ตอกย้ำปฏิรูปตำรวจเหลว Police Watch จี้นายกฯทบทวนรายงานชุด'บุญสร้าง'


เพิ่มเพื่อน    


 

10เม.ย.61 -ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ฝั่งก.พ. นายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ และนางสมศรี หาญอนันทสุข ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ(คป.ตร.) หรือ Police Watch ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านนายสาธิต สุทธิเสริม หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน เพื่อขอให้ทบทวนผลการดำเนินงานของคณะปฏิรูปตำรวจที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานฯ และเร่งปฏิรูปโครงสร้างองค์กรตำรวจในระยะเร่งด่วน พร้อมแนบแถลงการณ์ผลการตรวจการบ้าน1ปีปฏิรูปตำรวจ 

โดยนายบุญแทน กล่าวว่า ขอให้นายกฯทบทวนผลการดำเนินงานของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจและทำหนังสือสั่งการรัฐมนตรีว่าการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เร่งดำเนินการโอนตำรวจ 11 หน่วย ทั้งอำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน และสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี  รวมถึงขอให้นายกฯสั่งการรมว.มหาดไทย ออกกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์การสอบสวนความผิดอาญาโดยพนักงานสอบสวนกรุงเทพฯ ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 เดือน  เพื่อให้เจ้าพนักงานที่ผู้ว่าฯแต่งตั้งสามารถดำเนินการสอบสวน ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.ที่กรุงเทพฯรับผิดชอบจำนวน 28 ฉบับ  

นายบุญแทน กล่าวต่อว่า ขอให้ทำหนังสือสั่งการ ผบ.ตร.ให้ปฏิบัติตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2523  ซึ่งออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477   มาตรา 5  ที่กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอมีอำนาจตรวจสอบและควบคุมการสอบสวนคดีวิสามัญฆาตกรรม  คดีป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ  รวมทั้งคดีที่ประชาชนร้องขอความเป็นธรรมอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังขอให้สั่งเลขาธิการคณะกรรมกการกฤษฎีกาแก้ไขกฎหมาย ป.วิอาญาให้พนักงานอัยการมีอำนาจตรวจสอบควบคุมสอบสวนคดีอาญาในคดีสำคัญและคดีที่มีการร้องเรียนทุกคดี
----------
สำหรับจดหมายเปิดผนึกมีรายละเอียดดังนี้

                       เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ    (คป.ตร.)        
                                       Police  Watch
                         วันที่    10    เมษายน  2561
เรื่อง  ขอให้ทบททวนผลการดำเนินการของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจและเร่งปฏิรูปโครงสร้างองค์กรและระบบงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ลดความเดือดร้อนของประชาชนในระยะเร่งด่วน

สิ่งที่ส่งมาด้วย  แถลงการณ์ ผลการตรวจการบ้าน 1 ปี ปฏิรูปตำรวจ

กราบเรียน  ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา  หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรี

             ตามที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ)ที่ฯพณฯได้แต่งตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง. และ  260  โดยมี พลเอก บุญสร้าง  เนียมประดิษฐ์  เป็นประธานฯ  ได้สรุปแนวทางดำเนินการชี้แจงต่อประชาชนเมื่อวันพุธที่  28  มีนาคม   2561   ณ ห้องประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร   รวมทั้งได้ทำหนังสือรายงานต่อฯพณฯเพื่อพิจารณาดำเนินการนั้น


    เครือข่ายประชาชนเพื่อการปฏิรูปตำรวจ ได้มีการประชุมและเสวนาเรื่อง “ตรวจการบ้าน 1 ปี ปฏิรูปตำรวจ แก้ปัญหาประชาชนได้จริงหรือไม่?” เมื่อวันที่ 1เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีข้อสรุปว่า(ตามเอกสารแนบท้าย) ข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ทั้งหมดดังกล่าว ไม่ได้เป็นการปฏิรูปโครงสร้างองค์กรและระบบงานตำรวจที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริงแต่อย่างใด   ประเด็นดำเนินการยังคงเน้นการเพิ่มเงิน เพิ่มคนและอำนาจให้กับตำรวจเป็นส่วนใหญ่   ส่งผลให้รัฐต้องใช้จ่ายเงินงบประมาณเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น  อีกทั้งบางเรื่องก็เป็นการปรับปรุงการทำงานและบริหารงานบุคคลภายในตามปกติเท่านั้น   บางส่วนที่เป็นการปฏิรูป เช่น การโอนตำรวจ 11  หน่วยไปให้กระทรวงทบวงกรมที่มีหน้าที่ตามกฎหมายไปรับผิดชอบซึ่งเป็นมติของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558   ก็ไม่มีแผนดำเนินการที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว  รวมทั้งไม่ได้ดำเนินการตามที่ท่านได้เคยให้นโยบายไว้เมื่อวันที่      23พฤษภาคม 2560     ในส่วนที่เกี่ยวกับ  (1) การให้ตำรวจสังกัดจังหวัด  ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมีอำนาจตรวจสอบควบคุม   และข้อสั่งการของฯพณฯเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560  (2) การแยกงานสอบสวนออกจากตำรวจให้ชัดเจน ตามหนังสือเวียนของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมือวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 


    ดังนั้นเพื่อให้การปฏิรูปตำรวจสามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง จึงเรียนมายังฯพณฯเพื่อทบทวนผลการดำเนินงานของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจและโปรดทราบและพิจารณาสั่งการดังนี้


1.ให้ทำหนังสือสั่งการรัฐมนตรีว่าการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการโอนตำรวจ 11 หน่วยทั้งอาคาร  สถานที่  อำนาจหน้าที่  ทรัพย์สิน งบประมาณ และสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี 


2.สั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ออก  “กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์การสอบสวนความผิดอาญาโดยพนักงานสอบสวนกรุงเทพมหานคร”  ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน  เพื่อให้เจ้าพนักงานที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งสามารถดำเนินการสอบสวนส่งสำนวนให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.ที่กรุงเทพมหานคร รับผิดชอบจำนวน 28 ฉบับ  ซึ่งจะส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมายในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น   


3.ทำหนังสือสั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดังนี้
3.1 ให้ปฏิบัติตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2523  ซึ่งออกตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2477   มาตรา 5  ที่กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอมีอำนาจตรวจสอบและควบคุมการสอบสวนคดีวิสามัญฆาตกรรม  คดีป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ  รวมทั้งคดีที่ประชาชนร้องขอความเป็นธรรมอย่างเคร่งครัด
3.2  ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินการปรับวิธีการลงบันทึกประจำวันจากการเขียนด้วยลายมือให้เป็นการบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่งปี  


4.สั่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการ่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญาในส่วนที่สำคัญดังนี้  
4.1  ให้พนักงานอัยการมีอำนาจตรวจสอบควบคุมการสอบสวนคดีอาญาที่มีโทษ
จำคุกห้าปีขึ้นไป  คดีสำคัญ หรือคดีที่มีการร้องเรียนทุกคดี  โดยพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบมีหน้าที่รายงานให้พนักงานอัยการทราบทันทีในโอกาสแรกที่กระทำได้ พร้อมกับนายอำเภอสำหรับในส่วนภูมิภาคเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบหาพยานหลักฐานสนับสนุนการปฏิบัติงานของพนักงานอัยการรวมทั้งเพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยในอำเภอ
4.2  กำหนดให้การสอบปากคำบุคคลไม่ว่าจะในฐานะผู้เสียหาย  ผู้ต้องหา หรือ
พยานจะต้องกระทำในห้องที่จัดเฉพาะมีระบบบันทึกภาพและเสียงอัตโนมัติเก็บเป็นหลักฐานไว้ให้อัยการและศาลเรียกตรวจสอบได้เมื่อจำเป็นทุกคดี
4.3 กำหนดให้ตำแหน่งหัวหน้างานสอบสวนทุกสถานี เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนแทนหัวหน้าสถานีทุกแห่ง   มีอำนาจตรวจสอบควบคุมการสอบสวนของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบภายในสถานีปฏิบัติตามคำแนะนำหรือ คำสั่งของพนักงานอัยการ  และมีอำนาจส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งคดีได้


      จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการโดยเร็ว  ผลเป็นประการใด  ขอได้โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อจะได้แจ้งให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทราบต่อไป

                        ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
                              ( นางสมศรี  หาญอนันทสุข )
                 ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร.)  Police Watch
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"