'บิ๊กตู่'ดัน'รัฐบาลดิจิทัล' เปิดคลาวด์กลางเก็บข้อมูลรัฐ


เพิ่มเพื่อน    

 

   ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของภาครัฐเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น "รัฐบาลดิจิทัล" อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีการปรับบริการของรัฐในรูปแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินหน้า "โครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ" หรือ Government Data Center and Cloud Services: GDCC มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นหน่วยงานหลัก

            โดยโครงการดังกล่าว ภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อให้มีระบบกลางในการให้บริการคลาวด์สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่มีมาตรฐานและปลอดภัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล และขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายเพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ศูนย์ข้อมูลภาครัฐ (Government Data Center) และคลาวด์คอมพิวติง (Cloud Computing)

            เป็นการให้บริการที่ครอบคลุมถึงการให้ใช้กำลังประมวลผล หน่วยจัดเก็บข้อมูลและระบบออนไลน์ต่างๆ จากผู้ให้บริการ เพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้ง ดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายเอง ให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

            ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 พ.ค.63 ได้เห็นชอบในหลักการโครงการดังกล่าว ภายใต้กรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อเนื่อง 3 ปี ระหว่างปี พ.ศ.2563-2565 วงเงิน 3,954 ล้านบาท และจากงบประมาณกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปี 2563 วงเงิน 798 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 4,752 ล้านบาท

            วัตถุประสงค์เพื่อให้มีระบบกลางในการให้บริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ (Cloud Service) สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่มีมาตรฐานปลอดภัย เป็นระบบสำรองเพื่อการกู้คืนข้อมูลกรณีเกิดภัยพิบัติ และหน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทันต่อความต้องการในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล

            ทั้งยังรองรับการใช้งานการวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ หรือ Big Data โดยสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (Government Big Data Institute: GBDI)

และยังเป็นการพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีความพร้อมด้านดิจิทัล เพื่อเป็นกำลังในการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ที่ตั้งเป้าหมายบุคลากรเบื้องต้น 2,500 คน เข้ารับการอบรมหลักสูตรระดับสูงขึ้นให้มีความเชี่ยวชาญด้านคลาวด์คอมพิวติง

            ทั้งนี้ โครงการมีเป้าหมายการให้บริการจัดเก็บและบริหารข้อมูล มีหน่วยประมวลผลรวมสูงสุดจำนวน 20,000 VM ซึ่งเท่ากับความสามารถในการประมวลผล CPU ของคอมพิวเตอร์ปกติ 4 เครื่อง และมีหน่วยความจำรวมอย่างน้อย 160,000 กิกะไบต์ ซึ่งปัจจุบันนี้ระบบที่ใช้อยู่คือ G-Cloud ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ซึ่งจะต้องโอนย้ายระบบงานทั้งหมดมายังโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐนี้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 เป็นต้นไป

            ขณะที่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจะทำให้รัฐบาลสามารถประหยัดงบประมาณในส่วนที่เป็นค่าเช่าคลาวด์ของหน่วยงานต่างๆ ได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 59 ซึ่งคิดจากราคากลางของค่าเช่าคลาวด์ในระยะเวลา 3 ปี

            นอกจากนี้ โครงการคลาวด์กลางภาครัฐยังทำให้ระบบการจัดเก็บข้อมูลของประเทศมีความมั่นคง ปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลและระบบงานของทุกหน่วยงานรัฐจะถูกจัดเก็บในระบบเดียวกัน ที่เป็นมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยและตั้งอยู่ในประเทศ และจะมีการออกแบบระบบการเข้าถึงข้อมูลตามชั้นความลับของข้อมูลแต่ละประเภท

            อีกทั้งยังทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ข้อมูลจากบิ๊กดาต้า เพื่อการวางแผนและตัดสินใจอีกด้วย.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"