ไทยพบผู้ป่วยรายใหม่8รายอยู่ในสถานกักตัว


เพิ่มเพื่อน    

7 มิ.ย. 2563 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 8 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐทั้งหมด ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันมาแล้ว 13 วัน ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสม 3,112 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 1 ราย ทำให้มียอดผู้หายป่วยสะสม 2,972 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 82 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดคงที่ 58 ราย ในส่วนของผู้ป่วยรายใหม่ 8 ราย ในจำนวนนี้มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  (ยูเออี) 5 ราย เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ยูเออีมาแล้วแต่ไม่พบเชื้อ แต่มาตรวจพบเชื้อที่ประเทศไทย ทุกรายไม่มีอาการ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน กทม. อีก 2 ราย เดินทางมาจากคูเวต เพศชาย อายุ 46 ปี และ 37 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ตรวจเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 27 พ.ค.แต่ไม่พบเชื้อ และตรวจอีกครั้งวันที่ 6 มิ.ย. พบว่าเป็นโควิด-19 โดยไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.สมุทรปราการ และอีก 1 ราย เดินทางกลับมาจากอินเดีย เพศชาย อายุ 52 ปี เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. มีการตรวจคัดกรองที่สนามบิน มีอาการไข้ ไอ พบเป็นโควิด-19 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.สมุทรปราการ

พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 6,974,721 ราย เสียชีวิต 402,904 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด รองลงมาคือ บราซิล และรัสเซีย ประเทศที่น่าห่วงคือ บราซิล เพราะมีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนอินเดียมีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันทะลุ 1 หมื่นราย อยู่อันดับ 6 ของโลก มีการคาดการณ์กันว่าในเร็ววันนี้อินเดียน่าจะขึ้นไปอยู่ใน 5 อันดับแรกของโลก ส่วนประเด็นที่น่าสนใจ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกนอกเคหสถาน เพราะเป็นหนึ่งในวิธีซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและแพร่เชื้อโรค ขณะที่จีน ทีมนักวิจัยของจีนในอู่ฮั่น มีผลงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูงมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้ไม่เป็นถึง 4 เท่า ส่วนที่ซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศปิดเมืองเจดดาห์ ซึ่งเป็นประตูสู่เมืองเมกกะอีกครั้ง หลังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศบค.มีการเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการและหลักปฏิบัติอย่างไรในการผ่อนคลายในระยะที่ 4 พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สำหรับมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 ที่จะมีการเปิดกิจการที่มีความเสี่ยง โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก กองถ่าย ผับ บาร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก เป็นสถานที่ปิด เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อได้มากนั้น ตอนนี้ต้องรอว่าจะมีมาตรการหลักและมาตรการรองอย่างไรบ้าง แต่ละกิจการจะมีมาตรการแตกต่างกันไป ต้องรอการสรุปจากที่ ศบค.ก่อน

เมื่อถามว่า ขณะนี้ไม่มีการติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 13 วัน หมายความว่าถ้าครบ 14 วัน ถือว่าปลอดภัยแล้วใช่หรือไม่ ประชาชนจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ตามหลักการของระบาดวิทยาและการสอบสวนโรค ปกติระยะฟักตัวของโควิด-19 อยู่ที่ 14 วัน แต่ระยะที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือสองเท่าของระยะฟักตัวคือ 28 วัน แต่ตอนนี้ 13 วัน ดังนั้น ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอยู่ ทั้งใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ช่วงนี้ถ้าจะเดินทางไปไหนต้องไปในพื้นที่มีคนน้อย เพื่อเลี่ยงความแออัด ย้ำว่าไม่ประมาท การ์ดอย่าตก


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"