ปิดเทอมชวนปู่ย่าทำกิจกรรม ใช้เวลาว่างของลูกหลานยุคไอที


เพิ่มเพื่อน    

(เปลี่ยนจากการนั่งเล่มเกมมือถือช่วงปิดเทอมลูกหลานสามารถอ่านหนังสือให้ผู้สูงอายุฟัง หรือสลับให้ปู่ย่าตายายอ่านหนังสือให้เด็กฟัง กิจกรรมกระชับครอบครัวอบอุ่น)


    ปรบมือรัวๆ ให้กับน้องๆ หนูๆ หลายคนที่เลือกทำกิจกรรมร่วมกับปู่ย่าตายายในช่วงปิดภาคเรียน โดยเฉพาะวัยรุ่นวัยทีนที่ให้เวลากับการเรียน และอยู่กับเพื่อนฝูงเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นช่วงปิดเทอม ไม่เพียงแต่เป็นช่วงพักสมองจากการศึกษาตำราที่คร่ำเคร่ง แต่การชวนผู้สูงมาทำกิจกรรมร่วมกันย่อมเป็นการกระชับความผูกพันและเติมความอบอุ่นให้กับครอบครัวได้ไม่น้อย ที่สำคัญย่อมดีกว่าการที่ลูกเด็กเล็กแดงนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในช่วงวันหยุดยาวเป็นไหนๆ 

(มะลิ พูนสวัสดิ์)


    ป้ามะลิ พูนสวัสดิ์ คลังปัญญาผู้สูงอายุ ชาวบางน้ำผึ้ง วัย 76 ปี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมเติมความอบอุ่นช่วงปิดซัมเมอร์ไว้น่าสนใจว่า “ในช่วงปิดภาคเรียนก็อยากแนะนำให้เด็กๆ วัยรุ่นหันมาดูแลญาติผู้ใหญ่ โดยสามารถเริ่มจากกิจกรรมง่ายๆ อย่าง “การเล่าเรื่องสมัยเก่าให้ลูกหลานฟัง” เช่น เรื่องวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นของปู่ย่าตาทวด อย่างการจักสานข้าวของเครื่องใช้ หรือการประดิษฐ์ของเล่นสมัยที่ผู้สูงอายุยังเป็นเด็กให้ลูกหลานฟัง เพื่อที่ว่าภูมิปัญญาเหล่านี้จะได้ไม่สูญหายไป นอกจากนี้ ลูกหลานก็ยังสามารถ “อ่านหนังสือธรรมะ” ให้คุณตาคุณยายฟัง หรือสลับให้ปู่ย่าตาทวด “เล่านิทานพื้นบ้าน” ให้ลูกหลานฟัง ก็เป็นการเติมความอบอุ่นผ่านตัวหนังสือเช่นกัน 
    ส่วนบ้านไหนที่ชอบปรุงอาหารรับประทานกันเอง ก็แนะนำว่าให้ผู้สูงอายุชวนลูกหลานมา “ทำเมนูอาหารคาว-หวาน” โดยสามารถเลือกใช้เมนูประจำถิ่นของตัวเอง อาทิ เมนูข้าวแช่, ทำข้าวเหนียวแดง, ทำขนมจาก, กวนกะละแม ฯลฯ ได้ทั้งความอร่อยและฝึกฝีมือด้านการครัวให้คนรุ่นลูกหลาน และยังทำให้ขนมหรืออาหารพื้นบ้านไม่เลือนหายไป หรือการทำงานเย็บปักถักร้อยอย่าง “การซ่อมแซมเสื้อผ้าชุดนักเรียน” เพื่อเตรียมความพร้อมในวันเปิดเทอม ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหรือซื้อเสื้อผ้าใหม่ได้ ทั้งนี้ หากบ้านไหนที่มีพื้นที่ว่างก็อยากแนะนำให้ลูกๆ หลานๆ ชวนคุณตาคุณยาย “ปลูกต้นไม้” ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว หรือไม้ดอกไม้ประดับ เรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรกที่ทำให้ร่างกายคุณตาคุณยายแข็งแรงจากการขุดดิน, รดน้ำต้นไม้ และยังทำให้ท่านรู้สึกสดชื่นเมื่อได้อยู่กับธรรมชาติอย่าง ดิน ต้นไม้ ใบหญ้า 


    สำหรับครอบครัวไหนที่นับถือศาสนาพุทธ ปู่ย่าตายายสามารถชวนลูกหลานไป “ทำบุญและฟังเทศน์ในวันพระ” หรือวันสำคัญทางศาสนา เพื่อช่วยกล่อมเกลาจิตใจของเด็กๆ ให้สงบและอยู่ในศีลธรรม หรือหากท้องถิ่นไหนที่วัดมีโบสถ์เก่าแก่ ผู้สูงอายุสามารถชวนน้องๆ หนูๆ ไปเยี่ยมชมและเล่าประวัติความเป็นมาของโบสถ์ดังกล่าว แทนการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ได้เช่นเดียวกัน เพราะการทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องเชย เนื่องจากคนรุ่นตายายถือได้ว่าเป็นปูชยนียบุคคลที่มีความรู้ความสามารถต่อคนรุ่นลูกรุ่นหลานเป็นอย่างมาก” 

(ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ)


    ขณะที่ อาจาร์ยแอน-ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ อาจารย์พิเศษสาขาการบริหาร วิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล ให้ไอเดียว่า “ในช่วงปิดเทอมลูกหลานควรหาเวลาว่างในการทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุอย่าง “การว่ายน้ำ” เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ผู้ใหญ่กับเด็กสามารถทำด้วยกันได้อย่างปลอดภัย และยังดีต่อสุขภาพคุณตาคุณยายที่ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมจากการลงไปแช่อยู่ในน้ำ หรือเป็นกีฬาที่เรียกกันว่า “ไฮดรอเอกเซอร์ไซส์ (hydro exercises) ซึ่งใช้ออกกำลังในกลุ่มคนสูงอายุทั่วไป ที่สำคัญยังเป็นการฝึกว่ายน้ำและเอาตัวรอดจากการจมน้ำในเด็กวัยรุ่นได้เช่นเดียวกัน

(ออกกำลังกายกับปู่ย่าตายาย กิจกรรมลดช่องว่างระหว่างวัยช่วงปิดเทอม)


    นอกจากนี้ การ “ชวนผู้สูงอายุฟังเพลงและเต้นตามจังหวะ” ก็ช่วยให้สุขภาพดีได้ เพราะอย่างที่รู้กันว่าเสียงเพลงสามารถบำบัดโรคเครียดและอาการซึมเศร้า อีกทั้งยังทำให้อารมณ์ของผู้สูงอายุแจ่มใสอีกด้วย เช่น หากคุณตาคุณยายต้องนั่งวีลแชร์ ลูกหลานสามารถเปิดเพลงที่ท่านชอบฟัง แต่ขอให้เป็นเพลงที่มีจังหวะเล็กน้อยเพื่อให้สามารถโยกย้ายได้ โดยให้น้องๆ หนูๆ จับที่วีลแชร์ และให้คุณตาคุณยายนั่งโยกไปมา หรือเพียงแค่หมุนวีลแชร์ไปมา เพียงเท่านี้ท่านก็ได้ออกกำลังกายแล้ว หรือหากเป็นผู้สูงวัยที่สามารถเดินได้ ก็ให้จูงมือท่านโยกตัวเบาๆ พอให้สนุกไปกับเสียงเพลง ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมส่งเสริมครอบครัวที่น่ารักอีกอย่างหนึ่งในช่วงปิดภาคเรียนค่ะ”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"