ยิ่งกว่าเผาจริง! 'จตุพร' ชี้เปรี้ยงบัดนี้ความหิวโหยได้บุกมาถึงไทยที่ยกตัวเองเป็นครัวโลกอย่างไม่น่าเชื่อ


เพิ่มเพื่อน    

15 มิ.ย. 63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊คไลฟ์ PEACETALK โดยอ้างข้อมูลจากนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์จากมหาวิทยาลัยนิด้า กล่าวอ้างถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ประชุมสั่งการผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังเมื่อ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า วิกฤตเศรษฐกิจจะรุนแรงขึ้น มีคนตกงาน ว่างงานและขาดรายได้จำนวนมาก จึงสั่งการให้กระทรวงการคลังเตรียมตั้งโรงทาน ทุกอำเภอ โดยใช้เครือข่ายของธนาคารรัฐทุกแห่งช่วยเหลือให้ชาวบ้านได้ประทังความหิวโหยว่า เพิ่งเคยได้ยินที่จะให้ตั้งโรงทานทุกอำเภอ ขอเรียกร้องให้พูดความจริงทุกเรื่องกับประชาชน ถ้าประเมินสถานการณ์ผิดพลาดแล้ว จะรับมือไม่ได้เลย เมื่อมีการสะสมไว้ความเดือดร้อนก็ทวีคูณตามลำดับภาวะทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะรุนแรงมาก พยายามให้พูดความจริงกับประชาชน เมื่อประเทศต้องเดินไปสู่กระบวนการรัฐต้องแจกอาหารกันแล้วจากการคาดการณ์ของนายสมคิด ซึ่งไทยกำลังเดินไปสู่สิ่งที่ไม่เคยเจอ ในสถานการณ์โควิดนั้น ไทยอยู่อย่างยากลำบากเหลือเกิน ดังนั้นงบประมาณการฟื้นเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท หรืองบประมาณปี 2564 ประมาณ 3 ล้านล้านนั้น ต้องไม่คิดเรื่องอื่น แต่ควรมุ่งไปสู่การรักษาชีวิตคนไทย

“บัดนี้ความหิวโหยได้บุกมาถึงไทยที่ยกตัวเองเป็นครัวโลกอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งนี้จึงสะท้อนถึงภาพความจริงยิ่งกว่าการเผาจริง ดังนั้น ทุกสิ่งในขณะนี้ควรเตรียมการณ์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะไทยอิงกับโลก อีกทั้งต้องคิดใหม่ในสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน”นายจตุพร กล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า นักเศรษฐศาสตร์ ผู้ชำนาญด้านการเงิน การธนาคาร เคยชี้ไว้ว่า ประเทศไทยต้องทำอีกหลายมาตรการ บางมาตรการต้องฝืนใจทำ บางมาตรการยังสุ่มเสี่ยงให้เกิดอาการแบบประเทศเวเนซุเอลา ถ้าจัดการให้ล้นเกินความพอดี คนไทยขณะนี้อยู่กันอย่างยากลำบาก แล้วนำไปสู่ข้อสรุปว่า ปลายทางหนีโรงทานทั้งแผ่นดินกันไม่พ้น ถ้าจัดการงบฟื้นเศรษฐกิจ ประกอบกับงบประมาณปี 2564 ควรออกแบบการใช้เพื่อหยุดสร้างถนน สะพาน หรืออะไรไม่จำเป็นกับชีวิตต้องตัดออกหมด เพื่อใช้เศรษฐกิจตนเป็นที่พึ่งแห่งตนในประเทศ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ก่อนจะถึงช่วง 3-4 เดือนข้างหน้าตามการคาดของรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจนั้น แต่เดือน มิ.ย.นี้การเยียวยาสิ้นสุด จึงไม่รู้ชะตากรรมจะเป็นอย่างไร หากมีเงินเยียวยาเหลือ ควรดำเนินการอีกรอบหนึ่งดีหรือไม่ อย่างน้อยถ้าแย่จนถึงขั้นตั้งโรงทานนั้น หากสิ่งนี้หลีกเลี่ยงไม่พ้นก็ต้องปฎิบัติ ขณะนี้หลายส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและอ้อม ต่างต้องเตรียมการ รวมทั้งวัด จะทำอย่างไรกัน ในยามยากลำบากที่สุด ในสถานการณ์ของประเทศไปกันไกลแล้ว แต่ทางการเมืองกลับขัดแย้งกันเป็นเรื่องปกติ

หากมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ก็จะพอเบี่ยงเบนความหวังของคนได้บ้าง เพราะจะมีแรงสะพัดระดับหนึ่งในช่วงใกล้ฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งยังไม่รู้จะฟื้นอย่างไร หากคิดเพียงงบประมาณหมดแล้วจัดเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้ จึงเป็นข้ออ้างที่ฟังกันไม่ขึ้น ส่วนการเลือกตั้งระดับชาตินั้น ต้องคุยกติการัฐธรรมนูญ2560 กันใหม่ก่อนจะเกิดขึ้น แต่ส่วนท้องถิ่นนั้นมีความพร้อมมากกว่าจึงควรจัดเลือกตั้ง ขออย่าไปเลือกตั้งช่วงตั้งโรงทานจะเกิดวุ่นวายที่สุด การสั่งการของรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจให้ตั้งโรงทาน เท่ากับประเทศยากจะฟื้น แสดงว่างบฟื้นฟู เศรษฐกิจนั้น ถ้าฟื้นได้จริงจะเตรียมการให้ตั้งโรงทานหรือ จึงบอกถึงอาการหลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มีจริงๆสถานการณ์แบบนี้ เราต้องเตรียมการชีวิตมากมาย นอกจากการตั้งโรงทานแล้ว คนไทยต้องเตรียมใจอะไรกันบ้าง เพราะทุกอย่างจะล้มระเนระนาดกันไปหมด ซึ่งหนักกว่าวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ดังนั้น ทุกอย่างต้องพูดความจริง เพื่อนำพาให้ประเทศรอดพ้นไปได้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"