อีกไม่กี่วันผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกจะทะลุ ๔ ล้านคน

                ผู้เสียชีวิตก็ใกล้ ๓ แสนคนเข้าไปทุกที

                และจะยังเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าจะไปจบที่ตรงไหน

                มนุษย์เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกันจำนวนมากมากี่เหตุการณ์แล้ว และได้สอนอะไรเราบ้าง

                สงครามโลกครั้งที่ ๑ ทหารที่เข้าร่วมรบเสียชีวิตเกิน ๙ ล้านนาย

                สงครามโลกครั้งที่ ๒ ประเมินกันว่ามีผู้เสียชีวิตระหว่าง ๕๐ ถึง ๘๕ ล้านคน

                มากกว่าพลเมืองของไทยทั้งประเทศเสียอีก

                เขมรแดงสังหารหมู่พี่น้องร่วมชาติไปมากกว่า ๒ ล้านคน

                การสังหารหมู่ชาวทุตซี และฮูตู ในประเทศรวันดา มีผู้เสียชีวิตกว่า ๑ ล้านคน

                แต่....การตายของมนุษย์เพราะโรคระบาดนั้นมากกว่ามนุษย์ฆ่าแกงกันเองชนิดเทียบกันไม่ได้เลย

                โรคระบาดอันโทนีน Antonine Plague ค.ศ.165 โรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษที่ระบาดในอาณาจักรโรมัน คร่าชีวิตชาวยุโรปไป ๕ ล้านคน

                กาฬโรค The Black Death ค.ศ.1346-1353 หนึ่งในเหตุการณ์โรคระบาดที่ร้ายแรง และโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ประเมินจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดถึง ๒๐๐ ล้านคน 

                นับเป็น ๑ ใน ๓ ของประชากรโลกยุคนั้น

                The Great Plague of London ค.ศ.1665 โรคระบาดครั้งร้ายแรงของอังกฤษ นับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Death โดยเชื่อกันว่าสาเหตุหลักมาจากหนู ประชากรในกรุงลอนดอนกว่า ๒๐% เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้

                อหิวาตกโรค ค.ศ.1817 อุบัติขึ้นครั้งแรกในรัสเซีย มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า ๑ ล้านคน

                การแพร่ระบาดของกาฬโรค ครั้งที่ ๓ The Third Plague Pandemic ค.ศ.1855 เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศจีน ก่อนที่จะลามไปยังอินเดียและฮ่องกง ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง ๑๕ ล้านคน

                ไข้หวัดใหญ่สเปน Spanish Flu ค.ศ.1918 มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกถึง ๕๐ ล้านคน เป็นลำดับ 2 รองจาก Black Death

                และโรคที่คนยุคใหม่รู้จักกันดี ไวรัส HIV / AIDS ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสตัวนี้แล้วมากกว่า ๒๕ ล้านคน

                จะเห็นได้ว่าธรรมชาติพัฒนาล้ำหน้ามนุษย์เสมอ

                และมนุษย์ที่แสนฉลาด ได้แต่ไล่ตาม

                ต้องหาวิธีหยุดยั้งทุกครั้ง สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง

                หลายครั้งเราทำได้แค่ป้องกัน แต่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้

                สะท้อนให้เห็นว่าธรรมชาติเป็นผู้กำหนดเสมอ

                สถานการณ์โควิด-๑๙ ในประเทศไทย ดูดีในลำดับต้นๆ ของโลก พบผู้ป่วยรายใหม่เลขหลักเดียวมาหลายวันติดต่อกัน

                เป็นสัญญาณที่ดี แต่...อย่าเหลิง!

                เมื่อคลายล็อกแล้วทุกภาคส่วนต้องตระหนักเสมอว่า โอกาสที่โควิด-๑๙ จะกลับมาระบาดรอบ 2 ได้ทุกเวลา และมีตัวอย่างให้เห็นแล้วที่สิงคโปร์-ญี่ปุ่น

                ขณะที่ลุงตู่ประเมินว่าเศรษฐกิจจะฟุบยาวถึง ๙ เดือน       

                ก็ต้องเตือนกันจริงจัง การ์ดอย่าตก เคารพกติกาบ้านเมืองให้มากที่สุด มาตรการต่างๆ ที่รัฐประกาศเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด ต้องปฏิบัติตาม ๑๐๐%

                เพราะถ้าโควิดกลับมาระบาดอีกครั้ง ความลำบากที่เจอในวันนี้ต้องคูณสอง ต้องล็อกดาวน์เพิ่ม

                เศรษฐกิจทรุดนานกว่า ๙ เดือน 

                อาจเป็นปีครึ่ง หรือ ๒ ปี

                เราไม่จำเป็นต้องเอาชนะธรรมชาติ

                แค่เอาชนะตัวเองให้ได้ เราก็จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อีกนานแสนนาน.