สถานการณ์โดยรวมของโควิด-๑๙ ทั่วโลก เส้นกราฟทำท่าจะดิ่งหัวลง 
    นั่นหมายความว่า การติดเชื้อหลังจากนี้ไปในทิศทางที่ค่อยๆ ลดลง แม้บางประเทศเส้นกราฟจะยังคงดิ่งขึ้นก็ตาม 
    แต่โลกจะยังไม่ผ่านพ้นความยากลำบาก อย่างน้อยก็ ๒ เดือนนับจากนี้ 
    อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวสวนสัตว์ในเยอรมนีเตรียมจะฆ่าสัตว์เพื่อเสี้ยงสัตว์ ก่อนที่สัตว์ในสวนสัตว์จะล้มตายลงทั้งหมด 
    ในอเมริกายังคงขุดหลุมขนาดใหญ่เพื่อฝังศพหมู่ ไร้งานศพ ไร้ญาติมิตร นี่คือการตายอย่างโดดเดี่ยวอย่างแท้จริง
    เอกวาดอร์ปล่อยศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-๑๙ ขึ้นอืดเน่าเปื่อยไว้ตามถนน และส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ตามเก็บกันไม่ไหว
    ฯลฯ
    ยังไม่นับรวมเศรษฐกิจโลกที่พังพาบ และไม่มีใครรู้ได้ว่า วิกฤติเศรษฐกิจเที่ยวนี้จะสาหัสขนาดไหน 
    นั่นทำให้มนุษย์บางคนขวนขวายหาแพะมาบูชายันต์ 
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนกรานความคิดเศรษฐกิจนำสุขภาพ สั่งยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ทุกรัฐในอเมริกาต้นเดือนหน้า 
    แต่ผู้ว่าการรัฐพากันถล่ม "ทรัมป์" ว่าจอมเผด็จการ เพราะหลายรัฐยังไม่พร้อมที่จะเปิดให้ทุกอย่างเดินตามปกติ เนื่องจากผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก 
    ทรัมป์หันไปอาละวาดเอากับองค์การอนามัยโลก (WHO)  
    และจ้องแต่จะโทษว่าจีนเป็นต้นตอ ฉะนั้นต้องรับผิดชอบ 
    ทีอเมริกาไปก่อสงครามอ่าว เศรษฐกิจพินาศ ก็ไม่เห็นจะแสดงความรับผิดชอบอะไร 
    ในไทยเองก็ด่าแพะกันรายวัน 
    บางคนเพิ่งจะยุให้เด็กๆ ชุมนุมกันหยกๆ คุยโม้โอ้อวดไม่กลัวโควิด-๑๙ กลัวไม่มีประชาธิปไตย ไม่มีสิทธิเสรีภาพมากกว่า
    ก้าวไม่ไกล มองอนาคตสั้นๆ ไม่ออก 
    มาวันนี้มาบอกว่ากำลังผลิตเครื่องมือแพทย์ส่งไปให้โรงพยาบาล  
    พร้อมกับโทษว่ารัฐบาลลุงตู่ไร้ประสิทธิภาพ ลาออกไปเสีย 
    แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกมันฟ้องว่า ไทยทำได้ดีเป็นลำดับต้นๆ ของโลก 
    ผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้ (๑๖ เมษายน) ช่างน่ายินดีแค่ ๒๙ ราย ยอดสะสม ๒,๖๗๒  ราย หายป่วยกลับบ้านไปแล้ว ๑,๕๙๓ คน
     เทียบตัวเลขหลักแสนหลักหมื่นทางฝั่งยุโรป อเมริกาแล้ว ยังจะมาหาแพะให้รับผิดชอบกันอีกหรือ 
    มันเกินไปหรือเปล่า.