าเลือกทางไหนมันก็มีเหตุผลประกอบครับ 
    อาจจะยกเลิก แต่การเว้นระยะห่างทางสังคมต้องเคร่งครัดอย่างมาก 
    สถานร้านค้า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ คงต้องเปิด เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ขืนปิดไว้นานคงไม่ดีแน่ แต่กติกาต้องชัดเจน "ระยะห่างทางสังคม" สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด 
    การ์ดต้องไม่ตก แค่เปลี่ยนวิธีชก!
    จากที่แย็บหนี เลือกต่อยอย่างระมัดระวัง 
    คราวนี้ใช้ลูกยาวเตะก้านคอบ่อยๆ 
    อย่าปลุกปล้ำตีเข่าเป็นอันขาด เพราะแบบนั้นโควิดชอบ 
    ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ จาก ๓๐ เป็น ๒๐ เป็น ๑๐ ก็เตรียมตัวกลับไปทำงานทำการ รับเงินเดือนเต็มๆ กันครับ 
    แต่งานไหนยังทำจากบ้านได้ ก็ควรทำต่อไปอีกสัก ๑-๒ เดือน 
    เตือนไว้อย่าให้เหมือนสิงคโปร์
    จากที่เคยได้รับเสียงชื่นชม วันนี้สิงคโปร์เริ่มตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว 
    เปรียบเทียบตัวเลขวานนี้ (๑๓ เมษายน) เอาไว้เตือนใจ
    ไทยติดเชื้อรวม ๒,๕๗๙ คน
    สิงคโปร์ติดเชื้อรวม ๒,๕๓๒ คน
    ห่างกันแค่ ๔๗ คน
    จากที่เคยห่างหลักพัน
    อีก ๑-๒ วันหากตัวเลขยังเป็นแบบนี้ สิงคโปร์แซงไทยแน่นอน 
    เกิดอะไรขึ้นที่สิงคโปร์ 
    แรกๆ สิงคโปร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประเทศแบบอย่างซึ่งสามารถรับมือได้ดีกับการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-๑๙ ได้ดีเยี่ยม
    แต่ระบบที่สิงคโปร์วางไว้สิ้นสุดกลางเดือนมีนาคม 
    เมื่อสิ้นสุดมาตรการ มีคนเดินทางกลับสิงคโปร์หลายพันคน จำนวนหนึ่งเป็นผู้ใช้แรงงานจากเอเชียใต้ ที่ไม่ได้มีมาตรการเข้มข้นอะไร
    สุดท้ายกว่า ๕๐๐ คนในนั้นนำโควิด-๑๙ เข้าสิงคโปร์ 
    แม้กลุ่มคนที่เดินทางกลับสิงคโปร์ ถูกมาตรการบังคับกักตัว ๑๔ วัน แต่คนอื่นๆ ในครอบครัวกลับยังสามารถใช้ชีวิตปกติ
    นั่นคือความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของสิงคโปร์ แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ นำไปสู่การล็อกดาวน์ในวันที่ ๗ เมษายน แต่สายไปเสียแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งจนหยุดไม่อยู่ 
    จากที่เจอเคสเป็นกลุ่มก้อน สามารถสืบสาวต่อได้ว่าใครอยู่ในความเสี่ยงบ้าง
    แต่ตอนนี้การสอบสวนเคสในสิงคโปร์ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว 
    การ์ดตกนิดเดียวหายนะมาเยือน!
    ไทยจะซ้ำรอยสิงคโปร์หรือไม่ อยู่ที่คนไทยลิขิตเอง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"