'ทิศทางเศรษฐกิจ' และ 'การฟื้นฟู'


เพิ่มเพื่อน    

      ช่วงระหว่างนี้...อาจต้องเรียกว่าช่วง เยียวยา สำหรับการบรรเทา เบาบาง ความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ ที่ต้องไปกู้เงิน ควานหาเม็ดเงิน ระดับ 1.9 ล้านล้านบาท มาใช้ผ่อนคลายความทุกข์ยากลำบากของผู้คน ไม่ให้หนักหนา สาหัส เกินไปกว่านี้ ยังไม่ได้ถือเป็นช่วง ฟื้นฟู แบบที่เคยหวังตั้งเป้า ว่าจะให้โตเท่านั้น เท่านี้ ชนิดกะจะให้โตโยต้า ไดฮัทสุ นิสสัน อะไรไปโน่นเลย...

                                                                  -----------------------------------------------

      ดังนั้น...แม้จะกู้ แม้ถลกกระเป๋ากุงเกง ได้เม็ดเงินมาเป็นกระสอบๆ ถึง 1.9 ล้านล้านบาท แต่ก็อย่างที่ ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ท่านว่าเอาไว้นั่นแหละว่า ด้วยเม็ดเงินระดับนี้...ยังไงๆ มันคงไม่พอสำหรับการ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ อยู่แล้วแน่ๆ โดยเฉพาะถ้ากะหวัง ตั้งเป้า เอาไว้แบบเดิมๆ แบบเก่าๆ หรือแบบ Old Normal ทั้งหลาย หรือแบบกะจะโต 4 โต 5 ไปจนฝันแห้ง ฝันเปียก กะจะโตไปถึงเลข 2  หลัก แบบเมืองจีนเมื่อยุคทศวรรษที่แล้ว อันนี้...อาจต้องเตรียมควักกันในระดับ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์  ไม่ใช่ล้านล้านบาท ซึ่งก็ยังไม่รู้จะพอ-ไม่พอ หรือไม่ เพียงใด...

                                                                  --------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...ทั้งๆ ที่เมืองจีนทุกวันนี้ เขาเริ่ม New Normal กันมั่งแล้ว คือไม่คิดจะฝัน ไม่คิดจะโต ในระดับเลข 2 หลักแบบเดิมๆ อีกต่อไปแล้ว แค่โต 5 โต 6 ดูๆ เขาก็ออกจะพอใจ มั่นใจ ว่านี่ก็คือ  New Normal ของแท้ คือ ความปกติแบบใหม่ ที่ไม่ใช่แค่คำปลอบประโลมใจ หรือไม่ใช่การแก้ตัว เพราะความผิดพลาดในการบริหาร จัดการ ทางเศรษฐกิจ แบบที่ใครต่อใครคิดๆ ว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น  ส่วนจะจริง-ไม่จริง คงต้องไปใคร่ครวญ พิจารณา เอาเองก็แล้วกัน แต่ถ้ามองจากการชี้แนะ ชี้นำ ของผู้นำจีนยุคใหม่ อย่างท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ชี้เอาไว้ก่อนหน้าที่เศรษฐกิจจีนจะค่อยๆ ลดระดับการเติบโต และก่อนหน้าที่จะเกิดสถานการณ์ โควิด หลายต่อหลายปีมาแล้ว ที่เรียกๆ กันว่า หลักการ 4 ถ้วนทั่ว (Four Comprehensives) ความพยายามที่จะปรับตัว ปรับทิศทางเศรษฐกิจของจีน ให้เป็นไปในแบบ New Normal คงไม่ถึงกับเป็นแค่การแก้ตัว หรือการปลอบประโลมใจ ไปวันๆ แต่เพียงเท่านั้น...

                                                                        ------------------------------------------------

      เพราะถ้าไล่รายละเอียด ของสิ่งที่เรียกว่า หลักการ 4 ถ้วนทั่ว ออกมาเป็นข้อๆ ตั้งแต่ข้อแรก หรือข้อที่หนึ่ง ท่านประธานาธิบดี สี ทนได้ หรือ สี จิ้นผิง ท่านเริ่มด้วยคำชี้แนะ ชี้นำ ว่าด้วย การสร้างสังคมจีน ให้เป็นสังคมที่มีวิถีชีวิตแบบพอเพียง เอาไว้แต่ต้น แถมหลังๆ นี้...ยังไปไกลถึงขั้นคิดจะทำให้สังคมจีน ก้าวไปสู่ความเป็น อารยธรรมแห่งนิเวศ (Ecological Civilization) ซะอีกต่างหาก คือเป็นสังคมที่ต้องให้ค่า ให้ความสำคัญ ต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มากๆ เข้าไว้ ประเภทที่เคยปล่อยมลพิษ มลภาวะขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสูงที่สุดในโลกแบบก่อนๆ หรือแบบยุค เจียง เจ๋อหมิน ที่เปิดโอกาสให้ชนชั้น นายทุน เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ของชนชั้นกรรมาชีพ ได้แบบคล่องเนื้อ คล่องตัว คงต้องเลิกโดยเด็ดขาด!!!

                                                                             ----------------------------------------------

      ส่วนข้อที่สองนั้น...ว่าด้วย การปรับปรุงแนวคิด วิธีคิด รวมทั้งพฤติกรรมในเชิงปฏิบัติของประชาชน หรือการหาทางเปลี่ยนอุปนิสัย วาสนา และสันดานของผู้คน ที่ล้วนถูก ทุนนิยม แปรสภาพให้กลายเป็น ผู้บริโภคสากล ชนิดกินแหลก ใช้แหลก กันไปทั่วทั้งโลกจนตราบเท่าทุกวันนี้นั่นแหละ ส่วนข้อที่สาม ข้อที่สี่ ก็หนักไปทางการเน้นย้ำถึงความซื่อสัตย์ สุจริต โดยไม่คิดลูบหน้าปะจมูกใครก็ตามที่ทุจริต ประพฤติมิชอบ ไม่ว่าพยัคฆ์หรือแมลงวัน ไปจนถึงการเข้มงวดต่อวินัยแห่งชนชั้นกรรมาชีพ หรือต่อความเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน แบบไม่ให้เปลี่ยนสี แปรธาตุ เอาง่ายๆ...

                                                                               ------------------------------------------------

      ส่วนประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮานั้น...ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ทนไม่ค่อยจะได้ ท่านจะคิดชี้แนะ ชี้นำ ใครๆ ในแบบไหน อย่างไร คงต้องถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่แล้วแต่จะว่ากันไป เพราะเท่าที่ท่านเคยชี้ๆ เอาไว้ใน คุณธรรม 12 ประการ ต้องถือว่า ดีทุกอย่าง เพียงแต่ เสียอย่างเดียว ที่มันยังไม่คิดจะไปไหน หรือยังไม่มีใครคิดเอาไปปฏิบัติให้เป็นจริง เป็นจัง เอาจริง เอาจัง แม้แต่คนในรัฐบาล หรือคนที่อยู่รายรอบท่านนายกฯ บางคน บางราย ก็ตามที ดังนั้น...หลังจากช่วง เยียวยา ผ่านพ้นไปบ้างแล้ว สิ่งที่น่าสนใจเอามากๆ ก็คือว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ สุดท้าย...ท่านจะลงมือ ฟื้นฟู เศรษฐกิจไปในแนวไหน ทิศทางไหน จะ Old Normal หรือ New Normal กันในแบบไหน อย่างไร???

                                                                                  ---------------------------------------------------

      คือถ้าหากท่านยังติดอก-ติดใจ กับประเภทรถไฟหัวกระสุน รถไฟฟ้าใต้ดิน บนดิน ก่ายกันไป ก่ายกันมาเป็นแมงมุมยักษ์ มุดทะเล เจาะภูเขา อีอีซง อีอีซี ฮับโน่น ฮับนี่ ฯลฯ อันนี้...ถึงจะ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ 1.9 ล้านล้านบาท ก็ไม่น่าจะพอ ไม่ว่าจะดี-ไม่ดี น่าซู้ดซ้าด-ไม่น่าซู้ดซ้าด หรือไม่ เพียงใด ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากท่านหันมาให้ความสนใจกับ การหาที่ให้น้ำอยู่ หาที่ให้น้ำไหล เก็บน้ำใต้ดิน ให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ อย่างที่รัฐมนตรีบางรายในรัฐบาลของท่าน กำลังหาทาง New Normal โดยอาศัย เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทาง เป็นเครื่องชี้แนะ ชี้นำ แบบจริงๆ จังๆ ความมั่นคง ยั่งยืน ของชนบท ที่ได้รับการเนรมิตสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ น่าจะเป็นตัวรองรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ประหยัด มีเหตุมีผล สอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมไทยและสังคมโลก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างหนีไม่พ้นต้อง New  Normal หรือต้อง พอเพียง นับแต่นี้เป็นต้นไป...

                                                                                -----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Gulzarilal Nanda...“Simple living will automatically prevent  corruption. The less the need, the lesser the need for money. - การกินอยู่อย่างง่ายๆ จะช่วยป้องกันการทุจริตได้โดยอัตโนมัติ ด้วยเหตุเพราะความต้องการมีน้อยเท่าใด ความจำเป็นต้องหาเงิน ก็จะน้อยลงไปเท่านั้น...”

                                                                                     ---------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"