ปูพื้นฐานรองรับเศรษฐกิจแบบใหม่


เพิ่มเพื่อน    

 

            ถ้าหากเชื้อโคโรนาไวรัส COVID-19 ท่านยังคงออกฤทธิ์ ออกเดช ออกอาละวาดอย่างชนิดต่อเนื่อง ยาวนาน ไปถึง 18 เดือน 24 เดือน อย่างที่สถาบันประมาณการด้านสุขภาพ IHME (The Institute for Health Metrics and Evaluation) แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เขาได้ประเมินเอาไว้ อันนั้นนั่นแหละ...โอกาสที่จะเกิด เศรษฐกิจแบบใหม่ ควบคู่ไปกับ ความปกติแบบใหม่ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย...

                  ----------------------------------------------

            คืออาจเกิดการแพร่ระบาดระลอกสอง ระลอกสาม ตามมา...โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง จนทำให้การคลายล็อก ปลดล็อก ที่กำลังเริ่มๆ ในบรรดาประเทศต่างๆ อาจต้องหันกลับไปล็อกดาวน์ กันอีกรอบแล้ว รอบเล่า ต้องโซเชียล ดิสแทนซิง ต้องฟิสิเคิล ดิสแทนซิง จนไม่อาจจับกลุ่ม ไม่อาจรวมตัวกันเป็นสังคมแบบเฮๆ ฮาๆ แบบปากว่า มือถึง ไปได้อีกตราบนานเท่านาน ไม่งั้น...การติดเชื้อ การเป็นโรคตาย อาจพุ่งพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปเป็นล้านๆ เฉพาะแค่ที่อเมริกา ที่สถาบัน IHME เขาได้ประเมินเอาไว้ อาจไปไกลถึงขั้นต้องเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง เพิ่มขึ้นไปอีก 1.5-2.2 ล้านคน เอาเลยก็เป็นได้ โดยเฉพาะถ้าอยากจะ ปกติ กันแบบเก่าๆ ไม่ได้คิดจะ ปกติแบบใหม่ หรือไม่ได้คิดจะ นิว นอร์มอล เอาเลยแม้แต่น้อย...

                           ----------------------------------------------

            ถึงแม้บ้านเราก็เถอะ...ถ้าลอง การ์ดตก ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่จะต้องเจอกับ ตีนที่มองไม่เห็น หรือ หมัดที่มองไม่เห็น ทิ่มเข้าบริเวณกระโดงคาง ขมับซ้าย ขมับขวา คายฟันยาง ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หูแว่วๆ ได้ยินเสียงกรรมการนับ 8 นับ 9 ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย โดยเฉพาะถ้าบวก ความเป็นไทย ตามแบบฉบับ ทำอะไรตามใจ...คือไทยแท้ เข้าไปด้วย แนวโน้มที่จะต้องเดินตามรอยเท้าสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้เสมอๆ ตราบใดที่ยังต้องรอคอยการประดิษฐ์ คิดค้นวัคซีน เพื่อรับมือกับเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ กลายพันธุ์ เก่งเอามากๆ เป็นการเฉพาะ ไปอีกเป็นปีๆ หรืออีกซักกี่ปีก็ยังมิอาจสรุปได้...

                              -----------------------------------------------

            ดังนั้น...การเรียนรู้ การฝึกนิสัย ดัดนิสัย ให้สอดคล้อง เหมาะสม ไปกับ ความปกติแบบใหม่ หรือแม้แต่การควานหา ค้นหา เศรษฐกิจแบบใหม่ เพื่อให้เกิดทางรอด ทางไป จึงเป็นสิ่งที่ควรตระเตรียม ควรก่อรูป ก่อร่าง ปูพื้นฐาน สร้างรากฐานเอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะ เยียวยา หรือ อัดฉีด กันในรูปใด ลักษณะใดก็ตาม คงต้องหันมาเน้น หันมาให้น้ำหนัก เอาไว้กับฐานราก ไว้กับชุมชนในแต่ละชุมชน ที่ควรต้องเป็นไปในแบบพอเพียง พอประมาณ เลิกฝันหวาน เลิกทะเยอทะยาน อยากเป็นเสือตัวที่สี่ ตัวที่ห้า หรือสารพัดสัตว์ใดๆ ก็แล้วแต่...

                         ---------------------------------------------

            ยิ่งโดยเฉพาะตัวเลข การส่งออก ช่วงหลังๆ...ที่สินค้าประเภท อุตสาหกรรมอาหาร ชักมาแรง แซงโค้ง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และอาจมาแรง แซงโค้ง ยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคตอันใกล้ เพราะนอกเหนือไปจากเชื้อโคโรนาไวรัส COVID-19 แล้ว ธรรมชาติ ท่านยังมีอาวุธอยู่ในมืออีกเพียบ ขึ้นอยู่กับว่าจะออกลูกไหน ตอนไหน หรือเมื่อไหร่ เท่านั้นเอง การหันมาออกแบบโครงสร้าง ไม่ว่าในแง่เศรษฐกิจ หรือวิถีชีวิต ให้สอดคล้องไปกับความเป็นไปของธรรมชาติให้มากๆ เข้าไว้ และให้เป็นไปอย่างมีเหตุมีผล พอเพียงและพอประมาณ พออยู่ได้ หรือพออยู่รอด ปลอดภัยได้ต่อไป ไม่ว่าเศรษฐกิจโลก หรือเศรษฐกิจแบบตลาด มันจะเป็นไปในลักษณะไหนก็ตาม อันนี้นี่แหละ...ที่ควรทั้งอัด ทั้งฉีด ทั้งเยียวยา ทั้งสร้างเสริม ให้กลายเป็นโครงสร้างแบบใหม่ เศรษฐกิจแบบใหม่ ไปจนถึง ความปกติแบบใหม่ โดยเร็วที่สุด...

                            --------------------------------------------

            ส่วนในเรื่องการเมือง การปกครอง ก็อย่าถึงกับต้องไปสนใจ ใส่ใจ ต้องไปหาเหาใส่หัว อะไรต่อมิอะไรให้มากมายเกินไปนัก เพราะมันคงวนไป-วนมา คงเป็นไปตามธรรมชาติของ หนอนในถังขี้ นั่นแหละเป็นหลัก ต้องกัดกัน ด่ากัน ต้องแย่งเก้าอี้ ต้องแบ่งมุ้ง แบ่งฝ่าย ไปตามเรื่อง ตามราว หรือตาม ธรรมชาติทางการเมือง อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ยิ่งเข้าไปวุ่น ไปคลุกคลี ตีโมง มากยิ่งขึ้นไปเท่าไหร่ มีแต่จะกลายเป็นตัวรบกวน สมาธิ เป็นตัวบั่นทอน สติ และ ปัญญา จนสุดท้าย...อาจไม่ได้อะไรติดไม้ ติดมือ ขึ้นมาเลย ไม่ว่าต่อตัวเองและผู้อื่น หรือต่อสังคม ชาติบ้านเมือง...

                       ------------------------------------------------

            สู้หันไปสร้างสิ่งที่เหนือไปกว่าการแก่งแย่ง การทะเลาะ เบาะแว้ง กันในทางการเมือง หรือหันไปสร้าง ความร่วมมือ-ร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายไหน ต่อฝ่ายไหน ชนชั้นไหน ต่อชนชั้นไหน เศรษฐี อภิมหาเศรษฐี ปุถุชนคนธรรมดา ไปจนถึงยาจก ฯลฯ โดยอาศัย ความปกติแบบใหม่ นั่นแหละเป็นเงื่อนไข ข้ออ้าง เพราะถ้ายังมัวแต่วนไป-วนมา อยู่กับ ความเป็นปกติแบบเก่าๆ ไม่ว่าในทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ หรือทางการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคม ที่มักหนักไปทางด่ากันไป-ด่ากันมา ทะเลาะ เบาะแว้ง แบบซ้ำๆ ซากๆ โอกาสที่จะพังกันไปทั้งแถบ ทั้งชาติบ้านเมือง โดยไม่มี ฝ่ายชนะ เอาเลยแม้แต่น้อย ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ สำหรับโลกยุคนี้ สมัยนี้ ยุคที่ยังต้องมี ความเปลี่ยนแปลง อีกหลายต่อหลายอย่าง ตามมาอย่างเป็นระลอก...

                        -----------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Alvin Toffler”... Change is not merely necessary to life. It is life. - ความเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต แต่มันคือ...ชีวิต...เลยทีเดียว...”.

           -------------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"