ศุกร์ 13 ฝันหวาน!!!


เพิ่มเพื่อน    

      เห็นข่าวคราวว่าด้วยรายงานการประมาณการเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospect) ของธนาคารโลกช่วงล่าสุด หรือช่วงเมื่อวันจันทร์ (8 มิ.ย.) ที่ผ่านมานี่เอง ในเว็บไซต์ ผู้จัดการ ที่เขาได้หยิบมาเผยแพร่เอาไว้เมื่อวันวาน ต้องเรียกว่า...หนาวว์ว์ว์ยะเยือกก์ก์ก์จนต้องหรี่แอร์ ภายใต้ความร้อนชื้นของช่วงต้นฤดูฝนกันเลยทีเดียวเจียว...

                           --------------------------------------------------

      คืออะไรมันจะน่าขนลุกขนพอง ขนหัวตั้ง ขนแขนสแตนด์อัพเท่านี้ ย่อมไม่มีอีกแล้ว...เพราะภาพแห่งความฉิบหาย วายวอด อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส COVID-19 ที่ทำให้เกิด ภาวะช็อกอย่างรุนแรงและกะทันหัน ต่อเศรษฐกิจของโลกทั้งโลก ตามที่ธนาคารเขาได้ร่ายเรียงเป็นคำพูดเอาไว้ มันออกจะเป็นอะไรที่หนักหนา สาหัส ระดับสร้างความเสียหายในวงกว้างครั้งใหญ่ที่สุด ในรอบ 150 ปี หรือย้อนยุคกันไปถึงช่วงปี ค.ศ.1870 โน่นเลย หรือพูดง่ายๆ ว่า...หนักซะยิ่งกว่าปี ค.ศ.1930 ที่เคยถูกเรียกขานกันในนาม อภิมหาการถดถอยครั้งใหญ่ หรือ The Great Depression เอาเลยก็ว่าได้...

                                  ------------------------------------------------

      อีกทั้งจะก่อให้เกิด การทิ้งรอยแผลระยะยาวและการท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ตามข้อความที่รายงานได้สรุปเอาไว้ และจะทำให้ประชากรโลกไม่น้อยกว่า 70-100 ล้านคน ต้องตกอยู่ในสภาพ จนแบบสุดๆ หรือ จนฉิบหาย หรือ Extreme Poverty เอาเลยถึงขั้นนั้น คืออาจจะจนซะยิ่งกว่าเส้นมาตรฐานความยากจนของสหประชาชาติ ที่ยังถือว่าจนแบบธรรมดาๆ หรือยังไม่ถึงขั้น Extreme อะไรมากมายนัก และก็แน่ล่ะว่า...ย่อมเป็นไปในระดับโลกทั้งโลก หรือแทบไม่มีข้อยกเว้นให้กับสังคมหนึ่งสังคมใด แม้แต่สังคมประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย ที่คงหนีไม่พ้นต้องหันไปโยนภาระให้กับ พระสยามเทวาธิราช ท่านแบกไว้อีกจนได้ ทั้งที่ท่านก็เหนื่อยชนิดสายตัวแทบขาดมาโดยตลอด...

                            ---------------------------------------------------

      เพราะพูดง่ายๆ ว่า...แทบทุกประเทศทั่วทั้งโลก ยกเว้นประเทศคุณพี่จีนรายเดียวเท่านั้น ที่ยังคงพอประคับประคองตัวเลขจีดีพีให้พอโตๆ ต่อไปได้ แต่ก็น่าจะโตเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ขณะที่หัวขบวนรถจักรทุนนิยม อย่างคุณพ่ออเมริกา ตามการประมาณการของธนาคารโลก คาดไว้ว่าจะหัวทิ่มดินไปถึงประมาณ ติดลบ 6.1 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อย หรือต้องทำเงินหายไปจากระบบเศรษฐกิจไปแล้วไม่น้อยกว่า 15.7 ล้านล้านดอลลาร์ กี่ล้านล้านบาทก็ลองเอา 30 ไปคูณดู คนตกงาน ว่างงานไปแล้วไม่ต่ำกว่า 19-20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 30-40 ล้านคนเป็นอย่างน้อย แถมยังเจอกับโรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น เจอการประท้วง การลุกฮือ ทั่วทั้งประเทศ เรียกว่า...ถึงไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โตไปอีกนาน หรือคงส่งอะไรไปขายไม่ได้กันอีกเป็นปีๆ...

                               -------------------------------------------------

      ส่วนยุโรปทั้งยุโรปนั้น...ธนาคารโลกเขาประมาณการเอาไว้ว่า จะติดลบกันในระดับ ลบ 9.1 เปอร์เซ็นต์ จะขายข้าว ขายปลา ขายอะไรต่อมิอะไรก็ลำบากอีก ส่วนเครื่องยนต์เศรษฐกิจรายสำคัญอีกราย คือประเทศญี่ปุ่น ยุ่นปี่ น่าจะติดลบประมาณ 6.1 เปอร์เซ็นต์ แถมเผลอๆ โอกาสทำรายได้จากโอลิมปิก 2020 ที่ต้องเลื่อนไปเป็น 2021 อาจยังจัดไม่ได้หรือไม่ ประการใด ก็ยังมิอาจสรุปได้ ยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกาใต้ อย่างบราซิลนั้น ลบไปถึง 8 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างเม็กซิโก ลบไป 7.5 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงอินตะระเดีย อีนี่...ยังไงๆ แขกคงต้องติดลบไม่น้อยไปกว่า 3.5 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจยิ่งกว่านั้นก็ไม่แน่...นะนายจ๋า...

                     ----------------------------------------------

      สำหรับประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา...เห็นว่ายังคงเถียงๆ กันอยู่ว่าจะลบ 8 หรือลบ 9 ก็ยังไม่แน่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือคงต้องหัวทิ่มดิน ตกจากหอคอย่น อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ คือจากที่เคย ตั้งเป้า เอาไว้แต่แรก ว่าจะโตกันซัก 4 เปอร์เซ็นต์ 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดันต้องมาลบ 7 ลบ 8 หรือลบ 9 ก็ตามที โอกาสที่จะโชติช่วงชัชวาลเพราะอีอีซง อีอีซี เพราะบุญใหม่ที่เตรียมสร้างเอาไว้แทนที่บุญเก่า อย่างที่เคยหวังๆ กันเอาไว้ อาจต้องกลายเป็น บุญทิ้ง แทบไม่มีโอกาส บุญรอด หรือ บุญช่วย เอาเลยแม้แต่น้อย...

                             ---------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่เลยทำให้ต้องขนลุกขนพอง ขนหัวตั้ง ขนแขนสแตนด์อัพ ไปเป็นแถบๆ ไม่ต่างไปจากครั้งที่ต้องเจอกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในช่วงแรกๆ นั่นแหละทั่น แต่ด้วยเหตุเพราะประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา หรือเพราะพระบารมีของพระสยามเทวาธิราชก็แล้วแต่ ที่ยังดลบันดาลให้บ้านเรายังพอมี บุคลากรทางการแพทย์ ที่แข็งแกร่ง มุ่งมั่น อดทน และเสียสละ ดาหน้าออกมากันเป็นแผงๆ จัดกระบวนทัพ รับมือ กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นอย่างยิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยค่อยๆ คลี่คลายลงไปตามลำดับ...

                                   -------------------------------------------------

      แต่สำหรับการมาถึงของ วิกฤติเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 150 ปี นี่สิ!!! เมื่อหันไปเจอ บุคลากรทางการเมือง ที่กำลังจัดกระบวนทัพเตรียมรับมือ ล้างไม้ ล้างมือ และล้างปาก เพื่อรอกระซวกกระทรวงเศรษฐกิจรายสำคัญๆ ต่างๆ ยิ่งอดไม่ได้ที่จะต้องขนหัวลุกหนักยิ่งขึ้นไปใหญ่ คือถ้าหากเป็นประเภทอย่าง หมอ-ยง หมอแก้ว หมอพิเชษฐ์ ฯลฯ ที่ออกนำทัพรับมือกับ COVID-19 มาโดยตลอด อันนั้น...อาจพออุ่นอก อุ่นใจ ได้มั่ง แต่ถ้าหากต้องเป็นประเภท เรียงหิน ซีทีเอ็กซ์ ฯลฯ หรือแม้แต่ประเภท ป๋าดัน โดยลำพังล้วนๆ ก็เถอะ โอกาสที่ต้อง สยองขวัญ ยิ่งกว่าหนังเรื่อง ศุกร์ 13 ฝันหวาน ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                         -------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Harvey Mackay”... Decide what your priorities are and how much time you’ll spend on them. If you don’t, someone else will. – ตัดสินใจให้ตกว่าอะไรบ้างที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ และจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำสิ่งเหล่านั้น มิฉะนั้นผู้อื่นจะตัดสินให้...”.

            ----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"