ชฎาทิพ จูตระกูล จากวิกฤติสู่บทเรียนพัฒนารีเทลโมเดลใหม่


เพิ่มเพื่อน    

(ชฎาทิพ จูตระกูล)


    สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไม่ใช่เพียงแค่มีผลต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่หากยังมีผลกระทบต่อสุขภาพของเศรษฐกิจทั่วโลกด้วยเช่นกัน การจะบริหารงานท่ามกลางวิกฤติครั้งใหญ่เช่นนี้ จึงนับว่ามีความสำคัญยิ่งต่อองค์กร โดย “ชฎาทิพ จูตระกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เป็นแม่ทัพที่ผ่านวิกฤตการณ์มาหลายครั้ง ซึ่งอาทิตย์เอกเขนกสัปดาห์นี้ อยากจะมาแชร์แนวคิดของหญิงแกร่งในวงการค้าปลีก ที่ต้องยอมรับว่าในตอนนี้เป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และกำลังเข้าสู่ “New Normal”


     “ในทุกครั้งที่เจอวิกฤติก็นับว่าเป็นบทเรียนที่ดี จากเหตุการณ์ในอดีตก็ต้องยอมรับว่าเรามีบทเรียนกว่าคนอื่น แต่ในขณะเดียวกันทุกครั้งที่ลุกได้ เราจะแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ตอนนี้มีเพื่อนที่มีวิกฤติทั่วโลก แต่คนที่ก้าวข้ามผ่านมา จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป” ชฎาทิพเริ่มกล่าว
    สำหรับสถานการณ์ที่ผ่านมา ชฎาทิพบอกว่า ความเร็วเป็นหัวใจหลักและจะต้องประเมินสถานการณ์รายวัน จึงต้องมีการสร้า Scenario เพราะเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจะรู้ว่าต้องใช้วีธีไหน ทำให้สามารถ Take action ได้เร็ว รวมถึงการสื่อสารไปยังผู้ที่เป็นหัวใจหลักของบริษัท เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กำลังใจ และให้ความหวัง ทั้งในส่วนของพนักงาน พันธมิตรคู่ค้า และลูกค้า


    พร้อมกันนี้ ยังมีการแบ่งทีมเพื่อบริหารงานด้านต่างๆ ได้แก่ 1.ทีมงานที่คอยติดต่อกับภายนอกโดยเฉพาะ มีผู้บริหารทีสามารถติดสนใจได้เร็ว 2.ทีมงานแก้ปัญหาในองค์กร โดยจะติดตามเหตุการณ์ในแต่ละวันว่ามีสิ่งไหนเกิดขึ้นบ้าง 3.ผู้บริหารและคนรุ่นใหม่หรือเรียกว่าเป็นเน็กซ์เจนฯ ลีดเดอร์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาปัจจุบัน แต่คิดไปข้างหน้าว่าหลังจากโควิด-19 จบแล้ว บริษัทจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป จำเป็นและเสนออะไรให้ลูกค้าบ้าง
    หนึ่งในพันธกิจของ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของโครงการไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังคงยึดมาตลอด 62 ปี และเตรียมเดินหน้าอย่างเข้มข้นมากขึ้นในเรื่องของการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) ด้วยการร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) และการสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Values) เพื่อสร้างความเท่าเทียมและสร้างประโยชน์ร่วมกันให้เกิดขึ้นในสังคมทุกระดับ


    “ในยุคนี้เราต้องไม่ใช่เรื่องของการเก่งคนเดียวอีกต่อไป ต้องเปิดใจรับฟังพันธมิตรคู่ค้า และการชนะใจลูกค้า คงไม่ใช่เรื่องการลดราคาอย่างเดียว แต่ยังต้องมี Emotional Engagement เป็นสิ่งที่ค้าปลีกยุคใหม่ต้องคำนึงถึง”
    จากนี้วิสัยทัศน์ New Beginning - New Smile ของสยามพิวรรธน์จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการทำศูนย์การค้า เพื่อความสุขและนำรอยยิ้มสยามกลับคืนมาสู่คนไทยอีกครั้ง ขณะเดียวกันจะเป็นโมเดลใหม่ของธุรกิจรีเทล เพื่อตอบสนองชีวิตวิถีใหม่ทางหนึ่งด้วย
    สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ได้กระตุ้นจิตสำนึกให้คนทั่วโลกให้ตระหนักถึงความสำคัญในแนวทางการดำรงชีวิตเพื่อความยั่งยืน จิตสำนึกเรื่องลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงมีแนวทางการทำธุรกิจรีเทลที่ตอบสนองดังกล่าว ได้แก่ 1.นำเสนอระบบนิเวศของธุรกิจค้าปลีก สร้างประโยชน์และคุณค่าให้เกิดขึ้นแก่ผู้ผลิตและผู้ซื้อร่วมกัน 2.นำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองชีวิตวิถีใหม่ โดย Ecotopia ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ บนพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร รวบรวมสินค้าเพื่อวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3.นำเสนอชีวิตวิถีใหม่อย่างมีสไตล์ โดยพลังของการ Co-Creation & Collaboration
    ขณะเดียวกันผู้บริโภคเกิดความคุ้นเคย และมีกลุ่มเป้าหมายที่สนใจช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น วันสยามและไอคอนสยาม มีช่องทางการช็อปปิ้งโดยใช้ดิจิทัล เทคโนโลยีพร้อมตอบสนองความต้องการการช็อปปิ้งในแบบ Omni Channel Shopping ที่การผสานการช็อปปิ้งระหว่าง On-line และ Off-line ควบคู่ไปกับมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ เพราะศูนย์การค้ายุคใหม่ต้องสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยและได้รับการดูแลเอาใจใส่ตลอดการใช้เวลาภายในศูนย์

    “ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า คงเป็นการพิสูจน์ว่าจะสามารถจัดการสภาพคล่องได้อย่างไร ยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะรอด บางรายอาจจะต้องปิดกิจการไปตั้งหลักก่อน มองว่าหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายอาจทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาสัก 30-40% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เราเองมีลูกค้ากลุ่มนี้มากถึง 30% และช่วงที่มีการเปิดศูนย์การค้าอีกครั้ง อาจมีคนเข้าใช้บริการหายไป 50% เพราะ social distancing จะยังคงอยู่”
    แม้จะมีปัจจัยลบค่อนข้างมาก แต่สยามพิวรรธน์เชื่อมั่นว่าการดำรงไว้ซึ่งทัศนคติเชิงบวก รักษาวินัยเพื่อชาติ ด้วยความรักความปรารถนาดีของคนไทยที่มีต่อกัน จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่เอาชนะทุกสิ่งได้สำเร็จ จะร่วมแรงร่วมใจกันกอบกู้ยิ้มสยามให้คืนมาสู่คนไทยทุกคน และนำพารอยยิ้มของคนทั้งโลกกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"