ปิดรับสมัครกันไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา สำหรับการรับสมัคร ว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ ในส่วนของที่จะมาจากการคัดเลือกและเสนอชื่อโดยกรรมการสรรหาฯ กกต. ที่จะต้องส่งชื่อไปให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติเห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ 5 รายชื่อ ส่วนอีก 2 ชื่อ จะมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาส่งไป รวมกันเป็น 7 เสือว่าที่ กกต. ชุดใหม่ ทั้งนี้ มีบุคคลมาสมัครคัดเลือกเป็น กกต.จำนวนทั้งสิ้น 33 ชื่อ โดยกรรมการสรรหาฯ ที่มี ชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ต้องเลือกให้เหลือไม่เกิน 5 ชื่อ แต่ลำดับแรก กรรมการสรรหาฯ จะต้องส่งชื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครทุกคนโดยละเอียดเสียก่อนว่า ใครผ่าน-ใครไม่ผ่าน โดยเฉพาะประวัติการทำงาน ที่ต้องเป็นไปตาม รธน.และกฎหมายว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง

        สำหรับรายชื่อทั้งหมดที่มาสมัครในช่วง 26 มี.ค. - 9 เม.ย. 33 คน มีดังนี้ 1.พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีต ผวจ.บุรีรัมย์ 2.สมศักดิ์ ศิริสุนทร ทนายความ 3.ประหยัด เสนวิรัช นายกสมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค 4.ว่าที่ ร.ต.อำนวย อุปถัมถ์ ทนายความ 5.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี    6.น.ส.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย 7.ชัยศักดิ์ อ่อนประดิษฐ์ ทนายความ 8.ชัยวัธน์ ประจงใจ ทนายความ 9.ดุสิต พรหมสิทธิ์ ทนายความ

         10.ณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อดีตอธิบดี สำนักงานคดีอาญา 11.คณพล ปิ่นแก้ว อดีตปลัด อบจ.เชียงใหม่ 12.มังกร เจริญผล ทนายความ 13.ประวิง คชาชีวะ อดีตรองเลขาฯ กกต. 14.ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฎ ทนายความ 15.สมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร 16.จัตุรงค์ เสริมสุข ทนายความ 17.ธรรมพิเชียร นวลปาน ทนายความ 18.ไสว จิตเพียร ทนายความ 19.ศิริพงษ์ ห่านตระกูล อดีตอธิบดีกรมที่ดิน 20.อิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ

        21.ทองสุข ดวงบุปผา ประธานชมรมอาสาสมัครเพื่อสังคมจังหวัดเพชรบูรณ์ 22.นิทรารัตน์ แพทย์วงศ์ อดีตประธาน กกต. จ.สมุทรสงคราม 23.ปรีชา กันธิยะ อดีตปลัดกระทรวงวัฒนธรรม 24.สาธิต อุไรเวโรจนากร กรรมการกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 25.น.ส.นิษฐ์วดี จิรโรจน์ภิญโญ อาจารย์มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น 26.ธนน เวชกรกานนท์ อดีตผู้ว่าฯ นนทบุรี 27.จุลพงศ์ อยู่เกษ ทนายความ 29.สมพงษ์ สิงห์สมบุญ ทนายความ 30.ธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีต ผวจ. 31.วรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง 32.พล.ท.ศานิต สร้างสมวงษ์ อดีตตุลาการพระธรรมนูญ 33.ศิริพงษ์ เกี้ยวสกุล นายกสมาคมสมาพันธ์สภาองค์กรชุมชน

        จากภาพรวมจะเห็นได้ว่า รอบนี้ไร้ชื่อ คนดัง-บิ๊กเนม ซึ่งสาเหตุก็คงเพราะกฎหมายและกรรมการสรรหาฯ วางสเปก กกต.ไว้สูง และเชื่อได้ว่า 33 รายชื่อรอบนี้ มีความเป็นไปได้ที่หลายคนจะถูกตีตก เพราะคุณสมบัติไม่ผ่าน

        ประเด็นที่ต้องติดตามคือ หากสุดท้าย กรรมการสรรหาฯ เห็นว่า ผู้สมัครทั้งหมดยังไม่ ดี-เด่น-ดัง พอ ก็ต้องดูว่า กรรมการจะมีการออก เทียบเชิญ บุคคลที่ไม่ได้มาสมัคร ให้มาสมัครเป็น กกต.หรือไม่ ซึ่งถ้ากรรมการสรรหาฯ ใช้วิธีการดังกล่าวจริง ก็ต้องมีหลักประกันกับคนที่ได้เทียบเชิญว่า ถ้าเข้ามาแล้ว จะผ่านทั้งในชั้นกรรมการสรรหาฯ และ สนช.จะโหวตเห็นชอบ

       เพราะหากไม่มีหลักประกันดังกล่าว คนที่ได้รับเทียบเชิญ คงคิดหนักไม่น้อย เพราะย่อมไม่อยากถูก สนช.สอยร่วง แบบ 7 ว่าที่ กกต.รอบที่แล้ว.