เอาแน่ ม.44อุ้ม ค่ายมือถือ 'วิษณุ'ร่างแนวทางวินวิน


เพิ่มเพื่อน    

   "ประยุทธ์" ยอมรับรู้เรื่อง “สมคิด” ตั้งพรรค แต่ยังไม่ทาบทาม แบะท่าหากพรรคใหม่มาชวนก็พร้อมพิจารณา เผยเตรียมนำผลงานรัฐบาลกว่า 500 หน้าเผยแพร่ในเว็บไซต์ ขณะที่โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ มอบ  "วิษณุ" ร่างคำสั่งมาตรา 44 อุ้ม 2 ค่ายมือถือยักษ์ อ้างแนวทางได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงความคืบหน้าการแถลงผลงานรัฐบาล 4 ปีว่า ความจริงก็อยากแถลง เพราะเหนื่อยแล้ว แถลงแล้วแถลงอีก บางทีก็ยังไม่รู้กันเลย เพราะคนเราต้องเข้าใจสัจธรรมของมนุษย์โลก อะไรที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองหรือสลับซับซ้อนก็ไม่ค่อยอยากจะรู้ แต่ก็ไม่ว่ากัน สำหรับเรื่องนี้กำลังพิจารณากันว่าจะแถลงด้วยตัวเองหรือแบบคณะเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ แต่ที่แน่นอนก็คือจะมีการทำลงเว็บไซต์ เพราะเอกสารมีทั้งหมดถึงกว่า 500 หน้า และรัฐบาลมุ่งหวังที่จะลดเอกสาร ลดการใช้กระดาษลง ดังนั้นจึงจะเอาลงเว็บไซต์ก่อน สงสัยอะไรก็ถามมา กรุณาช่วยอ่านหน่อย โดยเฉพาะสื่อ
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการตัดสินใจทางการเมือง หลังมีข่าวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สนับสนุนตั้งพรรคการเมืองและจะเชิญให้เป็นที่ปรึกษาพรรคว่า วันนี้เขาหารือกันอยู่ ก็ให้เขาหารือกันไป ก็ยังไม่เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น และถ้าเขาตั้งพรรคขึ้นมา วันข้างหน้าก็ต้องไปดูว่าพรรคไหนเป็นอย่างไร เราควรจะสนับสนุนหรือเปล่า หรือจะสนับสนุนพรรคไหนอย่างไร แต่วันนี้เขายังไม่มาเชิญสักคนเลย
    “เขาก็คุยกันอยู่ละมั้ง ผมเห็นเขาคุยกันอยู่ แต่เขายังไม่พูดอะไรกับผม และยังไม่มีการทาบทาม แต่ถ้ามีการทาบทาม ก็ต้องขอคิดดูก่อน ผมบอกแล้วว่าผมจะต้องพิจารณาใคร่ครวญอีกทีว่ามีความเหมาะสมหรือไม่  นโยบายของพรรคตรงกับที่ผมได้ทำมาแล้วหรือเปล่า มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงและดีขึ้นหรือไม่ เพราะถึงอย่างไรผมก็ต้องไปเลือกตั้งเหมือนกับคนอื่นเขาเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าพรรคนี้ดี ผมก็จะเลือกพรรคนี้ จะสนับสนุนพรรคไหนที่ดีแล้วเขามาขอให้ผมไปช่วยผมก็จะพิจารณา ส่วนจะดีหรือจะเสียผมก็ยังไม่รู้เลย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่จะมีการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ และจะเสนอให้เป็นที่ปรึกษาพรรค
    เมื่อถามว่า การที่พรรคการเมืองจะมาเชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษาพรรค จะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้รับ แล้วจะไปปฏิเสธได้อย่างไร ถึงวันนี้ยังไม่มีใครมาเชิญ และวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ว่าจะพูดคุยอะไรกันได้หรือเปล่า เพราะมีหลายพรรคก็บอกว่าจะไม่มาคุยแล้ว จะเลือกตั้งท่าเดียว เมื่อไม่มาคุยแล้วจะเลือกตั้งได้อย่างไร ต้องมาคุยกันก่อน
    นายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งก่อนการประชุม ครม.ว่า แม้บางคนจะบอกว่ารัฐบาลนี้มีมาตรา 44 แต่ถามว่า ม.44 นี้จะมีตลอดไปหรือ วันหน้าไม่คิดจะทำให้ได้อย่างที่ตนทำโดยไม่ใช้ ม.44 หรืออย่างไร ซึ่งเหล่านี้จะทำได้โดยมียุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งต้องพึ่งความร่วมมือของฝ่ายค้าน รัฐบาล หลักการของยุทธศาสตร์ชาติจะต้องเดินไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสร้างถนนหนทาง ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน จะต้องเห็นชอบในประโยชน์ของประชาชน รัฐบาลนี้ไม่ได้รับฟังมาจากนักการเมือง แต่เกิดจากการที่ได้ไปประชุมเอง และความต้องการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะเห็นว่าแผนงานโครงการลงไปในพื้นที่ค่อนข้างมาก โดยรัฐบาลได้พิจารณาจากการรับฟังความเห็นจากประชาชนผ่านกลไกประชารัฐ
    เช่นเดียวกับโครงการไทยนิยมยั่งยืน รัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อการเมือง แต่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถ โดยให้ประชาชนมีรายได้ที่เพียงพอ แต่สิ่งสำคัญคือมีปัญหาตรงที่ในแต่ละพื้นที่นั้น ลูกหลานได้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ของตัวเอง แล้วปล่อยให้คนแก่คนเฒ่าอยู่บ้าน รวมถึงปัญหาหนี้สิน ซึ่งหมักหมมมานาน มีการกู้ยืมเพื่อมาทำไร่ทำนา แม้รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถยกหนี้ให้ได้ แต่เราพยายามแก้ไขปัญหาทั้งระบบ จึงต้องเดินหน้าทำต่อไป
    “ใครก็ตามที่มีเจตนามาต่อว่ารัฐบาล หากเจตนาบริสุทธิ์มันก็ดูออก รวมถึงเจตนาไม่บริสุทธิ์เราก็ดูออก ดังนั้นผมจะสนในเจตนาที่บริสุทธิ์ เพื่อทบทวนและแก้ไขปัญหา ซึ่งผมไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ จึงต้องรับฟังความเห็นจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ถ้าส่วนราชการไม่ฟังประชาชน ทุกอย่างก็เดินหน้าไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    วันเดียวกัน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ในที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการพูดคุยเรื่องแก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัลและแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล เบื้องต้นที่ประชุม คสช.ได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะสามารถออกเป็นมาตรา 44 ได้ภายในสัปดาห์นี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ให้นโยบายว่า เรื่องใดที่สามารถออกเป็นมาตรา 44 ที่จะช่วยจัดการปัญหาได้ ก็ต้องออกมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องทีวีดิจิทัล 
    "ส่วนเรื่องค่ายโทรศัพท์มือถือนั้น ยังไม่พิจารณาออกมาตรา 44 นายกฯ ให้ดูใน 2 มิติคือ ต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการในระดับหนึ่ง เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ เพราะวงเงินค่อนข้างสูง อาจจะทำให้กระทบเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันรัฐต้องไม่เสียผลประโยชน์หรือกระทบกับสิ่งที่รัฐต้องได้รับ ส่วนแนวทางในการช่วยเหลือนั้น ตนไม่ทราบว่าในคำสั่งมาตรา 44 จะมีรายละเอียดตามที่เสนอพักชำระมาเท่านั้นหรือไม่ ที่เสนอมายังมีเรื่องยืดอายุด้วย ที่ประชุม คสช.ได้ให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ไปเรียบเรียงการออกคำสั่งตามมาตรา 44 แล้ว" พล.ท.สรรเสริญกล่าว และว่า สำหรับการออกมาตรา 44 เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์หาโฆษณาเองได้นั้น ที่ประชุม คสช.รับทราบแล้ว และคาดว่าจะออกมาตรา 44 มาพร้อมกับกรณีเรื่องทีวีดิจิทัล.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"