'สยาม-มาบุญครอง'สวรรค์นักล้วง!'โจ๊ก หวานเจี๊ยบ'แถลงจับแก๊งโจรเขมรลักมือถือมูลค่า1ล้านบาท


เพิ่มเพื่อน    

3 เม.ย.61-ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญลักษณ์  ผบก.สปพ.  พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1  พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั้น ผกก.สน.ปทุมวัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งล้วงกระเป๋าชาวกัมพูชา จำนวน 6 ราย ประกอบไปด้วย น.ส.นิน  ลายนิน อายุ 28 ปี หัวหน้าแก๊ง น.ส.เตือย   เปา อายุ 17 ปี นายตี เอียน อายุ 34 ปี นายอุง ลอง เล็ก น.ส.นา เปา อายุ 16 ปีและ  น.ส.วิริยา  สืบชาติ อายุ 27 ปี ชาวไทย พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์มือถือ จำนวน 53 เครื่อง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายผู้บังคับบัญชา สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมกวาดล้างอาชญากรรม  ที่มีผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอาชญากรชาวต่างชาติ  ที่แฝงตัวเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ก่อเหตุอาชญากรรมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย  ปัจจุบันและ ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ว่า ถูกคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ โดยการล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย บก.ทท.1 , 191 , สน.ปทุมวัน และ สน.พญาไท จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์แผนประทุษกรรม กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ 

ปรากฏพบว่า สถานที่ก่อเหตุบ่อยครั้งคือ บริเวณศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เกิดขึ้นย่าน สยาม มาบุญครอง และประตูน้ำ จึงได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายเรื่อยมา  กระทั่ง   เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2561 ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 53 เครื่อง มูลค่าโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึดประมาณร่วม 1,000,000 บาท 

ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติให้การรับว่า ได้หลบหนีเข้ามาและพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร และร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือตามแหล่งท่องเที่ยวจริง โดยจะแบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งทำหน้าที่ล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สิน โดยอีก 2-3คน ทำหน้าที่เบียดบังไม่ให้ผู้อื่นสังเกตเห็นขณะก่อเหตุ

คนร้ายกลุ่มนี้  น.ส.นิน เป็นหัวหน้าแก๊ง และเคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตนเป็น ผบก.สปพ. แต่ได้ประกันตัวและหลบหนีในชั้นศาล ก่อนจะกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เมื่อก่อเหตุแล้วจะเดินทางกลับประเทศกัมพูชาทันที ก่อนนำไปขายที่ประเทศกัมพูชาเครื่องละ 3,000-4,000 บาท 

การเข้ามาครั้งหนึ่งคนร้ายกลุ่มนี้จะได้โทรศัพท์กลับไปครั้งละประมาณ 40 เครื่อง โดยมีคนไทยในการช่วยเหลือ และจะกลับเข้ามาอีกครั้งในสัปดาห์ต่อไป  

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.นิน เดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 35 ครั้ง และในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเพิ่มมาตราการดูแลทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อแก๊งนี้ถูกจับปัญหาการล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋าน่าจะลดลงมาก

ผู้เสียหาย ที่เคยถูกกลุ่มคนร้ายลักทรัพย์ตามสถานที่ดังกล่าวข้างต้น ให้เดินทางมาตรวจสอบของกลางได้ที่ สน.ปทุมวัน เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"