ตลาดตราสารหนี้จะนิ่งได้จริงไหม?อดีตรมว.คลังเตือนธปท.ไม่ประกาศแผนชัดเจนยิ่งน่ากลัว


เพิ่มเพื่อน    


24 เม.ย.63 - นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เรื่อง “ตลาดตราสารหนี้จะนิ่งได้จริงไหม?” มีเนื้อหาดังนี้
 นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) จัดเป็นเศรษฐีอันดับ 10 ที่นายกฯ พลเอกประยุทธ์ส่งหนังสือไปถึง
รูป 1 และ 2 เป็นข่าว IPO ที่ทำกำไรมหาศาลให้แก่ครอบครัว
 ข่าว:- “ในสัปดาห์หน้านายชูชาติเตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
เพื่อให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน  (Corporate Bond Stabilization Fund : BSF) วงเงิน 400,000 ล้านบาท
เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองชั่วคราว สำหรับเข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีคุณภาพดีมี Rating อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับ Investment grade
โดยอยากเห็นการทบทวนแนวคิดการช่วยเหลือภาคเอกชนที่ออกหุ้นกู้ โดยเฉพาะให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่ออกหุ้นกู้ในระดับที่ต่ำกว่า Investment grade มากกว่า”
(ผมอธิบายว่า กลุ่มนี้คือหุ้นกู้ขยะ หรือเรียกว่า Junk bond)
 ถามว่า มีตัวอย่างประเทศไหนที่ธนาคารกลางสนับสนุน Junk bond?
 ในสหรัฐ บริษัทกลุ่มใหญ่ที่ออก Junk bond คือบริษัทที่ผลิตน้ำมันจากหินน้ำมัน
ซึ่งต้นทุนสูงกว่าซาอุดิและรัสเซียมาก รายต่ำสุดคือ 25 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ส่วนใหญ่สูงกว่ามาก บางรายสูงถึง 95 ดอลลาร์
ดังนั้น ในสงครามน้ำมันซาอุดิ-รัสเซีย บริษัทที่เจ็บตัวมากสุดคือสหรัฐ และมี 1 บริษัทที่ประกาศล้มละลายไปแล้ว
ที่เหลือกำลังจะล้มอีกหลายราย!
 อาจจะเนื่องจากเป็นปีเลือกตั้ง ปรากฏว่าเฟดขยายการสนับสนุนตราสารหนี้เอกชน ให้ลงไปถึงระดับ Junk bond เมื่อวันที่ 9 เม.ย.
ในรูป 3 และ 4 มาตรการดังกล่าว ทำให้ราคาตลาด Junk bond สหรัฐเด้งขึ้นทันที
และนักลงทุนได้กลิ่นของฟรี ก็ทุ่มเงินเข้าไปซื้อ junk bond กันใหญ่ ทั้งซื้อโดยตรงและผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ เพราะได้ดอกเบี้ยสูง พร้อมได้เฟดอุ้ม
 ล่าสุด รูป 5 มีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรป อาจจะขยายไปสนับสนุน Junk bond ตามอย่างเฟด
 เนื่องจากกระทรวงคลัง/ธปท. เลียนแบบตามอย่างธนาคารกลางของประเทศต้นแบบทั้งสอง ดังนั้น คาดได้ว่า ในอนาคตรัฐบาลอาจจะคิดแก้ไขพระราชกำหนดฯ เพื่อให้สามารถแจกเงินทำนองนี้
ในรูป 6 คุณนวพร เรืองสกุลได้รวบรวมตัวเลข ในปี 2563 มี Junk bond ในไทยที่จะครบกำหนด 39,056.58 ล้านบาท
 ถามว่า Junk bond ในไทยที่ครบกำหนด จะออกขายใหม่ได้หรือไม่ จะมีผู้ซื้อหรือไม่?
 ตอบว่า พฤติกรรมมนุษย์จะกระทบท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และหนี้ครัวเรือน ซึ่งจะกระทบผู้ออกตราสารหนี้บางรายอย่างแน่นอน
และในเมื่อกลุ่ม Investment grade มีปัญหา ถึงขั้น ธปท. ขอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดฯ เพื่ออุ้ม ดังนั้น กลุ่ม Junk bond ก็ย่อมจะมีปัญหาขาดความเชื่อมั่นได้มากกว่า
และสมมุติถ้าหากเมื่อใด เกิดเหตุการณ์สะดุดในกลุ่ม Junk bond ...
ธปท. ซึ่งเพียงแค่มีกองทุน BSF เป็นไม้กายสิทธิ์ ผมก็ไม่เห็นว่าจะกั้นไม่ให้ความตื่นตระหนก ลุกลามเข้าไปทุกระดับได้อย่างไร
 ตำรากล่าวว่า ในช่วงวิกฤต ธนาคารกลางจะต้องเปิดก๊อกแบบไม่อั้น แต่ต้องไม่เลือกปฏิบัติ ต้องสนับสนุนทุกรายที่เข้าหลักเกณฑ์
ธปท. มีทางเลือก 2 ทาง ทำแบบธนาคารกลางมหาอำนาจ หรือทำแบบธนาคารกลางพอเพียง
 ถ้า ธปท. ทำแบบธนาคารมหาอำนาจ คือต้องการทำให้ตลาดเงิน ‘นิ่ง’ ตลาดตราสารหนี้ ‘นิ่ง’ และแม้แต่ตลาดหุ้น ‘นิ่ง’ ดังที่รองนายกฯ ดร.สมคิดกล่าวชมเชยในแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ...
ธปท. ก็สามารถอัดเงินเข้าระบบอย่างไม่จำกัด ขยายวงทรัพย์สินที่สนับสนุนไปเรื่อยๆ
ดังที่เคยมีคนกล่าวเล่นๆ ไว้ว่า ถ้าไม่มีอะไรเหลือ ธนาคารกลางก็ยังสามารถสนับสนุนอ่างล้างจานในครัวก็ได้
 วิธีนี้ ตลาดนิ่งแน่นอน
แต่ประเทศก็จะแน่นิ่งไปด้วย คือล้มละลาย เผาหลอก เผาจริง ภายในเวลาอันสั้น
 ถ้า ธปท. ทำแบบธนาคารกลางพอเพียง ก็จะต้องเหนื่อยมากกว่า
ธปท. จะต้องสั่งให้แบงค์พาณิชย์ตรวจสุขภาพผู้ออกตราสารหนี้ระดับต่ำ BBB และ Junk bond ทุกราย เพื่อแยกตัวดี-ตัวเสีย
(ที่จริง ควรจะได้ทำมานานแล้ว หรือถ้าหากทำมาแล้ว ก็เก็บเงียบเหลือเกิน)
 กลุ่มตัวดี คือกลุ่มที่รู้ตัว และปรับแผนแต่เนิ่นๆ ตัวอย่าง ปตท. ซึ่งเป็นระดับ AAA เมื่อ 2 วันก่อน ประกาศล้มโครงการลงทุน 2 แสนล้านบาท เพื่อรักษา cash flow
สำหรับกลุ่มนี้ ก็ให้ประกาศชื่อ และให้ซื้อขายในตลาดปกติ
 กลุ่มตัวเสีย คือกลุ่มที่ขยายธุรกิจแบบโอเว่อร์ แหวกแนวไปทำในสิ่งที่ไม่ชำนาญ โลภมากไปกว้านซื้อที่ดินเพื่อสร้างเมืองใหม่ ฝันหวานจะขายคอนโดให้คนจีน ฯลฯ
สำหรับกลุ่มนี้ ต้องให้แบงค์พาณิชย์กระตุ้นให้ปรับแผนธุรกิจด่วน ขายอะไรที่ขายได้ ลดเงินเดือน ลดโบนัส เลิกปันผล โดยไม่ต้องไปกังวลเรื่องราคาหุ้น
ถ้าทำได้ จึงจัดเข้ากลุ่มตัวดี
ถ้าทำไม่ได้ หรือไม่ยอมทำ ให้จัดเข้ากลุ่มตัวเสีย ห้ามซื้อขายในตลาดปกติ ให้เป็นตลาดแยกต่างหาก
 ถ้า ธปท. ไม่ประกาศแผนงานที่ชัดเจนต่อสาธารณะ เวลายิ่งผ่านไปแต่ละวัน ก็ยิ่งน่ากลัว

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"