การเมืองไทยยุคสามก๊ก


เพิ่มเพื่อน    

 เมื่อถึงเดือนเมษาฯ...หนุ่มบ้านนา หรือบ้านอะไรก็แล้วแต่ ดูจะเริ่มฝันกันแบบเป็นเรื่อง เป็นราว หรือเป็นรูป เป็นร่าง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ บรรดากลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมือง ทั้งที่ยังเป็น วุ้น และที่เริ่ม จุติ หรือ ปฏิสนธิ ขึ้นมาบ้างแล้ว จึงเริ่มเห็นหัว เห็นหาง เห็นสายสะดือ ว่าจะต่อท่อน้ำเลี้ยงมาจากแหล่งใด หรือจากมดลูก ของผู้ใดกันแน่!!!
                                                                       -------------------------------------------------
    สำหรับพรรคเก่า พรรคแก่นั้น...คงแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะโดยแหล่งที่มา โดยทิศทางของสายสะดือ มันคงไม่ผิดแผก แตกต่างไปจากเดิมๆ ซักเท่าไหร่ อย่างมาก...ก็อาจมีการประยุกต์ ดัดแปลง กรรมวิธี หรือยุทธวิธี ให้ออกไปทาง ท้องนอกมดลูก เพื่อป้องกันแรงเสียดสี เสียดทาน อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่ไม่ว่าจะเป็น ประชาธิกัด หรือ เผาไทย ก็เถอะ โดยลักษณะพื้นฐานของโครงสร้าง ของความเป็นพรรค คงไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมๆ ซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะต่อหัว ต่อตัว หรือ เปลี่ยนหัว กันไปในรูปไหน ด้วยเหตุนี้...การจัดให้เป็นตัวยืน เป็น ก๊ก ที่โผล่ขึ้นในพงศาวดารการเมืองอยู่แล้วประมาณ 2 ก๊ก จึงไม่น่าจะเกินเลยไปจาก ข้อเท็จจริงทางการเมือง มากมายซักเท่าไหร่...
                                                                       --------------------------------------------------
    แต่สำหรับ ก๊กที่ 3 นี่แหละ...ที่คงต้องสืบเสาะ ตรวจเช็ก นั่งคลำสายสะดือกันพอสมควร ว่าจะเอาน้ำเลี้ยงมาจากช่องไหน แบบไหน แม้สุดท้าย...คงหนีไม่พ้นไปจาก สองเจริญ นั่นแหละ เนื่องจากความเจริญเติบโตของประเทศไทยทั้งประเทศ ตลอดช่วงไม่รู้กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ยังไงๆ...มันหนักไปทาง เจริญเหล้า กับ เจริญกับแกล้ม มาโดยตลอด และโดยการออกแบบ ดีไซน์ ระบบ จัดสรรปันส่วนผสม เอาไว้ก่อนล่วงหน้า แม้จะเป็นตัวเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้กับพรรคใหม่ๆ นักการเมืองหน้าใหม่ ตามโควตา 70,000 เสียงต่อ 1 เก้าอี้ในรัฐสภา แต่ถ้าหากพรรคใด หรือนักการเมืองรายใด ไม่มีขีดความสามารถพอที่จะ ปูพรม กันได้แบบทั่วทั้งประเทศ หรือทั่วทุกเขตเลือกตั้ง โอกาสที่จะ นอนมา โดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า ก็ใช่ว่าจะง่ายดายปานปอกกล้วยกันซะเมื่อไหร่...
                                                                        ----------------------------------------------
    หรือพูดง่ายๆ ว่า...เรื่องของ เงิน หรือเรื่องของ ท่อน้ำเลี้ยง ยังไงๆ...คงต้องมีความสำคัญแบบเดิมๆ อยู่อีกนั่นแหละ โอกาสที่จะเก็บเล็กผสมน้อย เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ในแบบที่เรียกว่า crowdfunding เอาไป-เอามา...คงเป็นได้แค่ความฝัน แค่อุดมคติแบบประเภท หนุ่มนารอนาง ของคุณพี่ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ อะไรประมาณนั้น คือแทนที่จะเป็น คราวด์ อาจหนักไปทาง ไอ้คร้าว ที่ถูก ฟันแล้วฟัน...แล้วชิ่ง มายเลิฟ ฟอร์ ยู ซะมากกว่า เพราะฉะนั้น...การโผล่ขึ้นมาของ ก๊กที่ 3 ไม่ว่าจะอยู่ในรูปไหน แบบไหน แบบ แยกกันเดินรวมกันตี แบบ แบกฆ้องให้เพื่อนตี หรือแบบ สามัคคีทุกฝ่ายทำลายตัวเอง ก็ตาม มันคงต้องขึ้นอยู่กับว่า เจริญเหล้า และ เจริญกับแกล้ม  เขาหวังจะเจริญไปในแนวไหน อย่างไร นั่นแล...
                                                                      ---------------------------------------------------
    แต่ถ้าหาก คนหนุ่ม ระดับอายุ 50 อย่างรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและรัฐมนตรีพาณิชย์ ลูกน้องมือซ้าย-มือขวา ของ ป๋าดัน หรือของรองนายกฯ สมคิด ท่านคิดจะเอาจริง เอาจัง กับการ ตั้งพรรค ตามคำร่ำลือชนิดที่พูดจากันให้แซ่ดไปทั้งบ้าน ทั้งเมือง จริงๆ แล้ว ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...รูปร่าง หน้าตา ของ ก๊กที่ 3 ก็พอเริ่มเห็นเค้า เห็นลาง อยู่บ้างตามสมควร คือไม่ว่าจะออกมาในลักษณะ รูปร่าง ยังไงก็แล้วแต่ แต่น่าจะกวาดคะแนนเสียงระดับ 70,000 ต่อเก้าอี้ ในเขตเลือกตั้งต่างๆ ได้อย่างเป็นเนื้อ เป็นหนัง มิใช่น้อย ไม่ว่าจะโดยพรรคพรรคเดียว หรือแยกย้ายกระจัดกระจายไปในหลายๆ พรรคก็ตาม และอาจทำให้สูตรการกลับมา อยู่ยาวว์ว์ว์ ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ไม่ถึงกับออกไปทาง สูตรเตี๋ยว มากมายเกินไปนัก โดยเฉพาะเมื่อนำไปบวกกับวุฒิสมาชิกจำนวนอีก 250 พระหน่อ ที่จะถือกำเนิดออกมาจากฝักถั่ว หรือจากกระบอกไม้ไผ่ อะไรทำนองนั้น...
                                                                    -------------------------------------------------------
    แต่ก็นั่นแหละ...ความหวาดเสียว ระดับลึกเข้าไปถึงรูตูด หรือจะแค่ปริ่มๆ อยู่แถวริดสีดวงทวาร อันนั้น...ก็คงขึ้นอยู่กับตัวของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ เอง อย่างมิอาจปฏิเสธได้ คือถ้าหากท่านสามารถควบคุม วาสนา ของตัวเอง ไม่ให้ชอบกระโดดดุ๊บๆ ไปตามท้องร่องแบบ พระสารีบุตร ไม่ว่าชาติปางก่อนท่านจะเสวยชาติเป็นอะไรมาก่อนก็ตาม อันนี้...ก็อาจจะ เสียว น้อยหน่อย แต่ถ้าหากท่านยังดุ๊บไป-ดุ๊บมา เผลอเมื่อไหร่...อดไม่ได้ที่คิดจะยกโพเดียมเอาไว้ทุ่มหัวใส่ใครต่อใครก็ตาม อันนี้...น่าจะลำบากมิใช่น้อย สูตรแต่ละสูตรที่วางเอาไว้ซะดิบดี มันอาจต้องกลายเป็น สูตรเตี๋ยว ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้...
                                                                    ---------------------------------------------------------
    โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้มี มาตราฉี่ฉิบฉี่ อยู่ในมือ ไม่ได้มีสภาวะแวดล้อมแบบ ถูกครับพี่-ดีครับผม-เหมาะสมครับนาย รายรอบไปโดยตลอด แต่กลับเต็มไปด้วยเสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-สมเสร็จ-กระซู่ ซึ่งล้วนแต่เกล็ดแตกลายงาพอๆ กับกระเบื้องราชวงศ์ถังไปด้วยกันทั้งสิ้น แถมบางรายยังพ่นไฟได้ด้วยซะอีกต่างหาก อันนี้นี่แหละ...ที่มันอาจรากเลือด รากแตก รากแตน ขึ้นมาได้ง่ายๆ อย่างที่มังกือการเมือง อย่าง ป๋าเหนาะ ท่านได้เตือนเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้...ความหมายของคำว่า คนกลาง หรือ นายกฯ คนกลาง ที่เคยแปลความ ตีความ เอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่าคงหนีไม่พ้นต้องเป็น บิ๊กตู่ เท่านั้น ไปๆ-มาๆ...อาจต้องส่งให้ราชบัณฑิตยสถานแปลความซะใหม่ เอาเลยก็ไม่แน่!!!
                                                                   --------------------------------------------------------
    ดังนั้น...ในก๊กแต่ละก๊ก ที่จะประกอบตัวขึ้นมาเป็น 3 ก๊ก ในพงศาวดารการเมืองไทย ณ อนาคตเบื้องหน้า จึงเป็นอะไรที่ออกจะ ดิ้นได้ อยู่พอสมควรเหมือนกัน คือจะไปสรุปว่า...เป็น ก๊กโจโฉ, ก๊กซุนกวน หรือ ก๊กเล่าปี่ ก็อาจรวบรัดเกินไปหน่อย เพราะถ้าหาก ก๊กเล่าปี่ ดันกลายเป็นแค่ ก๊กเล่าเสี้ยน หรือ ก๊กของอาเต๊า ที่เป็นเพียงลูกชายของ เล่าปี่ ขึ้นมาซะแล้ว ต่อให้มีพระอาจารย์อย่าง ขงเบ้ง หรือ หมงเท่ง ยืนหยัด เคียงข้างกาย โอกาสที่จะ เสร็จโจโฉ หรือ เสร็จโจผี ย่อมเป็นไปได้ทุกเมื่อ...
                                                                 ---------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Frederick B. Wilcox (อีกครั้ง)... People who emphatically protest that they are putting all their cards on the table usually put them there face down.-ผู้ที่ยืนยันอย่างแข็งขัน ว่าเขาวางไพ่ไว้บนโต๊ะหมดแล้วนั้น มักวางโดยคว่ำหน้าไพ่เอาไว้ซะเป็นหลัก...
                                                                  ---------------------------------------------------------
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"