มั่วสุมกินเหล้าพุ่ง60%ฉลองคลายล็อกวันแรก ศบค.ขู่ติดเชื้อเพิ่มกลับใช้มาตรการเดิม


เพิ่มเพื่อน    

4 พ.ค. 63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงถึงการปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ด้านความมั่งคง ระหว่างวันที่ 3 พ.ค.เวลา 22.00 น. ถึงช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ค. ว่า พบผู้ออกนอกเคหะสถาน 690 ราย เพิ่มขึ้น 136 ราย มีผู้ชุมนุมมั่วสุม 129 ราย เพิ่มขึ้น 22 ราย ซึ่งพบว่าการดื่มสุรามาเป็นอันดับ 1 ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค. มีการผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ อันดับ 2 คือการพนัน 21 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 3 เสพยาติด 11 เปอร์เซ็นต์

เมื่อถามว่า เมื่อผ่อนปรนให้มีการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แล้ว ปรากฎว่ามีภาพการคนจำนวนมากแย่งกันซื้อสินค้า จะส่งผลให้มีการทบทวนมาตรการผ่อนคลายหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่อยู่ในภาพเหล่านั้น เป็นตัวอย่างและข้อเตือนใจว่าตอนเปลี่ยนผ่านเราต้องพยายามทำความเข้าใจว่าต้องมีการปรับพฤติกรรมแล้วท่านเองจะปลอดภัย ซึ่งข้อกำหนดเป็นมาตรการที่แจ้งออกมาแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม เป็นสิ่งที่เราทำกันมา ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถ้าท่านยังยึดหลักเหมือนเดิม ถ้าทำได้ทั้งเรื่องทำความสะอาดพื้นที่ กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์หรือเจลน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เว้นระยะห่างทั้งนั่งและยืนอย่างน้อย 1 เมตร และควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมไม่ให้แออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น ซึ่งเราจะประสบความสำเร็จแห่งหนึ่งของโลก เรายังต้องการความร่วมมืออยู่ เพื่อให้โรคออกจากประเทศไทยให้ได้ ให้มั่นใจว่าประเทศไม่มีคนติดเชื้อ ถึงวันนั้นเราจะใช้ชีวิตปกติได้

"เรามี14วันเปลี่ยนผ่านนี้ ถ้าร่วมมือกันจะใช้มันอย่างคุ้มค่า ตัวเลขการติดเชื้อน้อยลงแล้วจะได้ไปสู่ระยะที่ 2 ที่มีพื้นที่ที่จะไปได้มากกว่านี้ ซึ่งต้องเกิดจากความร่วมมือร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ศบค.จะจัดชุดข้อมูลเก็บเป็นสถิติ ถ้าเราผ่อนปรนแล้วตัวเลขติดเชื้อน้อยจะขยับในขั้นผ่อนปรนระยะต่อไป แต่ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น มาตรการจะต้องถูกทบทวน ไม่ว่าจะให้หยุดหรือกลับไปที่เดิมเป็นการบังคับที่มีข้อจำกัดมากมาย เพื่อไม่ให้เราต้องป่วย ทำให้เราไม่ต้องตาย สิ่งที่เราร่วมกันมา1 เดือนมีความหมายกับเรา และอีก14 วันจากนี้ก็มีความหมายมาก ซึ่งผู้ประกอบการต้องทำมากกว่าผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการต้องให้ความร่วมมือและตรวจสอบผู้ประกอบการ ขณะที่ภาครัฐจะกำกับติดตามดูแลตรวจสอบทั้งสองส่วน เราต้องทำงานร่วมกันทั้งหมดสามส่วนนี้" โฆษก ศบค. ระบุ.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"