ต้องบอกยามนี้ “ปี่กลอง” ทางการเมืองเริ่มบรรเลงแล้ว แม้จะ แค่ “โหมโรง” แต่ก็เรียกความซี้ดซ้าดให้กับบรรดา “ฮาร์ดคอร์” การเมืองได้เป็นอย่างดี เพราะแค่พรรคการเมืองเก่าเริ่มขยับตัวได้จากการเช็กชื่อสมาชิกในวันที่ 1 เม.ย. ก็สามารถยึดครองหัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์ได้เป็นต้นมา โดยเฉพาะการประกาศของพี่มาร์ค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะหลัง ไล่ตะเพิดลูกพรรคที่สนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ให้ไปเชียร์ที่อื่นไม่ใช่ในพื้นที่ “พระแม่ธรณีบีบมวยผม” ก็เล่นเอา “บิ๊กตู่” ต้องออกมาตอบโต้หลังประชุมคณะรัฐมนตรีทันควันว่าการพูดอะไรควรให้เกียรติกันบ้าง ...๐ ซ้ำร้าย “หัวหน้าคณะคืนความสุข” ยังทิ้งปริศนาให้ขบคิดอีกด้วยว่า ให้รอดูหลังการเลือกตั้งว่าไผเป็นไผอีก แต่ดูเหมือนงานนี้ “พี่มาร์ค” ยอมไม่ได้ เพราะลงทุนอรรถาธิบายกันอีกรอบว่าไม่ได้พูดหมิ่นเกียรติ หมิ่นศักดิ์ศรีใครเลย ที่เอ่ยอ้างนั้นเป็นไปตามหลักสากลและเป็นการให้เกียรติประชาชน ...๐ งานนี้ต้องยกปรบมือให้ “พี่มาร์ค” เพราะหากพินิจพิเคราะห์คำพูดของหัวหน้า ปชป.จริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างยิ่ง ในเมื่ออยู่พรรคนี้ก็ต้องหนุนหัวหน้าพรรคนี้ จะไปสนับสนุน “ตาสีตาสา” ที่ไหนได้ หากมีใจให้คนอื่นก็ไปอยู่ที่อื่น ก็ถูกต้องแล้ว งานนี้จึงน่าสงสัยว่า “กุนซือ” หรือใครไป “เพ็ดทูล” ลุงตู่ให้ออกมาอัดพี่มาร์คแบบ “ไม่ดูตาม้าตาเรือ” กันนี่ ...๐ เชื่อว่าในวันที่ 5 เม.ย. บนหน้าหนังสือพิมพ์คงได้เห็นบรรดานักการเมืองจากซีกพรรคเพื่อไทยที่ไปยืนยันตัวตนกับพรรค ส่วนใครจะคิดอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ เห็นภาพข่าวแล้วก็ได้แต่อนาจ ว่านี่หรือคือว่าที่โฉมหน้าอนาคตนักการเมืองในยุคปฏิรูปประเทศ 4.0 เพราะมองไปทางไหนก็หน้าเก่าหน้าเดิมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “เสนาะ เทียนทอง” “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” หรือแม้แต่ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” และ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ยังดีที่ “ชายตู้เย็น” บอกว่าศรีภรรยา “เจ๊แดง เยาวภา วงษ์สวัสดิ์” วางมือทางการเมืองแล้ว แม้ไม่ได้ให้เหตุผลก็ตาม แต่ขาเมาธ์ก็วิเคราะห์วิจารณ์กันไปต่างๆนานาว่าจะวางมือจริงหรือ เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าเจ๊แกขนาดไหน ...๐ ขำไม่ออกจริงๆ กับตรรกะของอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมอย่าง “สมชาย” ที่กล้าพูดได้ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ปฏิบัติตามกฎหมาย แหม! หนีออกนอกประเทศโดยไม่รับคำตัดสินของศาล อย่างนี้เรียกว่าปฏิบัติตามกฎหมายหรือ นี่ถ้าเป็นลูกหาบ ขี้ข้า แลไพร่ทาสพูดจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและกระบวนยุติธรรมพูดอย่างนี้ ก็บอกได้คำเดียวว่า “กรรม” จริงๆ ...๐ พูดถึงการเมืองไม่แวะโฉบเฉี่ยว “บิ๊กตู่” บ้างก็กระไรอยู่ เพราะ ขาออกกำลังกายช่วงนี้เริ่มบ่นแล้วว่า พักนี้อีเวนต์เอกเซอร์ไซส์เริ่มเงียบหายไปนะจ๊ะ  แต่ดูเหมือน “อีเวนต์ชีพจรลงเท้า” ของนายกฯ กลับถี่มากขึ้น เพราะในวันพุธก็ไปเปิดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 13 ที่ จ.ปัตตานี ในวันที่ 5 เม.ย. “พล.อ.ประยุทธ์” ก็จะเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาอีก ...๐ ข่าวล่ามา “เรือเกลือ” ว่าด้วยพรรคใหม่ถอดด้ามนั้น ล่าสุด “พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา” รองเลขาธิการ กกต. ในฐานะรักษาการนายทะเบียนพรรคการเมืองประกาศแล้วว่า ได้รับรองเพิ่มขึ้นรวมแล้ว 9 พรรคการเมืองจากที่มาสมัครทั้งสิ้น 98 พรรคการเมือง ซึ่งก็มีทั้ง “พลังชาติไทย-พรรคเครือข่ายประชาชนไทย-พรรคเศรษฐกิจใหม่-พรรคพลังธรรมใหม่-พรรคประชาชนปฏิรูป- พรรคทางเลือกใหม่-พรรคกรีน-พรรคประชานิยม และพรรคพลังสยาม” ส่วน พรรค “เกรียน-เห็นแก่ตัว-อนาคตใหม่” ยังคงต้องร้องเพลงรอต่อไป แต่ไม่ใช่ว่านายทะเบียนรับรองแล้วจะเป็นพรรคลงสนามเลือกตั้งได้นะเออ ยังต้องไปหาสมาชิก-ทุนประเดิม ฯลฯ อีก ซึ่งเมื่อถึงวันมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจริงก็ไม่รู้ว่าจะเหลือ “พรรคใหม่” เท่าใดกันแน่ ...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวที่ใหญ่ แต่ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจมากนัก นั่นคือ กรณี “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คนแรก ที่ทั้งผลักทั้งดันอุ้ม “เอไอเอส-ทรู” ว่าด้วยการผ่อนชำระค่าใบอนุญาตเสียเหลือเกิน เพราะเล่นทั้งสอดไส้ไปกับเรื่องของ “ทีวีดิจิทัล” ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันเลย ที่สำคัญดูเหมือนเสียงค้านจะเริ่มระงม โดยเฉพาะจาก “ทีดีอาร์ไอ” ที่เตือนว่า หาก “บิ๊กตู่” ทำจริง อาจถูกตำหนิเป็นประเทศสารขัณฑ์ที่ไม่มีหลักเกณฑ์กันเลย ที่สำคัญขาโหดยังมองกันอีกว่า “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต.แค่โพสต์เฟซบุ๊กแสดงทัศนะส่วนตัวยังถูกมาตรา 44 เด้งพ้นเก้าอี้ แล้วกรณี “ฐากร” ชงหอกชงดาบ ที่สำคัญชงคุก-ตะรางมายัง ครม. ทำไมยังอยู่ดีมีสุข ไม่มีการใช้ ม.44 ฟัน บ้างหรืออย่างไร ...๐