ต้องผลัดกันกันพี่น้องไปดูแลคุณแม่ที่เพิ่งเข้าไปซียูไปเมื่อต้นปี สำหรับนักแสดงรุ่นเก๋า หมู-กลศ อัทธเสรี ที่ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บShow ว่าไม่สามารถไปดูแลแม่ได้เพราะพักงานละครยาวเนื่องจากมีนักแสดงในกองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง จึงไม่อยากให้คุณแม่ที่กำลังอ่อนแอได้รับความเสี่ยงไปด้วย

          “พวกผม 3 คนพี่น้องเป็นผู้ชายหมดแต่ก็ดูแลแม่อย่างดีมาตลอด เราไม่ต้องมาห่วง ไม่ต้องมานั่งเสียใจเลยถ้าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นมา ทุกคนเต็มที่ แบ่งเวลาให้แม่ ขนาดแม่นอนไม่มีแรงจะพูดแม่ยังบอกว่าแม่โชคดีที่มีลูกผู้ชาย 3 คนดูแลแม่ คุณแม่เขาติดเตียง ถ้าใครว่างก็ต้องไปดูแลแม่ ผมว่างก่อนเลยแรกๆ แต่ดันมาเจอช่วงกักตัวพอดีประมาณวาเลนไทน์ คือมีนักแสดงอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เขาก็ต้องหยุด เราก็หยุดตั้งแต่ตอนนั้นเลย เราก็ไม่ได้ไปหาแม่ เพราะแม่ผมเปราะบางแล้ว ไม่อยากให้เสี่ยง

          คุณแม่นอนติดเตียงนานปีนึงแล้ว ทุกคนก็ทำใจไว้ว่าให้ดูแลให้ดีที่สุด คือผมกับน้องผมพี่กลิ้งแล้วก็น้องอีกคน ตกลงกันไว้ว่าเราจะไม่เจาะ ไม่ตัด ไม่สับ ไม่ผ่าอะไรอีกแล้วให้แม่สู้ด้วยตัวเอง แต่เรามีเครื่องดูดเสมหะ เครื่องออกซิเจนไว้ คือคุณแม่เป็นโรคชราแล้วก็ลิ้นหัวใจรั่ว พอลิ้นหัวใจรั่วก็ไม่สามารถจะผ่าได้แล้ว เพราะไม่แข็งแรงพอแล้ว

          พวกผมทำใจหมดแล้ว แล้วก็ไม่มีใครต้องการให้แม่เจ็บ ตอนนี้ก็ภาวนาอย่างเดียวว่าอย่าให้แม่ต้องเจ็บป่วย เมื่อเร็วๆนี้คุณแม่ก็เพิ่งเข้าไอซียู ช่วงปีใหม่ ช่วงโควิดกำลังมา เราก็ต้องดูแลป้องกันตัวให้อย่างดีมาก ตอนแม่เข้าไอซียูตอนนั้นไม่ได้กลัวว่าแม่จะเป็นไร แต่เรากลัวว่าเราจะเป็นพาหะนำโควิดไปหรือเปล่า ผมกลัวตรงนั้นอย่างเดียว

          ทุกบ้านตอนนี้ต้องให้กำลังใจกันมากๆ แล้วสิ่งที่จะชวนทะเลาะกันได้มากที่สุดในบ้านก็คือเรื่องปัจจัยเรื่องเงิน ทุกวันนี้คนจะหัวร้อน เพราะคนไม่มีงานที่จะออกไปทำ ผมรู้ว่ามันยากลำบาก แต่เราลำบากด้วยกันทั้งประเทศและทั้งโลก แต่ผมอยากให้มองในอเมริกายิ่งกว่าเราอีกนะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เอเชียค่อนข้างจะได้เปรียบยุโรปหรือในอเมริกา เพราะว่าเราไม่ได้ยึดติดในเรื่องของเสรีภาพจนมากเกินไป เสรีภาพมันดีแต่มันต้องมีกาลเทศะด้วย คนของเรามีความกลัวตายใส่หน้ากาก เลยทำให้คุณหมอที่เป็นแนวหน้าไม่หนักเกินไป มันมาถึงตรงนี้แล้ว เราร่วมมือกันอีกแค่นิดเดียว เดี๋ยวมันจะรอดผ่านไป”