การเมืองขยับเมื่อโควิดเป็นศูนย์


เพิ่มเพื่อน    

           ไม่ทันขาดคำ!

                เมื่อวันอังคาร "ลุงตู่" บอกว่า

            "การจะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่นั้น เราจะต้องดูมาตรการทางด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งผมได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและน้อยลงจนเหลือ ๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังนอนใจไม่ได้แม้จะเหลือ ๐ เปอร์เซ็นต์ก็ตาม"

                รุ่งขึ้นวันพุธ คุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน แถลงข่าวว่า....

                "มีข่าวดีไม่มีผู้ป่วยรายใหม่"

                อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง พากันประโคมว่า รัฐบาลต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในทันที

                ฉะนั้นเมื่อผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ เป็น ๐ ซึ่งเป็นข่าวดีของคนไทยทั้งชาติ กำลังจะกลายเป็นข่าวร้ายในทางการเมือง เพราะนี่คือเงื่อนไขให้ฝ่ายแค้นนำไปจุดชนวน

                เมื่อไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้ว ทำไมยังต้องบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

                รัฐบาลคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อปิดปากคนเห็นต่างทางการเมือง

                ก็...ประมาณนั้น!   

                ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เรากำลังอยู่ในวิกฤติที่ไม่มีรัฐบาลชาติไหนในโลกเคยประสบมาก่อน 

                และเราได้เห็นหลายประเทศประกาศคลายล็อก แล้วกลับมาล็อกใหม่อีกครั้ง

                บางประเทศประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนแล้ว และบางประเทศยาวไปถึงเดือนกรกฎาคม

                ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?

                เพราะทุกประเทศเข็ดขยาด ไม่อยากให้มีการระบาดรอบสอง

                อาจจะมีบางประเทศที่ประชาชนยังติดเชื้อล้มตายเป็นหมื่นเป็นแสน แต่พยายามจะปลดล็อก เพราะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจมากกว่าชีวิตประชาชน ดังเช่นสหรัฐอเมริกา

                นั่นไม่ใช่เส้นทางที่ไทยจะเดินตาม

                การแก้ปัญหาต้องมีขั้นตอน และข้อมูลที่รอบด้าน

                ไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ หรือไม่ก็อยากเอาชนะ

                หากรัฐบาลเอาตามฝ่ายแค้น แล้วเกิดการระบาดรอบสองขึ้นมา คนที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านเปิดตูด จะรับผิดชอบอะไรได้ นอกจากด่ารัฐบาลไปวันๆ

                ฉะนั้นวันนี้แม้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ก็ไม่ได้หมายความว่า เชื่อโควิด-๑๙ หมดไปจากประเทศไทยแล้ว

                ยังมีผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการอีกจำนวนหนึ่ง  

                อาจยังมีคนติดเชื้อในระยะฟักตัว

                ยังมีคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ด้วยวิธีการหลบหนีเข้าเมือง และไม่ได้กักตัวตามมาตรการการป้องกันโรค

                จึงยังนิ่งนอนใจไม่ได้

                ถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุด ต้องไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกัน ๑๔-๒๑ วัน ตามไทม์ไลน์แล้วการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะสิ้นสุดลงช่วงต้นเดือนมิถุนายน

                ก็น่าจะลงล็อกพอดี

                ลำบากกันอีกสักนิด เพื่อเจ็บครั้งเดียวจบ

                ดีกว่าเจ็บๆ หายๆ แบบไร้อนาคต

                ส่วนเรื่องของฝ่ายแค้น ที่อยากจะชุมนุม ก็ต้องปล่อยไปตามกรรม    

                ใครกลัวตายเพราะไม่มีประชาธิปไตย แต่ไม่กลัวตายเพราะโควิด-๑๙ ก็เรียงหน้าชุมนุมได้ และควรรักษาระยะห่างกันสักนิด

                ไม่งั้นมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อแบบกลุ่ม อย่างที่เคยเกิดในสนามมวยและผับย่านทองหล่อ

                ก็ถือซะว่า เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"