"พิศณุ" ตอก "โอ๊ค" หน้าหงาย มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ใช่ของป๋า เชือดนิ่มๆ เขาบริจาคเงินมาเพื่อทำการกุศล ไม่ได้ใช้ส่วนตัว สาธุ! "อุ๊งอิ๊ง" โผล่ให้กำลังใจพี่ชาย โชว์สกิลเงินคืนไปตั้งแต่แรกแล้ว ขอความเป็นธรรมให้ชินวัตรสักครั้ง "ดอน" เผยหลายประเทศเอือม "แม้ว-ปู" โดยเฉพาะดูไบ
    หลังนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุรูปเช็ค 2 ฉบับและใบนำฝากของธนาคารว่าเป็นชื่อของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จำนวนเงิน 250,000 บาท มีลายเซ็น พล.อ.เปรมเซ็นชื่อกำชับว่า ให้นำเงินก้อนนี้ไปฝากเข้าบัญชีมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ส่วนเช็คอีกใบสั่งจ่ายเงินสดเข้าบัญชี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม โดยนายพานทองแท้ระบุว่าเป็นเงินก้อนเดียวกันกับที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีกับตนเองในข้อหาฟอกเงิน
    ล่าสุดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง น้องสาวนายพานทองแท้ ได้โพสต์ข้อความสนับสุนพี่ชายผ่านเพจเฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ระบุว่า "ให้กำลังใจครับพี่ชาย! เงินก็คืนไปตั้งแต่แรกแล้ว หลักฐานก็ชัดเจนทุกสิ่ง ขอความเป็นธรรม 'สักครั้ง' ให้ครอบครัวเราเหอะ สาธุ" 
    พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ชี้แจงกรณีนี้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เท่าที่ทราบคือเจตนาของผู้บริจาคต้องการบริจาคเงินเข้ามูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่ในเช็คได้ใส่ชื่อของ พล.อ.เปรม แต่ พล.อ.เปรมก็ได้ส่งต่อเช็คบริจาคเงินดังกล่าวเข้ามูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เรียบร้อย ซึ่งไม่ได้นำเงินมาใช้ส่วนตัว อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คงตรวจสอบแล้ว เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว และยืนยันเงินดังกล่าวได้ส่งต่อเข้าการกุศลจริงๆ พล.อ.เปรมไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัว
    ส่วนกรณีที่นายพานทองแท้ระบุว่า พล.อ.เปรมบริจาคเงินเข้ามูลนิธิตัวเองนั้น พล.ท.พิศณุชี้แจงว่ามูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ได้เป็นของ พล.อ.เปรม อีกทั้ง พล.อ.เปรมก็ไม่ได้ร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีเป็นประธานมูลนิธิฯ และมีคณะกรรมการดำเนินการดูแล เพื่อดำเนินกิจกรรมการกุศลและมีการขอใช้ชื่อ พล.อ.เปรมตั้งเป็นชื่อมูลนิธิเท่านั้น ดังนั้นจะบอกว่า พล.อ.เปรมบริจาคเงินเข้ามูลนิธิตัวเองนั้นไม่ได้
    ส่วนความเคลื่อนไหวของนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือของอดีตรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วนั้น นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่านายทักษิณเดินทางไปครั้งนี้ในฐานะเพื่อนของอดีตรัฐมนตรีญี่ปุ่น  โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ไม่ทราบชัดเจนว่าเข้าไปโดยใช้วีซ่าอะไร ทราบแต่เพียงว่าเป็นวีซ่าที่ใช้ได้ครั้งต่อครั้ง แต่เขาได้รับความเห็นชอบให้เข้าไปโดยอดีตรัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นผู้ดำเนินการ 
    เขากล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้สอบถามไปยังประเทศญี่ปุ่นแล้ว และขณะนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่อยู่ระหว่างเยือนประเทศญี่ปุ่นคงได้พูดคุยต่อในเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าใจเรื่องนี้ดี และมีความรู้สึกว่าการให้ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายของอีกบ้านเมืองหนึ่งเข้าประเทศเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เขาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด แต่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เกี่ยวข้องและไม่ได้เป็นผู้เชิญ
     ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปยังประเทศต่างๆ กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอะไรได้บ้างหรือไม่ นายดอนตอบว่าการจะทำอะไรมันมีหลายมุม หลายแห่งเขาเกรงอกเกรงใจรัฐบาลไทยมาก แต่ละโอกาสที่ให้ทั้งสองคนเข้าไป แม้จะมีวีซ่าแต่เขาให้ด้วยความหนักใจมาก แต่คนในบ้านเมืองเขาเป็นคนจัดการ ไม่ใช่รัฐบาล เหมือนกรณีนี้ที่อดีตรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นคนดำเนินการ 
    ถามว่านอกจากประเทศญี่ปุ่น ที่ว่าหลายประเทศหนักใจมีประเทศอะไรบ้าง รมว.การต่างประเทศตอบว่าเท่าที่ทราบมีเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาหนักใจและเล่าให้เราฟัง โดยแต่ละรัฐบาลเขามีความหนักใจ แต่มีสิ่งที่เขาทำได้และไม่ได้ในบ้านเมืองเขา
      เมื่อถามว่านายกฯ ได้ปรารภในเรื่องนี้หรือไม่ นายดอนกล่าวว่ามีอยู่ แต่ไม่ได้เป็นการปรารภโดยตรง เพียงแต่แสดงความห่วงใยในเรื่องนี้
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์พูดเรื่องนี้เพียงว่า "ช่างเขาสิ"
    เมื่อถามว่าแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อ นายกฯ ตอบว่า "ไปถามเขาซิ เขาก็ทำตามกฎหมายครบถ้วนหมดแล้ว"
      ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่านายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะไม่มีส่วนมาเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยได้โดยตรง ถึงแม้ทั้ง 2  คนจะเป็นบุคลากรที่สำคัญของประเทศ สำหรับสิ่งที่ทั้งสองท่านออกมาแสดงความเห็นนั้นก็ถือเป็นทัศนคติส่วนตัวของท่าน แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยยืนอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะพลังศรัทธาและความเอาใจใส่ของประชาชน 
      นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าไม่ทราบว่านายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดอะไร ตอบแทนทั้ง 2 คนไม่ได้ แต่ทั้ง 2 คนมีเสรีภาพการเดินทาง แต่ถือเป็นเรื่องดีที่ให้แฟนคลับหายคิดถึงบ้าง.