อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น!
    ถ้าเคยได้ยินปรัชญา "กระถาง ๓ ขา" ก็พอจะมองออกว่า แผ่นดินไหวขนาด ๙.๐ ในพรรคพลังประชารัฐอาจเป็นการเขย่าให้เนื้อผลไม้กับน้ำแข็งเป็นเนื้อเดียวกัน
    กลายเป็นน้ำผลไม้ปั่นหวานชื่นใจก็เป็นได้ 
    แต่ในเมื่อใครๆ ก็เชื่อว่านี่คือความขัดแย้งขั้นรุนแรง ต้องมีคนอยู่และคนไป 
    และอาจถึงขั้นเสร็จนาฆ่าโคถึก ก็คงต้องสืบสาวราวเรื่องกันหน่อย แต่...อย่าลืม ณ ช่วงเวลาเช่นนี้  กระถาง ๒ ขาไม่มีทางยืนอยู่ได้ 
    ตรวจสอบอาการ "ลุงตู่" แล้วยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก    
    "เป็นธรรมดาของพรรคเขาที่จะมีการปรับคณะกรรมการบริหารพรรค ก็เรื่องของเขา เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ 
    ผมก็เห็นหลายพรรคเขาก็ปรับกรรมการบริหารพรรคมาตลอด 
    ครั้งนี้ก็อย่าลืมว่าเขาจัดตั้งมาก่อนเลือกตั้ง มันก็นานพอสมควรแล้ว 
    ก็เป็นเรื่องของเขาที่จะพิจารณาต่างๆ"
    เหมือน "ลุงตู่" รับรู้มาตลอดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และไม่มีท่าทีจะคัดค้าน
    ดูเหมือนจะส่งเสริมด้วยซ้ำ 
    ยิ่งชัดเจนไปกว่านั้น เมื่อคนที่ถือหนังสือลาออกของกรรมการบริหารพรรคทั้ง ๑๘ คนคือ "ไพบูลย์  นิติตะวัน" ที่ได้ชื่อว่าเชียร์ลุงตู่สุดลิ่มทิ่มประตู
    เมื่อพิจารณาตรรกะง่ายๆ ๓ ป. ประวิตร ประยุทธ์ ป๊อก พี่น้องที่โตตามกันมาอย่างน้อยๆ ก็ ๔๐ ปี  มีหรือที่จะแตกคอกัน
    สามารถสรุปได้หรือไม่ว่าทั้งหมดนี้คือความต้องการของ "๓ ป." 
    แล้วทำเพื่ออะไร เพราะคนภายนอกด่ากันขรม ส.ส.สันดานเสีย สร้างปัญหาในขณะที่ประชาชนอยู่ในช่วงหวาดผวาโควิด-๑๙ 
    แทนที่จะช่วย "ลุงตู่" แก้ปัญหา กลับเอาแต่แย่งชามข้าว
     หากไปดูท่าที "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" พบว่าต่างไปจาก "ลุงตู่" อย่างสิ้นเชิง
    "เป็นเรื่องภายในพรรคที่พี่ๆ น้องๆ จะต้องไปนั่งคุยกัน น่าเสียดายน่าจะเอาพลังไปใช้ในทิศทางที่ช่วยแก้ปัญหาบ้านเมืองมากกว่า อยากให้พูดคุยกัน"
    "วันข้างหน้ายังมีอุปสรรคอีกเยอะ อยากให้คิดถึงตรงนี้ให้มากๆ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรกัน"
    "สมคิด" พูดแบบที่คนนอกเข้าใจกัน 
    แต่อย่าลืมว่าเกมที่ ส.ส.เดินมาตั้งแต่ต้นคือ ส่ง "บิ๊กป้อม" นั่งหัวหน้าพรรค 
    และเกมมันออกมาตรงที่ ๑๘ กรรมการบริหารพรรคลาออก เพื่อเลือกชุดใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ 
    ที่อาจเป็นคนเดิม หรือคนใหม่ก็ได้ 
    นี่คือเกมที่ซ่อนเงื่อน ขนาดคนในยังงง 
    ใช่เกมเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจหรือไม่ 
    หรือแค่เกมย้อนรอย ให้บรรดา ส.ส.ได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของชามข้าวตัวจริง 
    แต่ที่แน่ๆ ศูนย์กลางของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้อยู่ที่ "๓ ป." ไม่ใช่ " ๓ ส.".