'อ.ไข่-นก บริพันธ์'ร่วมหารือ'อนุทิน ชาญวีรกูล'เพื่อคนบันเทิง


เพิ่มเพื่อน    

 

          เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล สมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึง พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือแทน

          ทั้งนี้ คณะสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย นายคฑาวุธ ทองไทย หรือ.ไข่ มาลีฮวนน่า ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมศิลป์หอไตร, นายบริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, นายกิตติ ปักษี หรือ โอบะ เสียงเหน่อ นายกสมาคมศิลปินตลก(ประเทศไทย), นายประยงค์ ชื่นเย็น ศิลปินแห่งชาติ และนายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, นางสุดา ชื่นบาน อุปนายกสมาคมดนตรีฯ, นายธเนส สุขวัฒน์ นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ผู้จัดคอนเสิร์ต, นายวรพจน์ นิ่มวิจิตร ตัวแทนศิลปิน ลิขสิทธิ์ และบริการดิจิตอล, นายวีรวัฒน์ รัตนะ เลขานุการสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย

 

 

          โดย นายคฑาวุธ ทองไทย หรือ.ไข่ มาลีฮวนน่า กล่าวว่า สมาพันธ์ฯ ขอให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยา สถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เนื่องจากการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และได้สั่งปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบอาชีพในสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ต้องหยุดงานเป็นจำนวนมาก จนถึงปัจจุบัน ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ ขาดเงินเลี้ยงชีพ เนื่องจากไม่มีอาชีพอื่นรองรับและไม่ได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ

          ดังนั้น ขอเรียกร้องมายัง นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ดังนี้ 1. ขอให้รัฐบาลเชื่อมั่นผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่ได้ตระหนัก และเตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับผู้ประกอบกิจการกิจกรรมอื่นๆ ที่ได้รับการผ่อนปรนไปก่อนหน้านี้  2.ทบทวนการสนับสนุนเงินเยียวยาเพื่อให้กลุ่มคนบันเทิงได้รับสิทธิเยียวยา หรือมีมาตรการอื่นในการช่วยเหลือ 3.รัฐบาลควรสนับสนุนเงินทุนให้กับคนบันเทิงให้สามารถกู้เงินไปสร้างงานอื่น หรือฟื้นฟูกิจการ แบบปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำ

          ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี เมื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกฯ เห็นใจคนบันเทิง หลังจากนี้ทางสมาพันธ์ฯ จะนัดประชุม เพื่อวางแนวทางการทำงานให้เป็นระบบตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อ

          “วันนี้พวกเรารวมสมาคมคนบันเทิงอาชีพ ที่เป็นวงโซ่ของคนบันเทิง อย่าง สมาคมลูกทุ่งฯ สมาคมตลกฯ สมาคมดนตรีฯ วันนี้ที่มาเป็นสมาคมหลักๆ ประมาณ 8-9 สมาคม เพราะจริงๆ มีทั้งหมด 100 กว่าสมาคม วันนี้ก็มารวมกันในนามสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย มายื่นหนังสือถึงท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้รองนายกรัฐมนตรี ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลเรื่องโควิด-19 เป็นผู้รับหนังสือแทน วัตถุประสงค์ที่มายื่นหนังสือในครั้งนี้ก็เพื่อ 1.มาเพื่ออธิบายรายละเอียดของคนบันเทิงอาชีพที่ประสบปัญหา 2.เราขอมาร่วมกันเป็นคนที่มาให้ข้อมูลตรงในส่วนของอาชีพเราร่วมกับทางฝ่ายบริหาร เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง ที่จะช่วยกันป้องกันโควิด-19 ด้วย และนำไปใช้ในการประกอบกิจการได้ด้วย

 

 

          หลังจากที่ได้เข้าพบท่านรองนายกฯ ท่านยืนยันและเห็นใจคนบันเทิงทั้งหมด ในขณะเดียวกันพวกเราก็มีโมเดลที่จะนำเสนอในทางปฏิบัติในวาระต่อไป ซึ่งท่านรับข้อเสนอทุกข้อครับ วันนี้เป็นครั้งแรกที่สมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทยได้เข้ามาพบ หลังจากได้ฟังข้อมูลจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายบริหารแล้ว ตอนนี้เรารู้ข้อมูลทั้งหมดแล้วว่ามีอะไรบ้าง หลังจากนี้พวกเราจะนัดประชุมกันในกลุ่มคนบันเทิงของพวกเราในนามสมาพันธ์ฯ ทั้งนี้เรื่องที่พวกเราต้องกลับไปคุยกัน มีด้วยกัน 3 ส่วน 1.ผู้ชม 2.สถานประกอบการ 3.ศิลปิน และในส่วนของทางกรมควบคุมโรค ถ้าเราสามารถปฏิบัติได้จริง แล้วทุกอย่างขับเคลื่อนไปตามลักษณะของการควบคุมโรค นับเวลาจากนี้ 1 สัปดาห์ 3 สัปดาห์ และ 1 เดือน ไปตลอด ถ้าเราทำให้ระบบแข็งแรงทั้งหมดได้ ความมั่นใจทั้งจากฝ่ายบริหารและพวกเราก็จะเดินไปในทิศทางเดียวกันครับ

          ด้าน นายบริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ดีขึ้นมาก ศบค. ได้มีมาตรการผ่อนคลายให้แก่หลายกิจการกิจกรรม เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาประกอบอาชีพและดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ และมีการป้องกันอย่างรัดกุมตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข แม้ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 ศบค.มีมติอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ได้แล้วก็ตาม แต่เป็นไปในลักษณะของการไม่เชื่อมั่นว่าจะปลอดภัย เพราะยังเชื่อว่าเป็นกลุ่มสุ่มเสี่ยงในการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อีกครั้ง

 

 

          หลังจากมีการมาตรการผ่อนปรนให้กับส่วนต่างๆ แต่งานบันเทิงซึ่งมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอาชีพของพวกเราต้องอยู่กับคนจำนวนมาก จึงต้องพิจารณาเป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะจริงๆ แล้วถูกพิจารณามาตั้งแต่แรก แต่เนื่องจากอัตราเสี่ยงจากพวกเราสูงจึงต้องค่อยๆ ผ่อนปรน ฉะนั้นน่าจะเป็นกลุ่มหลังๆ ที่จะอนุญาตให้จัดคอนเสิร์ตได้ เนื่องจากต้องรอให้มียาวัคซีนก่อน เพราะฉะนั้นจะมีมาตรการเยียวยาหรือการผ่อนปรนอย่างไรให้ร้านค้าหรือสถานบันเทิง สามารถที่จะจ้างพวกเราไปเล่นได้ รวมถึงงานขนาดย่อมจะทำอย่างไร ซึ่งทางท่านรองนายกฯให้พวกเราร่วมกันส่งข้อมูล เพื่อทำให้การผ่อนปรนสามารถปฏิบัติได้จริง แล้วยังจะสามารถช่วยเหลือพี่น้องคนบันเทิงได้เป็นระบบมากขึ้น รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่อยู่ในวงการบันเทิงที่ไม่มีงานทำด้วย จะได้สามารถกลับมาทำงานได้ปกติ

          ครั้งนี้เรามองภาพรวมทั้งประเทศ ความตั้งใจที่เข้ามายื่นหนังสือถึงท่านนายกรัฐมนตรีก็คือว่า ทำแทนคนในอาชีพเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะนักร้องตามร้านอาหาร ตามผับ บาร์ แต่รวมไปถึงงานรถแห่ งานขนาดย่อม งานบวช งานแต่ง ระบบของการจัดการแสดงต่างๆ นักแสดงทุกแขนง รวมไปถึงแดนซ์เซอร์ หรือเจ้าหน้าที่ประกอบแสงสีเสียงต่างๆ ทุกคนล้วนแล้วแต่กำลังเดือดร้อน แน่นอนว่าเมื่อเห็นการผ่อนปรนของหลายๆ กลุ่มที่ผ่านมา แต่กลุ่มของเรายังไม่ได้รับการผ่อนปรน เราจึงต้องเข้ามาให้ข้อมูลว่าจริงๆ แล้วเราก็สามารถปฏิบัติตามมาตรการได้ สามารถที่จะรับจ้างได้ เพื่อให้คนที่ว่าจ้างมั่นใจ

 

 

          ปัจจุบันนี้แม้จะมีการผ่อนปรนแล้ว แต่ผู้ว่าจ้างยังไม่มั่นใจ เพราะการผ่อนปรนยังไม่รองรับความมั่นใจของผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจไม่จ้างดีกว่าเพราะถ้าจ้างไปแล้วจะมีกติกาเยอะ วันนี้เราจึงมามอบกติกาให้ท่านรองนายกฯว่าจะทำอย่างไร จากนี้ไปท่านรองนายกฯบอกว่าให้ร่วมกันหารือ ระหว่างผู้ที่ควบคุมโรคติดต่อ กับพวกเราที่เป็นผู้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดในประเทศ

ทั้งนี้อาชีพคนบันเทิง เป็นอาชีพของเศรษฐกิจสร้างสรรค์สร้างรายได้ให้ประเทศได้อย่างมาก เพราะสถานบันเทิง ผับ บาร์ มีคนอยู่ในวงจรประกอบอาชีพจำนวนมาก อาทิ นักร้อง นักดนตรี ตลก แม่ครัว เด็กเสิร์ฟ เด็กรับรถ ดังนั้นการผ่อนปรนให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ นอกจากจะทำให้คนในกลุ่มอาชีพดังกล่าวได้กลับมาประกอบอาชีพแล้ว ยังสร้างรายได้หมุนเวียนด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่สำคัญเราจะฝ่าวิกฤตช่วงนี้ไปด้วยกันครับ

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"