โอลด์ นอร์มอลทางการเมืองกับนิว นอร์มอลทางเศรษฐกิจ


เพิ่มเพื่อน    

        ถ้าดูจากบรรยากาศ การเมือง ในบ้านเราช่วงนี้...คงต้องยอมรับนั่นแหละว่า มันออกจะหนักไปทาง โอลด์ นอร์มอล เอาจริงๆ และไม่ใช่ โอลด์ กันแค่ย้อนยุค ย้อนอดีต ในระดับเป็นทศวรรษๆ เท่านั้น แต่อาจย้อนไปนับเป็นศตวรรษๆ หรือกลับไปสู่ยุคพระเจ้าเหายังใส่กางเกงหูรูด ยังเริ่มต้นพายเรือวนไป-วนมาอยู่ภายในอ่างประชาธิปไตย แบบไม่คิดจะไปไหนมาตั้งแต่ยุค 2475 เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

                                   --------------------------------------------------

        พูดง่ายๆ ว่า...ยังคง ทะเลาะกันไม่เลิก ยังคงแบ่งกลุ่ม แบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งมุ้ง แบ่งค่าย ไม่ว่าจะในซีกที่สังกัดพรรครัฐบาล หรือที่สังกัดฝ่ายค้านก็แล้วแต่ การไล่ฟัด ไล่กัด ไล่งับ ไล่กระทำ หัตถการ ตั้งแต่ช่วงต่ำกว่าเอวลงไป (บีบไข่) ของผู้ที่เป็นฝ่ายมัน ไม่ใช่ฝ่ายเรา เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ บทบาท อิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช อิทธิพลในลักษณะต่างๆ ออกจะเป็นอะไรที่มาแรง แซงโค้ง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดไม่ว่าพรรคเล็ก พรรคน้อย หรือพรรคใหญ่ ต่างปรากฏข่าวคราวทำนองนี้ ให้เห็นไปเป็นช่วง เป็นระยะ ล่าสุดกระทั่งพรรคที่มี ส.ส.อยู่ในระดับ หะมอยรอมแรม หรือมีไม่ถึง 5 คน 10 คน เคยป่าวประกาศถึงความหวัง ความปรารถนาและต้องการที่จะ ปฏิรูป ทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นจริง เป็นจัง ขึ้นมาให้จงได้ ก็ยังอดที่จะ โอลด์ นอร์มอล อดทะเลาะเบาะแว้งจนกลายเป็นข่าวคราวขึ้นมาอีกจนได้...

                                 -------------------------------------------------------

        ในขณะที่บรรยากาศความเป็นไปทาง เศรษฐกิจ นั้น...มันกำลังจะ นิว นอร์มอล กันชนิดแทบนึกภาพไม่ออก ว่ามันจะ นิว กันไปในระดับไหน เผลอๆ...อาจจะ นิว กันถึงระดับที่ระบบเศรษฐกิจหลักๆ อย่างระบบ ทุนนิยมเสรี ทั้งหลาย อาจเป็นอะไรที่ แอ็บนอร์มอล เอาเลยก็ไม่แน่!!! หรืออาจถึงขั้นต้องล้มละลาย พังทลาย กันไปเป็นแถบๆ ระบบการเงิน การทอง อาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนแปลงกันใหม่หมด ระบบการค้า การขาย อาจต้องหยุดชะงัก ต้องเกิดอาการดิสรัปถีบ ดิสรัปชัน ต้องย้อนกลับไปสู่สภาพ เงิน-ทองเป็นของมายา...ข้าว-ปลาเป็นของจริง หรือไม่ อย่างไร? ก็ยังมิอาจสรุปได้...

                              --------------------------------------------------------

        เพราะบรรดา เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ ของโลกทั้งโลกในทุกวันนี้...ไม่ว่าเครื่องไหนต่อเครื่องไหนก็เถอะ ถ้าหากไม่ออกไปทาง ดับสนิท ก็หนีไม่พ้นท่อน้ำมันอุดตัน ไม่ก็ชาร์จไฟไม่เข้าไปด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ยุโรป หรือประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างอินตะระเดีย บราซิล ฯลฯ ต่างก็อ้วกแตก อ้วกแตน ไปด้วยกันทั้งสิ้น เรียกว่า...ไม่เหลือเครื่องยนต์ใดๆ แม้แต่เครื่องเดียว ที่จะคอยช่วยชักลากขบวนรถไฟทางเศรฐกิจ หรือขบวนรถทุนนิยมทั้งหลาย ให้มีโอกาสขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว กันได้มั่ง เหลือแต่เครื่องยนต์ภายในของแต่ละประเทศ ที่จะต้องหันมาชาร์จไฟ หันมาทะลวงท่อน้ำมันอุดตันกันเอาเอง โดยจะด้วยวิธีไหน ต่อวิธีไหน ก็ยากที่จะสรุปได้ แต่ยังไงๆ...ก็คงหนีไม่พ้นต้อง พอเพียง เอาไว้ก่อนนั่นแหละเป็นหลัก...

                                -------------------------------------------------------

        โดยเฉพาะประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย...ที่เคยอาศัย การส่งออก และ การท่องเที่ยว เป็นเครื่องช่วยหายใจมาโดยตลอด จะสามารถประดิษฐ์ คิดค้น นวัตกรรมใหม่ๆ ในการส่งออก การชวนให้ใครต่อใครมาเที่ยว แบบที่ ป๋าเปลว สีเงิน ท่านได้นิรมิต สร้างสรรค์ ครีเอทีฟไอเดีย เอาไว้อย่างน่าตื่นตา ตื่นใจ เอามากๆ หรือจะหันมาอัดฉีดให้ ไทยเที่ยวไทย กันเอง ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างยังคงไม่ พอเพียง หรือยังไม่ พอกิน-พอใช้ ภาพจินตนาการถึงสิ่งใหม่ที่จะอุบัติขึ้นมา พร้อมกับความเป็นไปของภาวะเศรษฐกิจในวันข้างหน้า จึงออกจะเป็นอะไรที่น่าขนลุก ขนพอง น่าสยดสยองเอามากๆ...

                                  ------------------------------------------------------

        ด้วยเหตุนี้...ภายใต้สภาวะที่ การเมือง ยังคงเป็น โอลด์ นอร์มอล แต่ เศรษฐกิจ กำลังจะ นิว นอร์มอล ในระดับยากที่จะคาดการณ์ ยากจะจินตนาการ ได้ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที การจัดรูป จัดขบวนทัพ จัดแนวรบในการรับมือกับ ปัญหาเศรษฐกิจ จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจเอามากๆ เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นตัวให้คำตอบ คำอธิบาย ว่าผู้มีอำนาจทางการเมือง หรือ รัฐบาล จะเดินหน้า จะนำพาประเทศไทยไปในทิศทางไหนกันแน่ แต่ยังเป็นตัวที่สามารถนำไปใช้เป็นมาตรฐานในการคาด คำนวณ ว่าอนาคตของประเทศไทย จะเปลี่ยนไปในแนวไหน อย่างไร??? เปลี่ยนอยู่ในมือของฝ่ายเรา หรือฝ่ายมัน เปลี่ยนไปสู่ ยุคชาววิไล หรือ ยุคกระเบื้องเฟื่องฟูลอย-น้ำเต้าถอยจม อีกต่อไปหรือเปล่า???

                                  --------------------------------------------------

        อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องจับตากันเอาไว้อย่างชนิดต้องไม่กะพริบตา คือถ้าการจัดรูป จัดขบวนทัพ ยังหนีไม่พ้นต้องเป็นไปตาม ธรรมชาติทางการเมือง หรือ ข้อเท็จจริงทางการเมือง อันหนักไปทาง โอลด์ นอร์มอล อย่างมิอาจปฏิเสธได้แล้วล่ะก็ อันนั้นถึงค่อยหลับตา แบบไม่จำเป็นต้องคิดจะตื่นอะไรต่อไปอีก เพราะคงได้ หลับยาวว์ว์ว์ แบบไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ได้หลับตาพริ้มรอฟังเสียงบทสวดกุสลาธัมมา-อกุสลาธัมมา จนกว่าจะถูกแบก ถูกลาก ขึ้นไปบนเมรุ หรือหลับเพื่อรอการ เผา อย่างไม่มีโอกาสดิ้นรนใดๆ อีกต่อไป แต่ถ้าการจัดรูป จัดขบวนทัพ มันสามารถก้าวข้ามความ โอลด์ นอร์มอล ทางการเมือง ไปสู่การรองรับความ นิว นอร์มอล ในทางเศรษฐกิจ ได้อย่างสอดคล้อง กลมกลืน กันจริงๆ ก็ต้องถือเป็น โชคดีประเทศไทย ถือเป็นพระบารมีของ พระสยามเทวาธิราช โดยแท้!!!

                                  --------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Aesop’s Fables... “A humble life with Peace and Quiet is better than a splendid one with danger and risk. – ชีวิตที่เรียบง่าย อ่อนน้อม เพียบพร้อมด้วยสุขสันติ ย่อมดีกว่าชีวิตที่หรูหรา แต่เต็มไปด้วยภยันตรายและการเสี่ยง...”

                                   ---------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"