เพื่อไทยร้าวหนัก!สาปส่ง'กลุ่มแคร์'พ้นพรรค


เพิ่มเพื่อน    

10 มิ.ย.2563 -  รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า ในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการพรรค มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค, พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรค และนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน  ร่วมทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีแกนนำพรรคและกลุ่ม ส.ส.ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางถึงกรณี แกนนำพรรคและสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคน เตรียมออกไปตั้งกลุ่มแคร์เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง

นายวัฒนา เมืองสุข กรรมการยุทธศาสตร์พรรคกล่าวในที่ประชุมว่า เมื่อมีข่าวพวกเราจะแยกไปตั้งกลุ่ม ก็ไม่แปลก เพราะถ้ารัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ เราจะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ถึงไม่ได้ก็ยังอยู่ แม้จะสอบตก จะยืนตรงนี้ เพราะตรงนี้คือบ้าน ไม่แปลกใจที่บางคนจะไป แต่ถ้าจะไปไม่ควรจะทำลายที่นี่ คำพูดที่บอกว่า ต้องออกไป เพราะว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นที่หวังของประชาชนเป็นคำพูดที่ใช้ไม่ได้ ถ้าเปรียบเป็นผัว-เมีย เมื่ออยู่ด้วยกันไม่ได้ก็แยกกันไป ไม่ใช่ปักหลักอยู่ในบ้านอย่างนี้ถือว่าเห็นแก่ตัว เมื่อยังอาศัยพรรคนี้ กลับมาสร้างความขัดแย้ง แล้วบอกว่าพรรคนี้ไม่ได้เป็นที่หวัง ไม่ได้เป็นโอกาสประชาชน มันย้อนแย้งคนที่จะออกไป ที่จะไปตั้งพรรค เมื่อไม่มีความศรัทธา เมื่อไม่มีความเชื่อมั่น ก็ควรจะไป

“ยังเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย เป็นที่หวังของประชาชน เราเป็นพรรคที่มีมาตรฐาน การต่อสู้ที่ผ่านมา เราทำได้ดี เป็นที่ยอมรับของประชาชน วันนี้อะไรก็แล้วแต่ ที่มีผลกระทบถึงพรรค ต้องกำจัดออก ตำแหน่งทางการเมือง ให้สงวนให้กับคนที่จะอยู่ที่นี่ ที่สำคัญ คนที่จะไปจากเรา คิดว่ามันขัดกัน ถ้าที่นี่โต ที่ๆ ไปก็ไม่โต ก็เป็นปกติ เขาคงไม่อยากเห็นที่นี่โต ที่ต้องพูด เพราะมี ส.ส.หลายคนก็อยากจะพูด แต่เพราะเขาเป็น ส.ส.เขตกลัวส่งผลกระทบ เลยมาพูดแทนให้ เพราะหลายคนถูกชาวบ้านถามว่า พรรคเพื่อไทยจะแตกหรือไม่ ซึ่งกระทบกระเทือนกับความเป็นส.ส.ของเขา”

เมื่อนายวัฒนาพูดจบนายสุทิน ชี้แจงกับที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ใครประสงค์จะพูดอีกก็พูดเลย พูดแล้วจะได้จบที่นี่ จบในห้องประชุมนี่แหละ

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม กล่าวว่า เรายังยืนหยัดอยู่ได้ เพราะประชาชนโอบอุ้มเรา ช่วงที่มีข่าวความขัดแย้ง ถ้าสมาชิกได้อ่านในไลน์ จะเห็นว่าได้โพสต์ข้อความให้เรารักสามัคคีกัน พรรคการเมืองคู่แข่งของเราที่รบกันอย่างหนัก ขอให้เรา ยืนอยู่บนภู ดูเขารบกัน ประเพณีหรือกติกาทางการเมือง พรรคที่ได้คะแนนเสียงมาก ควรได้รับโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่ถ้าเราแตกแบงก์พันกันไปมากๆ โอกาสที่จะได้เป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล จะยากขึ้น ครั้งที่แล้วขณะที่เขาจะสืบทอดอำนาจ เราจึงไม่มีโอกาสจะจัดตั้งรัฐบาล แต่ในโอกาสครั้งต่อไป คิดว่าโอกาสเรายังมีอยู่ การเลือกตั้งเชื่อว่าเรายังเป็นอันดับหนึ่ง คิดว่า ส.ส.เขต ไม่มีใครคิดจะออกไปจากพรรคเพื่อไทย การจะทำให้พรรคมั่นคงแข็งแกร่ง ต้องตั้งหลัก ตั้งสติให้ดี จะเดินงานการเมืองข้างหน้าอย่างถูกต้อง เป็นประเพณีที่ถูกต้อง สวยงาม ถ้าอยู่ที่นี่ต้องส่งเสริม สนับสนุนพรรคของเรา

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่เจ็บปวดมากที่สุด ฝ่ายเราที่จะออกไป มาบอกว่า ส.ส.อีสานหมดน้ำยา ขาดความร่มเย็นที่จะมาสร้างความเป็นสุขให้พี่น้องประชาชน ใครจะไปที่ไหน มาคุยให้ชัดเจนว่า ถ้าที่นี่อยู่ไม่ได้ จะไปสร้างพรรคใหม่ ขอให้ไปดี อย่าสร้างความเสียหายให้กับพวกผม พวกผมมีความหวังว่า วันข้างหน้าความสุขจะต้องกลับคืนมาให้ประชาชน โดยพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว

“แม้เราจะไปแก้รัฐธรรมนูญไม่ให้ ส.ว.มาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ แต่วิธีการที่จะทำอย่างไร จะไปหาที่มี ปาร์ตี้ลิสต์ คิดว่าคราวนี้ มันผิดพลาด แต่ผู้ใหญ่ที่ไปให้สัมภาษณ์ ล้วนแล้วแต่เคยอยู่ร่วมกันมา ถ้าเป็นแบบนี้ คนจะเข้าใจผิด คิดว่าพวกเราไม่ทุ่มเททำงาน ประชาชนจะสับสน เมื่ออยู่ไม่ได้ คนที่ออกไปแล้ว เช่น นายพิชัย นริพทะพันธ์ เราไม่ติดใจสักเท่าไหร่ แต่คนอื่นๆมาพูด มันเสียความรู้สึก วันนี้อยากจะเชิญให้ท่านมาพูดว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ จะได้ทำตัวทำใจให้เข้าใจกัน จะไปหรือจะอยู่ แล้วภาระที่ต้องไปประชุมกับตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาจเป็นภาระที่ทำความสับสนให้เกิดขึ้น ถ้าคนพูด ส.ส.ไม่เป็นโล้เป็นพาย เป็นที่พึ่งประชาชนไม่ได้ มันก็จบแล้ว นักการเมือง เวลาแบบนี้ พูดกันอย่างอื่นไม่ได้ ต้องแสดงความจริงใจว่าจะอยู่ จะไป ขอให้แสดงความจริงใจกับประชาชน”  

ขณะที่ ส.ส.อีกส่วนก็แสดงความคิดเห็นอยากให้คนในพรรคปรองดอง โดยนายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยู่กับพรรคมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ตั้งแต่ยุคท่านทักษิณ ตั้งพรรค ก็อยู่มาด้วยความอบอุ่น เมื่อมีข่าวเกิดขึ้น ส.ส.ต่างไม่สบายใจ รู้สึกว่าทำงานยากขึ้นเรื่อยๆ ข่าวที่เกิดขึ้น เราไม่สบายใจ อยากให้ประชาชนมองว่า เราเป็นที่พึ่งที่หวัง นำพรรคไปชนะ เวลานี้เขาเดือดร้อนมาก แต่ก็อดทนตลอด ทั้งหัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ ทำงานเพื่อพวกเรา ทำงานหนักมาโดยตลอด ส.ส.ก็ขอเป็นกำลังใจให้

นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนเลือกตั้ง ได้เสนอแนวความคิดขอให้พรรคสู้เลยส่งทั้ง 350 เขต ยังไงก็ได้ไม่ต่ำกว่า 210 เสียง ส่วนบัญชีรายชื่อ รอเป็นรัฐมนตรี เพราะเราได้เป็นรัฐบาลแน่นอน แต่จากนั้นก็มาแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย จุดเปลี่ยนการเมืองที่ผ่านมา อยู่ที่ ทษช. (ไทยรักษาชาติ) ถูกยุบ ไม่ว่าคนที่อยู่ที่นี่ หรืออยากไป เชื่อว่าเรายังเป็นเพื่อน เป็นมิตร เป็นคนที่เคยกินข้าวหม้อเดียวกันอยู่ ยังเชื่อว่า คนที่จะไปตั้งพรรคหรือพวกเราที่อยู่นี่ ยังรักการต่อสู้แนวทางประชาธิปไตย คงไม่มีใครย้ายไปฝั่งเผด็จการ ถ้ามีความจำเป็น ไปแล้วก็ต้องยังรักกันได้ ทำงานร่วมกันได้ การเมืองวันข้างหน้า ต้องเดินตามระบอบประชาธิปไตย ยังต้องอาศัยมือทั้งหลายในการมาจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้าดีที่สุด ไม่ต้องไป สู้ด้วยกัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

“ครั้งที่แล้วจุดเปลี่ยนของเราคือ ทษช.โดนยุบ แต่ไม่ว่าคนที่จะไปไม่ว่าจะเป็น ทษช.เดิมหรือจะมีไปตั้งกลุ่มใหม่ ไม่อยากให้เราไปมองหรือไปสาปส่งเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างประชาธิปไตยด้วยกัน ขอให้ใช้ปิยวาจา ให้คิดว่า สักวันหนึ่ง เลือกตั้งจบแล้ว คะแนนเราเยอะ รวมกันแล้วฝั่งประชาธิปไตยจับมือกันไว้ก็ยังได้เป็นรัฐบาล บริหารประเทศแน่นอน”

จากนั้นก็มีสมาชิกและส.ส.สลับลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นอีกระยะ ทำให้นายสมพงษ์ กล่าวขึ้นมาว่า ไม่สบายใจเมื่อมีคนมาพูดพรรคเพื่อไทยไม่สามารถเป็นที่คาดหวังประชาชนได้ ควรนำคำพูดนั้นมาเป็นพลัง ทำงานหนักลบคำสบประมาท หากตนและคุณหญิงสุดารัตน์ ผนึกกำลังก็จะขับเคลื่อนพรรคให้ประสบความสำเร็จได้ และขอให้คุณหญิงกับตนร่วมไปแถลงข่าวเพื่อชี้แจงกระแสข่าวต่างๆด้วยกัน

ทั้งนี้กลุ่มแคร์ เป็นกลุ่มที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้รวมตัวกับนายพงษ์ศักดิ์รักตพงศ์ไพศาล, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานกับนายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นตั้งแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"